ใครที่กำลังหาแรงบันดาลใจลดความอ้วน มาอ่านเรื่องราวของเธอคนนี้กันเลย
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ Sara Fang สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
ลดความอ้วนด้วยวิธีการออกกำลังแบบเบสิก ๆ ภายในเวลาแค่ไม่ถึงปีก็สามารถทำให้สาวอ้วนทั้งหลายผอมลงได้ง่าย ๆ ค่ะ แต่สำหรับใครที่คิดว่าการลดน้ำหนักเป็นเรื่องยาก ลองมาอ่านเรื่องราวของเธอคนนี้ไว้เป็นแรงบันดาลใจกันเลยค่ะ
สำหรับสาวอ้วนคนไหนที่กำลังตั้งใจอยากจะลดความอ้วนอย่างจริงจัง แต่ออกกำลังกายเท่าไรน้ำหนักก็ยังไม่ลดลงอย่างที่หวังเอาไว้สักที จนหลายคนเริ่มท้อแท้และไม่อยากจะทำอีกต่อไปแล้ว อย่าเพิ่งหมดหวังนะคะสาว ๆ เชื่อว่าถ้าคุณตั้งใจทำอย่างจริงจังน้ำหนักของคุณจะต้องลดลงได้อย่างแน่นอน เหมือนกับสาวเคยอ้วนมากอย่างคุณ Sara Fang จากสมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอมคนนี้ที่เธอได้มาแชร์ประสบการณ์ลดความอ้วนอย่างจริงจัง จากที่เคยเป็นสาวอ้วนหนักเกือบ 100 กิโลกรัม ตอนนี้น้ำหนักของเธอลดลงเหลือเพียง 70 กว่ากิโลกรัม ภายในเวลาเพียงแค่ไม่ถึงปีเท่านั้นเองค่ะ
สำหรับจุดเริ่มต้นในการตั้งใจที่จะลดความอ้วนอย่างจริงจังของเธอเริ่มมาจากได้รับแรงบันดาลใจจากการติดตามชีวิตประจำวันของผู้หญิงคนหนึ่งผ่านทางโซเชียลมีเดีย ซึ่งเธอคนนั้นชอบอัพเดทการออกกำลังกายและโชว์สัดส่วนร่างกายที่สวยงามของเธอเป็นประจำ จึงทำให้เธอมีแรงฮึดขึ้นมาที่จะต้องออกกำลังกายอย่างจริงจังเสียที จนวันหนึ่งเธอได้ตัดสินใจไปที่ฟิตเนสและเริ่มออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ (คาร์ดิโอ หมายถึง การออกกำลังกายที่เน้นการเคลื่อนไหวของร่างกาย ส่งผลให้อัตราการเต้นของหัวใจเร็วขึ้น) แต่ก็ค้นพบว่าการออกกำลังด้วยวิธีนี้อย่างเดียวไม่ได้ทำให้น้ำหนักของเธอลดลงเลย จนกระทั่งเธอได้รับคำแนะนำดี ๆ จะเพื่อนของเธอว่าควรจะออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอควบคู่ไปกับการออกกำลังกายด้วยการเล่นเวทกับทุก ๆ ส่วนของร่างกาย ตั้งแต่ขา หน้าท้อง หลัง อก และแขน โดยเธอเริ่มทำอย่างนี้สัปดาห์ละ 5 วัน น้ำหนักของเธอลดลงเหลือเพียง 89 กิโลกรัม ภายในเวลาเพียงแค่ 1 เดือนครึ่งเท่านั้นเอง
และนี่จึงเป็นแนวทางที่เธอค้นพบวิธีลดความอ้วนอย่างได้ผล สุดท้ายเธอได้ยึดถือเป็นแนวออกกำลังกายมาโดยตลอด จึงทำให้ทุกวันนี้เธอเปลี่ยนไปเป็นคนใหม่และกลายเป็นผู้หญิงที่มีสัดส่วนน่ารักมากขึ้น น่าภูมิใจจริง ๆ ค่ะ สำหรับสาว ๆ คนไหนที่อยากรู้ว่าหนทางการลดน้ำหนักของเธอเป็นอย่างไรบ้าง ตามมาดูกันเลยจ้า
สำหรับกระทู้นี้เราตั้งขึ้นมาเพื่อแชร์ประสบการณ์และเล่าเรื่องราวความเป็นมาในการ "ลดความอ้วน" เพื่อเป็นการย้อนมองดูตัวเอง และแอบหวังลึก ๆ ว่า กระทู้นี้จะสามารถเป็นแรงบันดาลใจให้เพื่อน ๆ ได้ไม่มากก็น้อยนะคะ เราไม่เคยตั้งที่ไหนมาเลย หากมีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัย มา ณ ที่นี้ค่ะ
แนะนำตัวก่อน ปัจจุบันเราอายุ 22-23 ปีนะคะ ปัจจุบันก็กำลังศึกษา ป.ตรี อยู่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งค่ะ เริ่มเลยดีกว่า...
Then...
Now...
จุดเริ่มต้น
เริ่มต้นเมื่อไหร่
- แน่นอนว่าชื่อกระทู้ก็บอกแล้วว่า เกือบ 1 ปี ใช่ค่ะ เริ่มต้นวันแรกเลยคือวันนี้ อีก 3 เดือนจะครบ 1 ปี
เริ่มต้นอย่างไร
- เรื่องยาวนิดหนึ่งนะคะ กับจุดเริ่มต้น
ปกติเราเป็นคนที่ชอบเล่น Instragram Youtube Facebook มาก คือว่างก็ติดตามคนนู้นคนนี้ไปทั่ว จนเมื่อเราได้ไปจ๊ะเอ๋ ! กับ IG ฝรั่ง ซึ่งเป็น IG ที่เกี่ยวกับการออกกำลังกาย เธออัพรูปการออกกำลังกายที่บ้าน เธออัพรูปการไปยิมของเธอ ซึ่งพอเราเห็นแล้วเรารู้สึกว่า โอ้โห มัน Cool จังเลย เป็นผู้หญิงแบบมีกล้ามนิด ๆ แบบโอ้โหสวยชอบ Body งดงามมาก ชอบบบบบบบ บวกกับการที่เราตามพวกบล็อกเกอร์ในยูทูป แล้วเราชอบดูชีวิตประจำวันเขา วัน ๆ ทำอะไรบ้าง เขาก็ออกกำลังกายกันทู้กกกกวัน เห็นแล้วยิ่งมีแรงฮึดมากขึ้นไปอีก ชอบจังเลย Cool มากกกก จากนั้นเราก็เริ่มเสพติดการเสพสื่อจำพวกนี้ (นัยหนึ่งก็เหมือนการสะสมความรู้มาเรื่อย ๆ) แล้วจริง ๆ เราเริ่มเมื่อไหร่ล่ะ ?
"เช้าวันหนึ่งที่อากาศสดใส เราคิดในใจว่า ไม่ได้แล้ว อยากเป็นแบบนี้บ้าง เริ่มเลยดีกว่า "เริ่มวันนี้เลยดีกว่า" แล้วเย็นวันนั้นเราก็ไปฟิตเนสเลยค่ะ"
เราเริ่มไปฟิตเนสที่กระทรวงสาธารณสุข ด้วยราคาครั้งละ 20 บาท อุปกรณ์ก็โอเคค่ะใช้ได้เลย ก็มีเวทแมชชีนครบทุกส่วน ห้องแอร์ มีคนเล่นพอสมควร แต่พวกเครื่องวิ่ง เครื่องคาร์ดิโอมีไม่ค่อยพอ เสียซะส่วนใหญ่ ฮ่า ๆๆ เราล้มลุกคลุกคลานพอตัว เด๋อ ๆ ด๋า ๆ มาคนเดียวเล่นคนเดียว ก็ได้แค่วิ่ง ๆ ไป วิ่งบนลู่วิ่งประมาณ 45 นาที วิ่ง+เดินเร็วอย่างเดียวค่ะ ทำไปได้อาทิตย์หนึ่ง เริ่มเข้าใจว่าควรคุยกับคนอื่นบ้างนะ ฮ่า ๆๆๆ จากนั้นพอเริ่มอ้าปากเป็น ก็เริ่มเข้าใจวิธีการใช้เครื่องอื่น ๆ บ้าง เป็นความโชคดีของเราที่เราได้รู้จักเพื่อนที่เรียนวิทย์ฯ กีฬา แล้วเขามาฝึกงานพอดี เราเลยอยากรู้อะไรก็ถามค่ะ ถามจริงจัง เพื่อนก็พาไปเล่นแต่ละเครื่อง อย่างเช่น ขา ท้อง หลัง แขน และอธิบายถึงประโยชน์ที่ได้รับ (ซึ่งในที่นี้เราว่าทุกคนคงรู้กันมาบ้าง) จนเราเริ่มเข้าใจแล้วว่า "การคาร์ดิโออย่างเดียวมันไม่พอ"
อาทิตย์ต่อ ๆ มา เป็นเวลา 1 เดือนครึ่ง เราปฏิบัติอย่างเคร่งครัด คือการวอร์มร่างกาย 15-20 นาที แล้วก็เล่นเวทแมชชีนทุก ๆ ส่วน ขานอก/ใน ท้อง หลัง อก แขน ตามลำดับ เล่นน้ำหนักพอประมาณ เอาแค่พอรู้สึกปวด ๆ ล้า ๆ อย่างละ 15 ครั้ง 3 เซต ต่อด้วยคาร์ดิโออีก 30 นาที (บางวันก็ไม่คาร์ดิโอ) ช่วงนั้นเราไปฟิตเนส 1 อาทิตย์ไป 5 วัน หยุดเสาร์-อาทิตย์
น้ำหนักเราก่อนออกกำลังกาย ไม่ได้ถ่ายรูปไว้นะคะ แล้วก็ไม่ได้ชั่งเลย ประมาณล่าสุดก็ 93 กิโลกรัม ใช้เวลา 1 เดือนครึ่ง เหลือ 89.9 กิโลกรัม
รูปประมาณเดือน 9/2556
เราขอรวบยอดค่าไขมันมวลสารในร่างกายที่เราเคยวัดมาทั้งหมด และที่หาเจอตอนนี้นะคะ
ครั้งที่ 2 เดือน มกราคม 2557 น้ำหนัก 83.9 กิโลกรัม Fat 35.4 กิโลกรัม SMM 26.9 kg SMM = skeletal muscle mass
ครั้งที่ 3 เดือน กุมภาพันธ์ 2557 น้ำหนัก 83.1 กิโลกรัม Fat 30.6 กิโลกรัม SMM 29 กิโลกรัม
ครั้งที่ 4 เดือน มีนาคม 2557 น้ำหนัก 79.9 กิโลกรัม Fat 29 กิโลกรัม SMM 28.1 กิโลกรัม
และครั้งที่ 5 เดือน สิงหาคม 2557 น้ำหนัก 77.1 กิโลกรัม Fat 31 กิโลกรัม SMM 25.4 กิโลกรัม
*ค่าไขมันมวลสารในร่างกายอาจไม่ใช่ข้อเท็จจริง 100% นะคะ แต่อย่างน้อย ๆ เราก็ยึดเอาค่าเหล่านี้เป็นแนวทางการออกกำลังกายของเรา
ขอเล่านิดหนึ่งว่า ตลอดระยะเวลา 4 เดือน เราจริงจังกับการออกกำลังกายมาก และออกกำลังกายตามแนวทางเดิมเลยคะ คือการคาร์ดิโอ+เวททุก ๆ ส่วน เหมือนเดิมด้วยโปรแกรมวอร์มร่างกาย 15-20 นาที แล้วก็เล่นเวทแมชชีนทุก ๆ ส่วน ขานอก/ใน ท้อง หลัง อก แขน ตามลำดับ เล่นน้ำหนักพอประมาณ เอาแค่พอรู้สึกปวด ๆ ล้า ๆ อย่างละ 15 ครั้ง 3 เซต ต่อด้วยคาร์ดิโออีก 30 นาที (บางวันก็ไม่คาร์ดิโอ) 1 อาทิตย์ไป 5 วัน หยุดเสาร์-อาทิตย์ เป็นระยะเวลา 4 เดือน ผลก็คือ
การเปลี่ยนแปลงของเราอาจไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงที่ปุ๊บปั๊บอย่างเห็นได้ชัดในแต่ละเดือน ๆ และน้ำหนักของเราอาจยังมากอยู่ แต่เราไม่ได้โฟกัสที่ตัวเลข เพราะเราโฟกัสที่สัดส่วนมากกว่า ^ ^
ส่วนระยะเวลาตั้งแต่เดือนที่ 4-8 เราไม่ได้หายไปไหน เราก็ยังมีออกกำลังกายอยู่บ้าง เน้นว่าอยู่บ้าง แต่ไม่ใช่ทุกวัน ๆ เหมือนเช่นเคย เรายอมรับว่า เราไม่ค่อยได้เล่นเวทเหมือนเคย เราเอาแต่คาร์ดิโอกับเบิร์น (พอเริ่มรู้จักการเบิร์นก็เอาแต่เบิร์น ด้วยการควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจ) ก็ไม่ค่อยได้มีเรี่ยวเเรงในการกลับมาเวทอีกเลย นานทีปีหนจริง ๆ ซึ่งนั่นก็ส่งผลโดยตรงต่อการลดลงของกล้ามเนื้อ ซึ่งข้อเท็จจริงเราก็ไม่รู้เเน่ชัดนะคะ
*เราเริ่มจัดฟัน เพราะปัญหาฟันกรามในช่วงเดือนที่ 4 นะคะ เรื่องน้ำหนักลดลงเพราะเรื่องนี้ไหม ไม่ฟันธง เราเชื่อว่าทุกคนมีคำตอบเองอยู่แล้ว ส่วนตัวเรา ถ้าจัดฟันแล้วทานได้น้อย น้ำหนักลด อันนั้นไม่ใช่แน่นอน เราทานได้ปกติค่ะ
ไปดูรูปพัฒนาการกันดีกว่า
เรายังยืนยันว่าเราก็มีออกกำลังกาย แต่ไม่ได้สม่ำเสมอเหมือนเดิม ภาพอาจยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด แต่เมื่อเรามองย้อนกลับไปดูรูปแรก เรารู้สึกว่า "เรามาไกลเกินกว่าจะกลับแล้วนะ"
ส่วนในทุกวันนี้เราใช้ "โปรแกรมเดิม" ในการออกกำลังกายนะคะ แต่แยกเป็นวันเวทและวันคาร์ดิโอ
ในวันเวท เราจะวอร์มแล้วก็เวททุกส่วนของร่างกาย เริ่มจาก
1. ขา ด้านใน ด้านนอก ปรับน้ำหนัก ให้พอดีนะคะ เราเพิ่มขึ้นเดือนละ 1 แผ่น 15 ครั้ง 3 เซต
2. ท้อง ซิทอัพด้วยเครื่อง 15 ครั้ง 3 เซต
3. หลัง ด้วยเวทแมชชีน ปรับน้ำหนักให้พอดีนะคะ เราเพิ่มขึ้นเดือนละ 1 แผ่น 15 ครั้ง 3 เซต
4. อก ด้วยเวทแมชชีน ปรับน้ำหนัก ให้พอดีนะคะ เราเพิ่มขึ้นเดือนละ 1 แผ่น 15 ครั้ง 3 เซต
5. แขนบน-ล่าง ด้วยเวทแมชชีน ปรับน้ำหนักให้พอดีนะคะ เราเพิ่มขึ้นเดือนละ 1 แผ่น 15 ครั้ง 3 เซต
และก็จะมีบอดี้เวท วันไหนไม่ได้ไปฟิตเนสก็บอดี้เวทอยู่ที่บ้านคะ
ในวันคาร์ดิโอ เราจะเล่นเครื่อง อิลิติคอล 45-60 นาที หรือปั่นจักรยาน 50 นาที ค่ะ
จะเห็นได้ว่า โปรแกรมเราค่อนข้างเบสิกมาก ๆ แต่สามารถทำได้เรื่อย ๆ ค่ะ ต้องยอมรับว่าการเปลี่ยนแปลงก็จะช้าลง แต่ก็นับว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีที่ยังมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ ฮ่า ๆๆๆ
ส่วนในเรื่องอาหารการกิน "เรายังไม่ได้ควบคุมอาหารการกินอย่างเต็ม 100%" วันหนึ่งเราทาน 4 มื้อ คือ เช้า เที่ยง เย็นก่อนออกกำลังกาย และหลังออกกำลังกาย
เราทานปกติเหมือนคนทั่วไปค่ะ เพียงแค่เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ หรือโทษน้อยที่สุด อย่างเช่น ในร้านข้าวราดแกง เราสามารถเลือกสิ่งที่ดีที่สุดได้อยู่แล้ว ซึ่งในที่นี้จะไม่ขอพูดมาก เรารู้ว่าทุกคนล้วนรู้ดีว่า อะไรดี อะไรไม่ดี
ส่วนมื้อก่อนออก เราทานเบา ๆ ค่ะ เอาให้มีแรง ไม่ถึงกับจัดมื้อหนักหรือมื้อใหญ่ไปเลย ส่วนมื้อหลังออก จะเป็นพวกผลไม้หรือจำพวกสลัด เน้นโปรตีน ไม่เน้นคาร์โบไฮเดรต
ส่วนในปัจจุบัน เราก็พยายามออกกำลังกายให้ได้สม่ำเสมอ เราก็มีเหลวไหลบ้าง ปล่อยให้ตัวเองขี้เกียจบ้าง แต่ท้ายที่สุดแล้วเมื่อมองย้อนกลับไป เราก็ไม่อยากหยุด ไม่อยากยอมแพ้ ความตั้งใจที่เราทำมา วินัยที่เราสร้างมา มันส่งผลให้เป็นปัจจุบัน ซึ่งเราภูมิใจมากที่เราสามารถมาไกลได้ขนาดนี้
สิ่งที่เราทำทั้งหมดมันทำให้เรารู้ว่าการลดความอ้วนที่ดีที่สุดก็คือ การออกกำลังกายและเลือกทานอาหารที่ดีค่ะ การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างช้า ๆ เราต้องใจเย็น ๆ ก็เหมือนกับกรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียวนั้นแหละเนอะ ฮ่า ๆๆๆ
สุดท้ายเราจะทิ้งรูป Before-After แบบรวม ๆ ไว้ เอาไว้เป็นกำลังใจให้เพื่อน ๆ นะคะ
ปกติเราจะอัพเดทกิจวัตรของเราลง Instragram แฮชแท็ก Newfangcz เผื่อบางคนอยากส่องนะคะ หากใครมีคำถามสามารถถามเราได้เลยนะ ยินดีตอบทุกคำถามค่ะ ช่องทางไหนก็ถามมา อย่างน้อย ๆ หาแนวร่วมออกกำลังกายกันค่ะ เป็นกำลังใจให้ทุกๆคนนะคะ
Then
Now
สำหรับสาวอ้วนคนไหนที่กำลังท้อกับการลดน้ำหนักอยู่ ลองใช้เรื่องของเธอคนนี้เป็นแรงบันดาลใจดูสิคะ ซึ่งถือว่าเป็นวิธีการออกกำลังกายที่เบสิกมาก ๆ คุณเองสามารถทำได้อย่างแน่นอน เพียงแค่ตั้งใจและเชื่อว่าเธอทำได้ คุณก็ทำได้เช่นกันค่ะ