มาคลี่คลายข้อสงสัยกับสิ่งพิ ศวงเกี่ยวกับความทรงจำที่คุ ณอาจไม่เคยรู้ แล้วจะรู้ว่าสมองของเรามหั ศจรรย์แค่ไหน
เคยสงสัยกันบ้างไหมคะว่ าทำไมบางสิ่งที่เราอยากจะจำให้ ได้ถึงชอบลืมนัก หรือบางสิ่งที่เล็ก ๆ น้อย ๆ และไม่จำเป็นต้องจำก็กลับจำได้ บางเรื่องผ่านมานานแล้วแต่ก็ยั งจำได้แม่น แต่กลับเรื่องที่เพิ่งเกิดไม่ถึ งวัน กลับจำไม่ได้เสียแล้ว นั่นก็เป็นเพราะว่าสมองของเรามี ความมหัศจรรย์ และความพิศวงมากมาย ซึ่งในปัจจุบันนี้ก็ยังไม่มีนั กวิทยาศาสตร์คนไหนจะเปิ ดเผยความลับที่อยู่ ภายในสมองของเราได้ทั้งหมด แต่วันนี้เราจะพาทุกคนไปพบกั บความพิศวงบางอย่างของสมองที่คุ ณอาจไม่เคยรู้แต่ได้รับการพิสู จน์จากนักวิทยาศาสตร์แล้วที่เว็ บไซต์ huffingtonpost.com ไปดูกันสิว่ามีอะไรบ้าง
1. ประตูทำลายความทรงจำ
คิดว่าหลายคนต้องเคยเป็นอย่ างแน่นอน ที่เมื่อเวลาเราตั้งใจว่าจะเดิ นไปอีกห้องหนึ่งเพื่อทำบางสิ่ง แต่พอเราเดินผ่านพ้นประตูไปเท่ านั้นล่ะ ก็ลืมไปเลยว่าจะมาทำอะไร ทั้ง ๆ ที่เพิ่งจะคิดไปเมื่อสักครู่นี้ เอง นั่นก็เป็นเพราะว่าเจ้าประตูได้ ทำลายความทรงจำเมื่อครู่ไปแล้ วล่ะค่ะ อ๊ะ ๆ สงสัยใช่ไหมว่าทำอย่างไร ซึ่งนักจิตวิทยาแห่งมหาวิทยาลั ยนอเตอร์เดม อย่าง Gabriel Radvansky ได้บอกให้เรารู้เกี่ยวกับเรื่ องนี้เอาไว้ว่า เมื่อเราเดินผ่านประตู สมองของเราก็จะมองประตูว่าเป็ นเขตแดนของเหตุการณ์ และจะแบ่งความทรงจำของเหตุการณ์ นั้นออกไปจากสิ่งที่เกิดขึ้น ณ วินาทีนั้นอย่างสิ้นเชิง ซึ่งนั่นก็จะทำให้เรานึกเกี่ ยวกับสิ่งที่อยู่อีกห้องหนึ่ งไม่ค่อยออก เวลาที่เราเดินมาอีกห้องหนึ่ งแล้วนั่นเองค่ะ
2. กิจกรรมบางอย่างลบความทรงจำ
มันเป็นเรื่องน่าแปลกที่ว่ากิ จกรรมบางอย่างสามารถส่งผลให้ เราสูญเสียความทรงจำได้ชั่ วคราวหรือไม่ก็ทำให้ เราจำความทรงจำเหล่านั้นได้ไม่ ชัดเจน ซึ่งภาวะนี้ถูกเรียกว่ าโรคความจำเสื่อมชั่วขณะ โดยมีการรายงานว่า การมีเพศสัมพันธ์ก็คือกิ จกรรมหนึ่งที่ทำให้ลื มความทรงจำไปชั่วขณะได้ นอกจากนี้ยังทำให้การรื้อฟื้ นความทรงจำเป็นไปได้ยากอีกด้วย
โรคความจำเสื่อมชั่วขณะนี้ไม่ร้ ายแรงและไม่ใช่ปัญหา เพราะความทรงจำเหล่านั้นจะกลั บมาในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง แต่มันก็จะไม่ชัดเจนเหมือนเก่า ซึ่งเมื่อทำการสแกนสมองของผู้ที่เป็นโรคนี้ก็ไม่ได้มี การพบความเสียหายของสมองหรือสั ญญาณของโรคหลอดเลือดสมองแต่อย่ างใด
3. ความทรงจำของเราจะยังคงอยู่เสมอ แม้เราจะจำมันไม่ได้แล้ว
ในปี 2013 มีการรายงานถึงกรณีน่ าประหลาดเมื่อผู้หญิงคนหนึ่งได้ เห็นภาพหลอนเกี่ยวกับเพลงที่ เธอไม่รู้จัก แต่เรื่องอื่น ๆ กลับจำได้ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ได้อธิบายว่ าผู้หญิงคนนี้มีแนวโน้มว่ าจะเคยรู้จักเพลงนี้มาก่อน แต่ก็ลืมมันไป ซึ่งในความจริงแล้วความทรงจำไม่ ได้หายไปไหน แต่แค่เพียงถูกเก็บเอาไว้ในรู ปแบบอื่น ๆ ที่สมองเข้าถึงได้ แต่เราอาจไม่สามารถเข้าถึงมั นได้ โดยเป็นไปได้ว่ าสมองของเธออาจจะทำการแยกส่ วนของความทรงจำเกี่ยวกับเพลง ๆ นี้เอาไว้ในรูปแบบอื่นที่ทำให้ เธอไม่สามารถเข้าถึงได้
4. สมองถูกตั้งโปรแกรมให้ลืมเรื่ องในวัยแรกเกิด
เคยสังเกตกันหรือเปล่าว่าเราไม่ สามารถจำเรื่องราวเมื่อตอนที่ เรายังเด็กมากได้เลยสักนิด จะจำได้ก็ช่วงที่เข้าโรงเรี ยนอนุบาลแล้ว นั่นก็เป็นเพราะว่า ความทรงจำเหล่านั้นเป็ นความทรงจำในช่วงวัยแรกเกิดซึ่ งจะค่อย ๆ ลืมเลือนไปเมื่อเราโตขึ้น ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ได้วิเคราะห์ สาเหตุไว้ว่า เนื่องจากในช่วงแรกเกิดเรายั งไม่มีทักษะทางภาษาจึงทำให้ เราไม่สามารถจำสิ่งต่าง ๆ ในช่วงอายุนั้นได้ แต่งานวิจัยล่าสุดแสดงให้เห็นว่ าที่เราไม่ สามารถจำความทรงจำในช่วงปีแรก ๆ ของชีวิตได้นั่นก็เป็นเพราะว่ าสมองได้เติบโตและพัฒนาหลั งจากช่วงอายุวัยแรกเกิดจึงได้มี การสร้างเซลล์เพื่ อลบความทรงจำในช่วงดังกล่าวไป เพื่อรองรับความทรงจำในช่วงที่ โตขึ้นนั่นเอง
5. การบาดเจ็บของสมองอาจเป็นสาเหตุ ของการเสียความทรงจำ
มีการศึกษาพบว่าการสูญเสี ยความทรงจำอาจเกิดขึ้นได้เมื่ อความทรงจำบางอย่างเกิดขึ้นในช่ วงก่อนอาการบาดเจ็บที่สมอง ซึ่งความจำนั้นไม่นานพอที่ จะทำให้สมองเก็บความทรงจำช่วงนั้นไว้ โดยส่วนใหญ่การสูญเสี ยความทรงจำจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่ อสมองในส่วนที่เกี่ยวข้องกั บการจัดการ ดูแลรักษา และการเรียกคืนความทรงจำได้รั บการบาดเจ็บ ซึ่งอาการเหล่านี้อาจนำไปสู่ ภาวะความจำเสื่อมได้
หนึ่งในกรณีศึกษาที่น่าสนใจนั่ นก็คือผู้ป่วยคนหนึ่งที่ได้รั บการรักษาโรคลมบ้าหมูด้ วยการนำสมองส่วนฮิปโปแคมปั สออกไป สามารถรื้อฟื้นความทรงจำและสร้ างความทรงจำใหม่ ๆ ได้ และอีกกรณีหนึ่งก็คือคนไข้ที่ เกิดการติดเชื้อไวรัสในสมอง ทำให้เกิดภาวะสมองอักเสบ แต่ก็สามารถฟื้นฟูความทรงจำได้ ใหม่เช่นเดียวกัน
สมอง ยังคงเป็นพื้นที่ส่วนที่มี ความน่าพิศวงและความเร้นลับอี กมากมายที่รอให้นักวิทยาศาสตร์ ทำการศึกษาเพื่อหาข้อพิสูจน์ ซึ่งไม่ว่าอย่างไรสมองก็ยั งคงเป็นส่วนที่มีความสำคัญมากที่สุดในร่างกาย ดังนั้นเราจึงควรดูแลและบำรุ งสมองอยู่เสมอด้วยการรั บประทานอาหารที่มีประโยชน์รวมทั้งการฝึกสมองต่าง ๆ นอกจากนี้ยังควรสังเกตความผิ ดปกติอีกด้วย หากรู้สึกจำอะไรไม่ค่อยได้ หรือรู้สึกว่าพฤติ กรรมของตนเองเปลี่ยนไปโดยไม่มี สาเหตุ ก็ควรไปปรึกษาแพทย์ดีกว่านะคะ เพราะบางทีนั่นอาจจะเป็นสั ญญาณของอันตรายบางอย่างที่เกิ ดขึ้นกับสมองได้ค่ะ