x close

8 อาหารดี ๆ แต่ถ้าปรุงผิดวิธีก็ไม่ได้ประโยชน์นะ


อาหารเพื่อสุขภาพ


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          มาดู 8 อาหารที่คนมักจะนำไปรับประทานกันแบบผิด ๆ จนทำให้ไม่ได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่

          เราคงจะรู้กันดีอยู่แล้วว่าอาหารบางชนิดมีประโยชน์กับเรามากมาย แต่บางทีเราก็กลับนำมันไปรับประทานแบบผิด ๆ อย่างเช่น นำไปปรุงด้วยความร้อนจนเกินไป สับหรือหั่นมันจนสารอาหารที่สำคัญออกไปจนหมด ทำให้เราได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายน้อยลง แถมบางทีก็แทบจะไม่ได้ประโยชน์เลย

          แล้ววิธีไหนถึงจะถูกต้อง วันนี้เราเลยนำตัวอย่างอาหารที่เรามักจะนำไปรับประทานกันแบบผิด ๆ มาเล่าสู่กันฟัง ไปดูกันสิว่าตัวอย่างที่เว็บไซต์ huffingtonpost.com หยิบมานำเสนอ มีอะไรบ้าง


มันฝรั่งสีม่วง

1. มันฝรั่ง

          หลายคนมักคิดว่าเราจะได้รับประโยชน์จากมันฝรั่งด้วยการรับประทานมันฝรั่งสีขาว ที่เอาไปทำเฟรนช์ฟรายส์ หรือพวกมันบด แต่มีการศึกษาหนึ่งพบว่ามีมันอีกชนิดหนึ่งที่มีประโยชน์มากกว่ามันฝรั่งสีขาวนั่นก็คือมันฝรั่งสีม่วง เพราะมีคุณสมบัติช่วยลดความดันโลหิต และลดความเสี่ยงโรคมะเร็งได้ นอกจากนี้ยังมีการศึกษาในปี 2014 พบว่า มันฝรั่งสีม่วงมีสารโพลีฟีนอล (Polyphenols) มากกว่ามันฝรั่งสีขาว แถมยังช่วยลดผลกระทบจากการตอบสนองของระดับน้ำตาลในเลือดอีกด้วย
 
แครอท

2. แครอท

          ซุปแครอท อาจจะเป็นเมนูสุดโปรดของใครหลาย ๆ คน แต่รู้หรือเปล่าคะว่าการที่การหั่น สับ บด เจ้าแครอทให้อยู่ในลักษณะที่ทานง่าย จะทำให้สารอาหารอย่างแคโรทีนอยด์ (Carotenoid) ที่อยู่ในแครอทถูกทำลายได้ง่ายขึ้น เพราะฉะนั้นครั้งต่อไปที่รับประทานแครอท เวลาที่ล้างและปอกเปลือกแล้ว ควรจะนำแครอทไปทำอาหารเลยนะคะ ไม่ต้องหั่นหรือสับก่อนจะดีที่สุด เพื่อที่สารอาหารจะได้อยู่ในแครอทอย่างครบถ้วน หรืออาจจะรับประทานสด ๆ ก็ได้ แต่ถ้ารู้สึกว่ามันรับประทานลำบากก็อาจจะเปลี่ยนมารับประทานเบบี้แครอทก็ได้นะ มีประโยชน์เหมือนกันค่ะ

3. ชา

          ถ้าคุณเป็นคนที่ดื่มชาละก็ คุณจะต้องสนใจอย่างแน่นอนค่ะ เพราะมีบางการศึกษาพบว่าเราจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากชาเขียวก็ต่อเมื่อเราไม่เติมผลิตภัณฑ์จากนมลงไปในชา เพราะการเติมนมลงไปในชาเขียวจะทำให้ประโยชน์ในด้านที่เกี่ยวข้องกับระบบหัวใจและหลอดเลือดลดลง ดังนั้นถ้าอยากจะให้ชาเขียวมีรสชาติอร่อยมากขึ้นลองเปลี่ยนจากเติมนมเป็นน้ำผลไม้สักเล็กน้อยก็น่าจะดีนะคะ เพราะวิตามินซีในน้ำผลไม้จะช่วยทำให้สารอาหารที่อยู่ในชาเขียวทรงประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

กระเทียม

4. กระเทียม

          ถ้าอยากจะให้ได้ประโยชน์จากกระเทียมอย่างเต็มที่ อย่าเอากระเทียมไปบดเด็ดขาด เพราะการที่คุณบดกระเทียมจะทำให้เอนไซม์ที่มีชื่อว่า อัลลิซิน (Allicin) ถูกปล่อยออกมาจนหมดก่อนที่คุณจะได้รับประทานมันเสียอีก ซึ่งเจ้าเอนไซม์ชนิดนี้ มีประโยชน์ช่วยลดความเสี่ยงโรคในระบบหัวใจและหลอดเลือดโดยทำให้เกล็ดเลือดจับตัวกันและไหลเวียนในระบบหัวใจและหลอดเลือดได้ดียิ่งขึ้น

5. น้ำสลัด

          น้ำสลัดปราศจากไขมันดูเหมือนจะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่ชอบทานสลัด แต่ที่จริงแล้วน้ำสลัดที่มีส่วนประกอบของไขมันเมื่อรับประทานคู่กับผักแล้วจะทำให้คุณอิ่มได้นานและได้รับสารอาหารมากกว่าการรับประทานสลัดกับน้ำสลัดปราศจากไขมัน โดยเฉพาะลูทีน (Lutein) ไลโคปีน (Lycopene) เบต้าแคโรทีน (Beta-carotene) และ ซีแซนทีน (Zeaxanthin) แต่ก็อย่าทานมากเกินไป เพราะน้ำสลัดธรรมดาก็มีแคลอรี่ไม่น้อยเหมือนกัน

6. แอปเปิล และลูกแพร์

          มีการศึกษาหนึ่งพบว่าการรับประทานแอปเปิลหรือลูกแพร์ที่สุกแล้ว ถึงแม้ว่าจะทำให้เราไม่ได้รับสารคลอโรฟิลล์ แต่ก็จะทำให้เราได้รับสารต้านอนุมูลอิสระที่สูงขึ้น ดังนั้นถ้าหากครั้งต่อไปอยากจะลองผลไม้สองชนิดนี้แบบยังดิบอยู่ละก็ เปลี่ยนมาทานแบบสุกดีกว่าเนอะ ได้ประโยชน์กว่าเยอะเลย

บรอกโคลี

7. บรอกโคลี

          บรอกโคลีเป็นผักที่มีประโยชน์สูงเป็นหนึ่งในสุดยอดอาหารเพื่อสุขภาพอย่างแท้จริง เพราะในบรอกโคลีนั้นมีสารอาหารสูงมาก แถมยังช่วยป้องกันมะเร็งโดยเฉพาะมะเร็งเต้านมและมะเร็งผิวหนังได้อีกด้วย คนส่วนใหญ่จึงนิยมนำบรอกโคลีมาปรุงอาหาร แต่ก็ใช่ว่าวิธีการปรุงบรอกโคลีทุกชนิดจะดีทำให้ได้ประโยชน์อย่างเต็มที่ เพราะมีการศึกษาในปี 2008 พบว่า การนำไปนึ่งเป็นวิธีการปรุงที่ดีที่สุด และการต้มเป็นวิธีที่ทำให้ได้รับสารอาหารจากบรอกโคลีได้น้อยที่สุด

          แต่ก็ใช่ว่าจะไม่สามารถนำบรอกโคลีไปต้มได้เลย เพราะมีการศึกษาเมื่อปี 2012 พบว่า การนำอาหารที่มีรสจัด อย่างเช่นพริก ไปปรุงกับบรอกโคลีจะช่วยป้องกันมะเร็งได้ดียิ่งขึ้น ดังนั้นถ้าหากชอบบรอกโคลีต้มก็อย่าลืมใส่อาหารที่มีรสจัดลงไปด้วยนะคะ

8. มัสตาร์ด

          มัสตาร์ด เจ้าเครื่องปรุงสีเหลือง ๆ นี้ไม่ว่าจะถูกดัดแปลงให้อยู่รูปไหนก็ให้ประโยชน์เหมือนกันค่ะ เพราะเจ้ามัสตาร์ดนี้มีสารเคอร์คูมิน (Curcumin) ซึ่งเป็นสารที่อยู่ในขมิ้น มีสรรพคุณช่วยลดอาการอักเสบและลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง แถมราคาก็ไม่แพงอีกด้วย ดังนั้นถ้าใครชอบรสชาติรสชาติเผ็ด ลองใส่มัสตาร์ดลงในสลัดหรือแซนด์วิชดูนะคะ รับรองว่านอกจากจะได้รสชาติที่เผ็ดถูกใจแล้วยังจะได้ประโยชน์อีกด้วย

          การจะมีสุขภาพที่แข็งแรงนั้นไม่ใช่แค่เพียงเรารับประทานอาหารที่คิดว่ามีประโยชน์เท่านั้น เราควรจะรู้ด้วยว่าควรจะรับประทานแบบใดถึงจะได้ประโยชน์อย่างเต็มที่ และควรจะรับประทานให้เหมาะสม ไม่น้อยเกินไป หรือมากเกินไปจนเกิดการสะสมในร่างกายนะคะ






เรื่องที่คุณอาจสนใจ
8 อาหารดี ๆ แต่ถ้าปรุงผิดวิธีก็ไม่ได้ประโยชน์นะ อัปเดตล่าสุด 16 ตุลาคม 2557 เวลา 16:47:58 4,948 อ่าน
TOP