x close

ข้าวเหนียวไก่ ทานมากไป เสี่ยงโรคภัยเหมือนกัน


เหนียวไก่

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          ข้าวเหนียวไก่ เมนูอร่อยถูกปากใครหลายคน แต่ถ้าเผลอทานมากไป อยากรู้ไหมว่าร่างกายของเราจะเสี่ยงโรคอะไรบ้าง

          เห็นคลิปน้องไลล่าโวยคนลักเหนียวไก่ หรือข้าวเหนียวไก่ไปจากตะกร้าหน้ารถจักรยานยนต์แบบสุดฮาถูกแชร์กันถล่มทลาย ชวนให้หิวอยากทานข้าวเหนียวไก่ขึ้นมาซะอย่างนั้น ^^ ก็นี่เป็นของโปรดของใครหลายคนเลย แถมหาซื้อง่าย กินง่าย โดยเฉพาะมื้อเช้า ๆ ที่ไม่ค่อยมีเวลามานั่งทานข้าว แวะซื้อข้าวเหนียวไก่ 1 ห่อ มานั่งทานก็อิ่มไปถึงมื้อกลางวันแล้วเนอะ แต่ถึงจะชอบแค่ไหนก็คงไม่ดีแน่ถ้าทานมากเกินไป เพราะข้าวเหนียวไก่ทอด หรือไก่ย่าง ไม่ใช่อาหารที่ดีต่อสุขภาพมากนัก เผลอทานเยอะ ไม่ยอมเปลี่ยนเมนูบ้าง ระวังอันตรายแฝงที่จะตามมา ตามนี้เลย !

แคลอรี่สูงปรี๊ด

          ถึงจะเป็นข้าวเหนียวห่อเล็ก ๆ ไก่ทอดชิ้นไม่ใหญ่ แต่ขอบอกว่าให้พลังงานสูงใช่เล่นเลยค่ะ โดยข้อมูลของกองโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข บอกไว้ว่า ข้าวเหนียวนึ่ง ประมาณครึ่งทัพพี (ประมาณ 30 กรัม) ให้พลังงานประมาณ 80 กิโลแคลอรี่ ซึ่งเทียบเท่ากับข้าวสุก 1 ทัพพี, ขนมจีน 1 จับ, ขนมปัง 1 แผ่น, ข้าวโพด 1 ฝัก

          ส่วนไก่ทอด ยิ่งให้พลังงานสูงมาก คือ

           น่องไก่ทอด 1 ชิ้น (120 กรัม) ให้พลังงานประมาณ 298 กิโลแคลอรี่
           ปีกไก่ทอด 1 ชิ้น (40 กรัม) ให้พลังงานประมาณ 107 กิโลแคลอรี่
           อกไก่ทอด 1 ชิ้น (170 กรัม) ให้พลังงานประมาณ 362 กิโลแคลอรี่

          เพราะฉะนั้นถ้าเราทานข้าวเหนียวครึ่งทัพพี บวกกับอกไก่ทอด 1 ชิ้น ก็รับพลังงานไปถึงราว ๆ 442 กิโลแคลอรี่ ซึ่งตัวเลขนี้พอ ๆ กับทานขนมจีนแกงเขียวหวาน 1 จาน หรือเส้นใหญ่ราดหน้าหมู 1 จานเลยทีเดียว ถ้าทานบ่อย ๆ ไขมันและโรคอ้วนอาจถามหาได้

เหนียวไก่

ปิ้งย่างก่อมะเร็ง

          หลายคนอยากอิ่มแบบไม่ต้องกังวลแคลอรี่มาก ก็เลยเลือกทานไก่ย่างแทนไก่ทอด ซึ่งไก่ย่าง 1 ชิ้น จะให้พลังงานประมาณ 97 กิโลแคลอรี่ น้อยกว่าไก่ทอดเป็นเท่าตัว แต่ถึงกระนั้นถ้าเลือกซื้อไก่ย่างไม่ดี ก็เสี่ยงต่อการได้รับมะเร็งเป็นของแถมเหมือนกัน เพราะในกระบวนการปิ้งย่างจะเกิดควันจากไขมันสัตว์ที่โดนความร้อนสูง ทำให้เกิดสารก่อมะเร็งที่อยู่ในกลุ่มโพลีซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอน (PAH) เป็นสารคล้ายคลึงกับการเผาไหม้เครื่องยนต์ บุหรี่ เมื่อเข้าสู่ร่างกายมาก ๆ จะก่อมะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งตับ และกระเพาะอาหาร

          นอกจากนี้ในการปิ้งเนื้อย่างยังมีสารก่อมะเร็งอีกตัวชื่อ เอชซีเอ ปรุงเฮเทอโรไซคลิก เอมีนส์ (HCA) สารนี้จะไปทำลาย DNA ก่อให้เกิดมะเร็งได้  อีกทั้งยังสามารถซึมผ่านไปสู่เนื้อเยื่ออื่น ๆ ซึ่งก่อให้เกิดอันตรายได้อีกด้วย

          แบบนี้แล้วถ้าอยากกินไก่ย่างจริง ๆ ก็ต้องเลือกไก่ย่างที่ไขมันน้อย ๆ ต้องปิ้งไม่ไหม้ เพราะส่วนไหม้นี่แหละคือสารก่อมะเร็ง ถ้าใช้เตาไฟฟ้าปิ้งแทนเตาถ่านยิ่งดีค่ะ เพราะในถ่านอาจมีสารปนเปื้อนจากการพ่นสารเคมีในเปลือกไม้ก็ได้เราไม่รู้นี่จริงมะ
 

ไก่ทอด

ระวังน้ำมันทอดซ้ำ

          ไก่ทอดหนังกรอบอร่อย ๆ กัดทีก็มาพร้อมกับน้ำมันชุ่ม ๆ ถ้าชอบทานก็ต้องระวังหน่อยล่ะ เพราะจากการลงพื้นที่สำรวจหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพบหลายร้านนำน้ำมันมาทอดซ้ำหลาย ๆ ครั้ง เพื่อประหยัดต้นทุน ซึ่งเป็นอันตรายกับผู้บริโภคอย่างเรา ๆ มากที่สุดเลย

          นั่นก็เพราะเมื่อน้ำมันผ่านความร้อนนาน ๆ จะเกิดสารโพลาร์ขึ้น เปลี่ยนน้ำมันให้เป็นสีน้ำตาล มีกลิ่นเหม็นหืน เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร ตามมาด้วยการเกิดสารโพลีไซคลิก อะโรมาติก ไฮโดรคาร์บอน ที่เกิดจากการเสื่อมสภาพของน้ำมัน สารชนิดนี้จะก่อให้เกิดมะเร็งบนผิวหนัง เกิดเนื้องอกในตับ ปอด ส่วนไอระเหยจากน้ำมันทอดอาหาร หากสูดดมเป็นระยะเวลานานก็อาจเป็นโรคมะเร็งปอดได้

          ดังนั้นถ้าใครจะทานไก่ทอด ก็ขอให้สังเกตร้านที่เราจะซื้อหน่อยค่ะว่า น้ำมันในกระทะของเขามีสีดำ เหนียวข้น มีฟองมาก มีกลิ่นเหม็นหืน เวลาทอดมีควันขึ้นมากแล้วหรือยัง ถ้าตรงตามนี้ก็เลี่ยงเลย เพราะแสดงว่าร้านนี้ใช้น้ำมันทอดซ้ำหลายครั้งแล้ว ยิ่งทอดซ้ำมาก ๆ ก็ยิ่งทำให้อาหารอมน้ำมัน และยิ่งเพิ่มสารพัดโรคให้เราเป็นของแถมด้วย ไม่ว่าจะเป็นโรคหลอดเลือดและหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคตับ โรคมะเร็ง ของทอดสุดฟินนี่ล่ะมฤตยูเงียบเลย

ไก่ทอด 


กระตุ้นอาการอักเสบในผู้ป่วยโรคเกาต์

          "อย่ากินไก่มาก เดี๋ยวเป็นโรคเกาต์"....ได้ยินคนพูดคำนี้บ่อย ๆ ซึ่งต้องบอกว่าเนื้อไก่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเกิดโรคเกาต์อยู่บ้างค่ะ แต่ไม่ใช่สาเหตุทั้งหมด

          โดยโรคเกาต์เกิดจากการที่ร่างกายไม่สามารถขับกรดยูริคออกไปได้หมด ทำให้มีกรดยูริคสูงเกินเป็นเวลานาน ซึ่งกรดยูริคส่วนหนึ่งเกิดจากการย่อยสลายของสารพิวรีนที่มีมากในเนื้อสัตว์บางชนิด เช่น เนื้อสัตว์ปีก เครื่องในสัตว์ ฯลฯ หากทานอาหารที่มีสารพิวรีนมาก ๆ อย่างเช่นเนื้อไก่ ร่างกายก็จะสร้างกรดยูริคขึ้นมา ซึ่งถ้าร่างกายของเราไม่สามารถขับกรดยูริคออกได้หมด ก็จะสะสมตกตะกอนอยู่ตามข้อ ตามอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย นาน ๆ เข้าก็กลายเป็นโรคเกาต์ได้

          แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีอีกหลายสาเหตุและหลายปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคนี้ เช่น ผู้หญิงในวัยหมดประจำเดือน ผู้ป่วยเบาหวาน ความดัน ผู้สูงอายุ ก็เสี่ยงต่อโรคนี้แม้ไม่ได้ทานอาหารที่มีพิวรีนสูง ก็เอาเป็นว่าถ้าใครเป็นโรคเกาต์อยู่ ก็ไม่ควรทานข้าวเหนียวไก่มากเกินไป เพราะอาจไปกระตุ้นให้เกิดการอักเสบมากขึ้น แต่นักกำหนดอาหารก็แนะนำว่าไม่ต้องถึงขั้นงดทานสัตว์ปีกไปเลย เพียงแต่อาจต้องลดความถี่ในการทาน หรือทานในบริเวณที่เสี่ยงน้อย เช่น ไม่ทานตรงข้อ หรือทานบริเวณอกไก่แทนจ้า

          อ่านจบแล้วอย่าเพิ่งขยาด "ข้าวเหนียวไก่" ไปเสียก่อนนะ เพราะจริง ๆ แล้วก็มีข้อดี คือทำให้เราได้รับสารอาหารสำคัญ ๆ อย่างข้าวเหนียวเป็นคาร์โบไฮเดรต มีกลูเตนและไฟเบอร์สูงกว่าข้าวขัดขาว ส่วนไก่ก็ให้โปรตีน ไขมัน ทานแล้วอิ่มท้อง แต่ที่นำมาเตือนกันวันนี้ก็เพื่อย้ำว่าอย่าทานให้มากเกินไปเท่านั้นเอง ซึ่งไม่ได้หมายถึงข้าวเหนียวไก่เพียงอย่างเดียว แต่อาหารจานอื่น ๆ ก็เช่นกันค่ะ ถ้าทานมากไปจนเกินความต้องการของร่างกาย ไม่ว่ายังไงก็อ้วนและชวนให้เกิดโรคอื่น ๆ ได้เหมือนกัน ใส่ใจการรับประทานอาหารกันให้มาก ๆ นะคะ






อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
, กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
 


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ข้าวเหนียวไก่ ทานมากไป เสี่ยงโรคภัยเหมือนกัน อัปเดตล่าสุด 23 ตุลาคม 2560 เวลา 06:43:17 68,351 อ่าน
TOP