อย. เคลียร์ชัด ไม่พบเชื้อ HIV ในผลไม้กระป๋อง
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
อย. ยัน ไม่พบเชื้อ HIV ในผลไม้กระป๋อง หลังมีกระแสข่าวลือในไลน์ ชี้ คนปล่อยข่าวหวังดิสเครดิต พร้อมเคลียร์ชัด ความร้อนทำลายเชื้อ HIV ได้ จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะปนเปื้อนในผลไม้กระป๋อง
จากกรณีที่มีการส่งข้อความผ่านทางไลน์แจ้งเตือนต่อ ๆ กันว่า อย่ารับประทานผลไม้กระป๋อง โดยเฉพาะที่ผลิตในประเทศไทย เพราะมีผู้ป่วยติดเชื้อ HIV หยดเลือดใส่ในผลไม้กระป๋อง จนทำให้ขณะนี้มีการประกาศให้นำผลไม้กระป๋องออกจากชั้นวางจำหน่ายตามห้างสรรพสินค้านั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2557 นพ.บุญชัย สมบูรณ์สุข เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าว โดยระบุว่า ยังไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่ามีการพบเชื้อดังกล่าวในผลิตภัณฑ์อาหารกระป๋อง ดังนั้นนี่จึงเป็นเพียงข่าวลือที่สร้างออกมาเพื่อลดความน่าเชื่อถือของผู้ประกอบการไทย รวมทั้งผลิตภัณฑ์ผลไม้กระป๋องของประเทศไทย
เลขาธิการ อย. ยังให้ข้อมูลด้วยว่า สำหรับเชื้อ HIV เป็นไวรัสที่ก่อให้เกิดภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง โดยจะเข้าไปทำลายเม็ดเลือดขาว ที่เป็นแหล่งสร้างภูมิคุ้มกันโรค ทำให้ภูมิคุ้มกันลดน้อยลง จึงทำให้ติดเชื้อโรคแทรกซ้อนเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย เชื้อดังกล่าวสามารถอาศัยหรือทำให้เกิดโรคในคนเท่านั้น เมื่อออกนอกร่างกายคนแล้วจะไม่สามารถทนสภาพแวดล้อมภายนอกได้ อาจมีชีวิตได้นานเป็นชั่วโมงหรือเป็นวันเท่านั้น ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิความร้อน ความเย็น สภาวะกรด–ด่าง ความแห้ง ความชื้น เชื้อไวรัสดังกล่าวเป็นไวรัสที่ถูกฆ่าให้ตาย หรือหมดฤทธิ์ได้โดยง่าย โดยการต้มที่อุณหภูมิ 50 - 60 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 30 นาที จะทำให้ไวรัสหมดฤทธิ์ ไวรัสจะถูกทำลายทั้งหมดด้วยการต้มน้ำเดือดในเวลา 10 นาที
ทั้งนี้เชื้อไวรัส HIV จะสามารถติดต่อได้ 3 ทาง คือ การได้รับเลือด การมีเพศสัมพันธ์ และการติดต่อจากแม่สู่ลูก แต่สำหรับการแปรรูปด้วยการบรรจุกระป๋องนั้น นอกจากการผลิตจะมีระบบคุณภาพ GMP และ HACCP ที่มีส่วนช่วยควบคุมสุขลักษณะในการผลิตอาหารแล้ว กรรมวิธีการผลิตที่ใช้ความร้อนสูงยังมีส่วนสำคัญในการทำลายจุลินทรีย์ก่อโรครวมทั้งไวรัสที่อาจปนเปื้อนมากับอาหารด้วย ดังนั้น ด้วยกรรมวิธีการแปรรูปจึงไม่สามารถพบการปนเปื้อนเชื้อในผลิตภัณฑ์ ขอให้ผู้บริโภคไว้วางใจสินค้าอาหารกระป๋องที่ผลิตในประเทศไทย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก