ลดน้ำหนัก สาวอ้วนใช้วิธีออกกำลังกายและคุมอาหาร รีดน้ำหนักทิ้งได้กว่า 40 กก.

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ 1998528 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

          ลดน้ำหนัก สาวอ้วนเกือบ 100 กิโลกรัม ใช้แนวทางลดความอ้วนด้วยวิธีออกกำลังกายและควบคุมอาหาร ไม่น่าเชื่อ ! เธอรีดน้ำหนักทิ้งได้กว่า 40 กิโลกรัมเชียวนะ

          สาวอ้วนทั้งหลาย ถ้าอยากสวย ! ถึงเวลาที่จะต้องลดน้ำหนักอย่างจริงจังกันแล้วค่ะ สำหรับสาว ๆ คนไหนที่กำลังเหงา ๆ เบื่อ ๆ อยากมีแฟน และคิดว่าทำไมถึงไม่มีผู้ชายมาจีบซะที ให้ลองมองย้อนมาดูตัวเองสิว่าอ้วนเป็นหมูตอนอยู่หรือเปล่า นั่นแหละค่ะเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้คุณผู้ชายทั้งหลายมองคุณอยู่นอกสายตา แต่ถ้าใครอยากจะมีหุ่นสวยดูดีเข้าตาหนุ่ม ๆ แล้วละก็ จะต้องลดความอ้วนให้ได้เหมือนเธอคนนี้ (คุณ 1998528 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม) ซึ่งเธอตั้งใจจะลดความอ้วนเพราะความอยากสวย ! ด้วยความที่เคยหนักกว่า 97 กิโลกรัม บวกกับเพิ่งจะมีแฟนคนแรกเมื่อตอนทำงาน จึงทำให้เธอเริ่มที่จะหันมาดูแลตัวเองอย่างจริงจังด้วยวิธีการออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็น วิ่ง ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน กระโดดเชือก และอีกสารพัดวิธีพร้อม ๆ กับการควบคุมอาหาร สุดท้ายน้ำหนักของเธอจึงค่อย ๆ ลดลง จากที่เคยหนักกว่า 97 กิโลกรัม ตอนนี้น้ำหนักของเธอเหลือเพียง 54 กิโลกรัมเท่านั้นเองจ้า

          แต่ถึงแม้ทุกวันนี้หุ่นของเธอจะยังไม่เป๊ะ แต่เธอก็ยังรู้สึกภูมิใจในตัวเองที่สามารถรีดน้ำหนักทิ้งออกไปได้มากขนาดนี้ สำหรับคุณสาว ๆ ที่อยากจะรู้ว่าหนทางสู่การลดน้ำหนักอย่างจริงจังและวิธีลดน้ำหนักที่เธอปฏิบัติอยู่นั้นเป็นอย่างไร มาติดตามเรื่องราวของเธอกันเลยค่ะ


          หลังจากอ่านหลาย ๆ กระทู้ เกี่ยวกับเรื่องราวการลดความอ้วน เลยอยากจะร่วมแบ่งปันเรื่องราวการลดน้ำหนักของเรา ให้กับคนอื่น ๆ บ้าง เผื่อจะสร้างกำลังใจให้กับคนที่ต้องการลดความอ้วน... เริ่มเลยนะคะ

          มัธยมก็อ้วน เราจะมีความสุขกับการกินมาก เจอเพื่อน ๆ ก็ชวนกันไปกิน กินอะไรก็ต้องพิเศษสุด ๆ ไม่เคยออกกำลังกายเลย กิน ๆ นอน ๆ ช่วงนั้นกินวันละ 5-6 มื้อได้ ดึก ๆ เราก็จะทำตัวคล้ายโจร แอบย่องมาในครัวหาอะไรกินประจำ เพราะกลัวแม่รู้
          พ่อแม่และญาติ ๆ เวลาเจอเราก็จะคอยว่าตลอด ว่าทำไมปล่อยให้อ้วนแบบนี้ ให้ลดความอ้วนบ้างล่ะ เคยจ้างก็มี แต่ช่วงนั้นเราไม่สนใจ เราออกแนวรำคาญด้วย บางทีญาติมาเราก็จะหลบ ๆ ไม่อยากเจอ ไม่อยากฟังเขาบ่นเขาว่า ใครมาพูดเรื่องลดน้ำหนักนี่จะโกรธและหงุดหงิดสุด ๆ ความคิดเรื่องลดน้ำหนักไม่เคยอยู่ในสมองเลย คิดอย่างเดียวพรุ่งนี้กินอะไรดีนะ 5555 ช่วงนั้นน้ำหนักจึงพุ่งปรี้ด สูงสุดที่ชั่งได้อยู่ที่ 97 กิโลกรัม เกือบจะ 100 กิโลกรัมละ

          เริ่มเข้ามหาวิทยาลัยก็อ้วน 555 เราย้ายจากบ้านต่างจังหวัดมาเรียนที่กรุงเทพฯ ก็จะพักหอกับเพื่อน รูมเมทเราก็ตัวเล็กมาก 555 กินข้าวน้อยมาก พฤติกรรมการกินของเราค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนเหลือวันละ 3 มื้อ หลัง ๆ ก็เหลือวันละ 2 มื้อตามเพื่อน ตอนนี้เริ่มรู้สึกนิดนึงเพราะเจอแต่คนผอม ๆ บาง ๆ ใส่ชุดนักศึกษาน่ารัก ๆ หุ่นดี ๆ ทั้งนั้น อารมณ์อยากสวยและประกอบกับเวลาเจอใคร ๆ ก็จะเริ่มทักลดความอ้วนสิ รับรองเธอสวยมาก หน้าตาก็ดีทำไมปล่อยตัวให้อ้วนแบบนี้ เสียดายหน้าตา ต่าง ๆ นานา ก็เก็บมาคิดแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก
          ตอนประมาณปี 3 อยู่ดี ๆ เพื่อนในกลุ่มก็พาไปเล่นเกมส์ออนไลน์ ตอนนั้นติดเกมส์กันมาก ไปนั่งเล่นที่ร้านอินเตอร์เน็ตกันทำให้เราไม่ห่วงเรื่องกินข้าวเท่าไหร่ ถ้าวันไหนไม่มีเรียนก็ไปนั่งเล่นแต่เช้าจนถึงตี 2 ตี 3 ประจำ หรือถ้าติดลมก็โดดเรียน ช่วงนั้นเลยผอมลงแบบไม่ตั้งใจ ก็ลงไปรวม ๆ 5 กิโลกรัมได้
          ตอนอยู่มหาวิทยาลัยช่วงเริ่มหนัก 70 กว่า ก็มีผู้ชายมาจีบ 2 คน ตลอดชีวิตที่ผ่านมาไม่เคยมีเลยสักคน 555 รู้สึกตัวเบา ๆ ว่าเราอ้วนแบบนี้มีผู้ชายมาชอบได้ยังไงเนี่ย แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมาย ไม่ได้คบ สนใจแต่เรื่องกินกับเรื่องเรียน แล้วก็เรื่องเกมส์เท่านั้น แต่นั่นก็ทำให้พบข้อดีของการอ้วนขณะวัยรุ่น คือ ทำให้เราได้ผลการเรียนดีเนื่องจากไม่มีเรื่องความรัก ไม่มีเรื่องเที่ยวเข้ามาเกี่ยว (มั้ง) 555

          เปลี่ยนงานค่ะ บริษัทใหม่ เราสนิทกับพี่ ๆ ทุกคน งานสนุก เพื่อนร่วมงานน่ารัก ทีนี้ชีวิตแฮปปี้มากคะ อ่อช่วงนี้เริ่มคบผู้ชายคนแรก 555 ช่วงนี้กลับมากินเก่งในช่วงแรก ๆ น้ำหนักก็ไม่ลงแถมขึ้นมาด้วยแต่ก็ขึ้นไม่มาก เพราะยังควบคุมบ้าง พอช่วงหลังไม่ได้และเริ่มรู้สึกอยากลดจริงจังมาก ก็เริ่มหาวิธีต่าง ๆ นานา ครั้งนี้เป็นการเริ่มต้นปฏิบัติการลดความอ้วนแบบจริงจังที่สุด
          เราออกกำลังกาย และควบคุมอาหาร ถ้าเป็นวันทำงาน เราจะตื่นเช้าไปวิ่งวันละ 1 ชั่วโมง เย็นบางวันก็วิ่ง บางวันก็ว่ายน้ำ วันเสาร์-อาทิตย์ ตอนเช้าไปวิ่ง วิ่งเสร็จว่ายน้ำต่อ บางทีก็ไปต่อที่ฟิตเนส วันหนึ่งออกกำลังกาย 3 ชั่วโมงได้ 555 กินข้าวเหลือวันละ 2 มื้อ แต่มีช่วงหนึ่งกินแต่น้ำเต้าหู้ เราชอบกินมาก เอาหวานน้อยใส่เครื่อง แช่ตู้เย็นไว้ วันหนึ่งกิน 3-4 ถุง เราลองไม่กินอะไรเลย กินแต่น้ำเต้าหู้ใส่เครื่องอาทิตย์หนึ่ง ลดไป 3-4 กิโลกรัมเลยนะ แต่พอกลับมากินข้าวก็กลับมาน้ำหนักเท่าเดิม 555 ก็เลยเลือกที่จะออกกำลังกายกับควบคุมอาหารควบคู่กันไป
          หลังจากที่ลาออกจากที่ทำงาน ก็ทำธุรกิจส่วนตัว เลยมีเวลาไปออกกำลังกายมากขึ้น เราเป็นคนเบื่อง่าย ก็เลยจะหากิจกรรมการออกกำลังกายเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ เช่น ต่อยมวย วิ่ง ว่ายน้ำ เข้าฟิตเนส ปั่นจักรยาน เล่นเวท แต่สิ่งที่ง่ายสุดและบ่อยสุด คือ กระโดดเชือกค่ะ เรากระโดดเชือกตอนเช้า 3,500 ครั้ง ตอนเย็น 3,500 ครั้ง แต่ถ้าวันไหนไม่ว่างก็จะกระโดดแค่ 3,500 ครั้ง
          เราเป็นคนชอบทานมาก ฉะนั้นเราจึงต้องพยายามออกกำลังกายให้มาก ๆ เพื่อไม่ให้มันกลับไปอ้วน วันไหนกินอะไรเข้าไปเยอะ ก็จะออกกำลังกายหนักกว่าปกติ
          ถึงแม้ตอนนี้เราจะไม่หุ่นดีเป๊ะ แต่เราก็ภูมิใจที่เราลดลงมาได้ขนาดนี้ ตอนนี้เราก็กำลังตั้งใจจะลดให้ได้อีกสัก 5 กิโลกรัม และพยายามจะสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง (สงสัยคงต้องเพิ่มการกระโดดเชือกให้เป็น 35,000 ครั้ง/วัน 555)

          เราคิดว่า สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ "ความตั้งใจ" เราต้องคิดว่าเราทำได้ และตั้งใจทำมันแค่นั้นเอง แล้วเราก็จะมีความสุขกับการออกกำลังกายและการกินควบคู่กันไปได้



          เห็นไหมคะสาว ๆ ว่าความตั้งใจจริง บวกกับวิธีลดน้ำหนักที่ถูกต้องสามารถทำให้น้ำหนักของคุณลดลงได้จริง ๆ ถึงแม้เธอคนนี้จะเคยหนักกว่า 97 กิโลกรัม แต่ด้วยความตั้งใจของเธอก็สามารถทำให้เธอมีทุกวันนี้ได้ สำหรับสาว ๆ ทั้งหลายที่กำลังตั้งใจลดน้ำหนักกันอยู่ก็ขอให้สู้ต่อไป อย่าเพิ่งท้อนะคะ เพราะขนาดเธอคนนี้ยังทำได้ คุณเองก็ทำได้เช่นกันค่ะ