x close

6 อารมณ์ร้าย ที่คุณกำลังทำลายหัวใจตัวเองอยู่ทุกวัน

6 อารมณ์ร้าย ที่คุณกำลังทำลายหัวใจตัวเองอยู่ทุกวัน

          อารมณ์กับสุขภาพใจมีความเกี่ยวข้องกันอย่างไม่น่าเชื่อ ใครที่มักจะอารมณ์ไม่ดี ชอบเหวี่ยง ชอบวีนเป็นประจำละก็ ระวังให้ดีเชียวโรคหัวใจจะถามหาเอา 

          ในแต่ละวันของเรามีหลากหลายอารมณ์ความรู้สึกเข้ามากระทบจิตใจ บางทีเผลอ ๆ มีอารมณ์เดียวไปตลอดทั้งวัน ซึ่งถ้าหากเป็นโหมดอารมณ์ดี ก็คงไม่น่าเป็นห่วงอะไร แต่ถ้าอยู่ในโหมดอารมณ์ด้านลบ ขอให้รู้ไว้เลยว่า ทุก ๆ ครั้งที่เราไม่รู้สึกแฮปปี้ละก็ หมายความว่าเรากำลังทำร้ายสุขภาพหัวใจไปทีละนิดโดยไม่รู้ตัว มารู้เท่าทันอารมณ์กันดีกว่าว่า อารมณ์ไหนทำให้หัวใจแข็งแรง และอารมณ์ไหนควรเลิกทำ เพื่อยืดอายุหัวใจให้อยู่กับเราไปนาน ๆ 

6 อารมณ์แย่ ๆ บั่นทอนสุขภาพใจให้ถดถอย 

          อารมณ์แย่ ๆ ยอดฮิตที่มักจะแวะเวียนมาทักทายเราเป็นประจำ โดยที่บางครั้งก็อยู่กับเรานานข้ามวันเลยก็มี ซึ่งไม่ส่งผลดีต่อหัวใจของเราอย่างมาก ลองมาดูเหตุผลกันว่าทำไม เราควรสลัดอารมณ์ร้าย ๆ เหล่านี้ทิ้งไป หากไม่อยากให้สุขภาพหัวใจมีปัญหาในอนาคต 

 1. โกรธ 

          ใครรู้ตัวเป็นคนขี้โมโห เมื่อมีอะไรไม่ได้ดั่งใจนิดหน่อยก็พาลโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงแบบน­­ี้ขอแนะนำว่าควรตั้งสติ ระงับอารมณ์โกรธให้บรรเทาลงดีกว่าค่ะ เพราะเวลาที่เราอารมณ์โกรธ ร่างกายจะยิ่งผลิตฮอร์โมนเครียด และหลั่งสารอะดรีนาลีนออกมา ส่งผลให้ความดันโลหิตสูงขึ้น เกิดการแตกร้าวที่ผนังหลอดเลือด เมื่อผนังหลอดเลือดมีรอยร้าว ก็อาจทำให้มีลิ่มเลือดมาอุดตัน จนทำให้รูหลอดเลือดทั้งหมดอุดตัน จึงมีโอกาสสูงที่จะเป็นโรคท่อเลือดแดงและหลอดเลือดแดงแข็ง (Atherosclerosis) 

 2. เครียด 

          คนส่วนใหญ่รู้ดีว่าความเครียดส่งผลร้ายต่อหัวใจ แต่ก็ยังเครียดกันเป็นประจำ จากผลการวิจัยชิ้นหนึ่ง เผยว่า ความเครียดบั่นทอนสุขภาพหัวใจมากกว่าปัจจัยอื่น ๆ อย่างเช่น การสูบบุหรี่ การกินอาหารที่มีไขมันทรานส์และน้ำตาล รวมถึงการไม่ออกกำลังกาย เป็นต้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะปัจจัยเหล่านี้เราสามารถควบคุมและหลีกเลี่ยง­­ได้ แต่ความเครียดนั้นควบคุมได้ยาก และยังนำมาซึ่งอาการผิดปกติของร่างกายอื่น ๆ ตามมาด้วย เช่น ปวดหัว ปวดหลัง นอนไม่หลับ ปวดท้อง เบื่ออาหาร ติดแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่ โดยในขณะที่เราเครียด ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนเครียดออกมาตลอดเวลา กระตุ้นเลือดให้ไหลเวียนมากผิดปกติ ทำให้ผนังหลอดเลือดอ่อนแอลงเรื่อย ๆ มีโอกาสสูงที่สุขภาพหัวใจจะย่ำแย่ลง 

 3. ซึมเศร้า หดหู่ 

6 อารมณ์ร้าย ที่คุณกำลังทำลายหัวใจตัวเองอยู่ทุกวัน

          หากรู้ตัวว่าเริ่มมีอารมณ์หดหู่ ซึมเศร้า เซ็ง ๆ มาเยือนแล้ว ขอให้รีบวิ่งเข้าหาความบันเทิงโดยด่วน เพราะความหดหู่อาจทำให้เราได้ใกล้ชิดกับโรคหัวใจง่ายขึ้น จากผลการวิจัยเมื่อปี 2011 ของประเทศนอร์เวย์ เผยว่า จากการติดตามประวัติสุขภาพของอาสาสมัคร 63,000 คน พบว่า กลุ่มอาสาสมัครเหล่านี้มักมีอารมณ์หดหู่ และซึมเศร้า และมีความเสี่ยงร้อยละ 40 ที่จะเป็นโรคหัวใจล้มเหลว โดยที่อารมณ์ซึมเศร้า และหดหู่นั้น เพิ่มโอกาสการติดเชื้อในร่างกาย นำไปสู่โรคท่อเลือดแดงและหลอดเลือดแดงแข็ง (Atherosclerosis) ภาวะลิ่มเลือดอุดตัน และโรคหัวใจและหลอดเลือด (Cardiovascular disease) ในที่สุด 

 4. วิตกกังวล 

          ความวิตกกังวล เป็นอารมณ์ที่ส่งผลให้หัวใจอ่อนล้า และอาการสามารถรุนแรงขึ้นถึงขั้นทำให้เราเสียชีวิตได้เลย โดยในทุก ๆ ครั้งที่เรามีอารมณ์หวาดระแวง วิตกกังวลจะส่งผลกระทบต่อหัวใจ ดังนี้ 

          - เกิดภาวะหัวใจเต้นเร็วผิดปกติ (Tachycardia) 

เป็นอาการที่หัวใจเต้นไม่สม่ำเสมอ หรือเต้นได้เร็วมากกว่า 100 ครั้งต่อนาที ทั้งที่ปกติแล้ว การเต้นปกติของหัวใจควรอยู่ที่อัตรา 60–100 ครั้งต่อนาที หากอัตราการเต้นของหัวใจของหัวใจเร็วมาก ก็จะส่งผลให้หัวใจวายและเสียชีวิตได้ในที่สุด 

          - ทำให้ระดับความดันเลือดสูงขึ้น 

          อาการนี้ส่งผลให้กล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแอลงเรื่อย ๆ หากเป็นบ่อยครั้งถึงขั้นกลายเป็นโรคประจำตัว ก็มีโอกาสที่จะเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดและโรคหัวใจล้มเหลวได้ใ­­นที่สุด 

 5. มองโลกในแง่ร้าย 

6 อารมณ์ร้าย ที่คุณกำลังทำลายหัวใจตัวเองอยู่ทุกวัน

          เวลาที่เราอยู่ในอารมณ์คิดติดลบ หรือมองโลกในแง่ร้ายนั้น อีกหนึ่งสิ่งที่จะตามมาก็คือพฤติกรรมที่บั่นทอนสุขภาพ เช่น อดอาหาร กินของที่ไม่มีประโยชน์ สูบบุหรี่ ไม่ออกกำลังกาย ดื่มแอลกอฮอล์ นอนไม่หลับ ซึ่งสาเหตุที่สุขภาพหัวใจถูกบั่นทอนส่วนหนึ่งก็มาจากพฤติกรรมเห­­ล่านี้นั่นเอง 

          ลองมาเช็กกันเล่น ๆ ว่า อารมณ์ตอนนี้ของเราเข้าข่ายนิสัยของคนที่มองโลกในแง่ร้ายอยู่หร­­ือเปล่า หากเข้าข่ายเกินกว่า 3 ข้อควรหาเวลาไปผ่อนคลายตัวเองบ้าง จะได้คิดบวกมากขึ้น ดังนี้ 

           1. ตีโพยตีพายไปก่อน ทั้ง ๆ ที่เรื่องยังไม่เกิด 
           2. ประเมินค่าตัวเองต่ำไป คิดว่าตัวเองไม่มีดีเหมือนคนอื่น 
           3. ครุ่นคิดย้ำ ๆ ถึงสิ่งที่ตัดสินใจผิดพลาดไปแล้ว 
           4. มองหาข้อเสียของเรื่องนั้น ๆ เป็นอันดับแรก ก่อนทำการตัดสินใจ 
           5. คิดสรุปแบบเหมารวมเกินจริง มองว่าทุกอย่างรอบตัวมีแต่เรื่องแย่ ๆ เกิดขึ้นกับตัวเอง 

 6. อิจฉา 

          เมื่อไรก็ตามที่อารมณ์อิจฉาเกิดขึ้นในใจของเรานั้น ร่างกายจะทำงานเกี่ยวข้องกับระบบประสาทซิมพาเทติก (Sympathetic nervous system) ตอบสนองกับหัวใจทันที เกิดปฏิกิริยาที่ร่างกายเร่งสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงหัวใจมากขึ้น ทำให้หัวใจเต้นเร็วไม่เป็นจังหวะ ในขณะเดียวกันร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนเครียดออกมาด้วย ทำให้รู้สึกไม่สบายใจ เหมือนกำลังถูกกดดัน รู้สึกแย่กับตัวเอง 

          อ่านแล้วรู้สึกตกใจเหมือนกัน เพราะเป็นอารมณ์ที่เกิดขึ้นกับเราแทบจะทุกวัน โดยหารู้ไหมว่าสิ่งเหล่านี้กำลังบั่นทอนสุขภาพหัวใจของเราไปอย่างช้า ๆ แต่เราก็สามารถสร้างเกราะป้องกันให้หัวใจดวงน้อย ๆ ของเราได้ ด้วยการปฏิวัติตัวเองเสียใหม่ ให้อารมณ์ดี ๆ อยู่กับเราไปนาน ๆ


อารมณ์ดี


5 อารมณ์บวกที่ควรยื้อให้อยู่กับเรานาน ๆ หัวใจจะได้แข็งแรง 

          เราเชื่อว่าการทำตัวเองให้อารมณ์ดีได้ตลอดทั้งวันนั้นเป็นสิ่งท­­ี่ยากมาก ๆ แต่ถ้าเราสามารถทำได้ละก็ ถือเป็นการยืดอายุหัวใจไม่ให้เสื่อมก่อนวัยอันควร 

 1. มองโลกในแง่ดี 

6 อารมณ์ร้าย ที่คุณกำลังทำลายหัวใจตัวเองอยู่ทุกวัน

          จากผลการวิจัยเก็บข้อมูลในกลุ่มอาสาสมัครชาวสหรัฐฯ วัย 52 และ 84 ปี จำนวน 5,100 คน พบว่า ผู้ที่มีพื้นฐานนิสัยมองโลกในแง่ดีมักจะมีสุขภาพหัวใจดีด้วย โดยที่อาสาสมัครร้อยละ 76 มีสุขภาพที่ดีมาก ไม่มีปัญหาเรื่องน้ำหนักตัวเกิน ความดันเลือด และระดับคอเลสเตอรอล นอกจากนี้แล้ว ในผลการวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดในปี 2012 ยังมีข้อมูลที่สอดคล้องกันด้วยว่า การมองโลกในแง่ดี มีการพึงพอใจกับชีวิตที่เป็นอยู่ ก็จะช่วยลดความเสี่ยงเป็นโรคหลอดเลือดสมองตีบ และโรคหัวใจเมื่ออายุมากขึ้นเช่นกัน 

 2. อยากช่วยเหลือผู้อื่น 

          อารมณ์ความรู้สึกที่อยากช่วยเหลือผู้อื่นนั้น ส่งผลดีต่อสุขภาพใจเราอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะในขณะที่เรามีความรู้สึกเมตตา หรืออยากช่วยเหลือคนอื่นนั้น ร่างกายจะหลั่งสาร Nitric Oxide ในหลอดเลือดเพื่อขยายหลอดเลือด ช่วยให้เลือดลมไหลเวียนสะดวกขึ้น ส่งผลให้เกิด Cardioprotective หรือ การที่ฮอร์โมนหลั่งสารออกมาปกป้องหัวใจนั่นเอง เราจึงรู้สึกโล่งใจ อิ่มเอมใจ สบายใจ และอารมณ์ดีอย่างบอกไม่ถูก 

 3. อารมณ์ดี มีความสุข 

          จากผลการวิจัยที่ถูกตีพิมพ์ลงในวารสาร European Heart Journal เผยว่า การที่เราอารมณ์ดี มีความสุขอยู่เสมอ ช่วยลดความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจได้ ในทางกลับกันคนที่ไม่ค่อยมีความสุขในชีวิตมีแนวโน้มอีก 10 ข้างหน้าจะป่วยเป็นโรคหัวใจมากกว่าคนที่มีความสุขในชีวิตดี อย่างไรก็ตาม แนวโน้มความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจในอีก 10 ปีข้างหน้านั้น เราสามารถรู้ได้จากการประเมินไลฟ์สไตล์ที่เคยชินของตัวเอง เช่น พฤติกรรมการบริโภค ความถี่ในการออกกำลังกาย รูปแบบการใช้ชีวิต ดังนั้น หากพบว่าในแต่ละวันเราไม่ค่อยมีความสุข ก็ควรหันมาปรับพฤติกรรมและฝึกให้คิดบวกซะตั้งแต่เนิ่น ๆ สุขภาพหัวใจจะได้ไม่แย่ไปมากกว่านี้ 

 4. ใจเย็น ผ่อนคลายสงบนิ่ง 

          อารมณ์ผ่อนคลาย จิตใจสงบนิ่ง ใจเย็นเป็นอารมณ์ที่ดีต่อหัวใจ มีผลในการลดฮอร์โมนเครียดในร่างกาย เพิ่มการไหลเวียนเลือด จากรายงานของสมาคมโรคหัวใจอเมริกันเผยว่า อารมณ์ที่ผ่อนคลายและความรู้สึกสงบนิ่งนั้น ช่วยปรับสมดุลการไหลเวียนโลหิต ทำให้ระดับความดันเลือดเป็นปกติ ซึ่งวิธีที่จะทำให้เราอยู่ในอารมณ์ผ่อนคลายและสงบนั้นก็คือ การทำสมาธิ เพราะอย่างนี้เองการนั่งสมาธิเป็นประจำจึงช่วยป้องกันโรคท่อเลื­­อดแดงและหลอดเลือดแดงแข็ง ลดอาการหลอดเลือดหนาตัว ป้องกันโรคหัวใจวาย และโรคหลอดเลือดสมองตีบ (Stroke) ได้ 

 5. ร่าเริง แจ่มใจ 

6 อารมณ์ร้าย ที่คุณกำลังทำลายหัวใจตัวเองอยู่ทุกวัน

          อารมณ์ที่เบิกบาน ร่าเริงแจ่มใสทำให้สมองของเราคิดบวกมากขึ้น เราจึงมีความเสี่ยงต่ำในการเป็นโรคหัวใจ จากผลการวิจัยของมหาวิทยาลัยจอนส์ ฮอปกินส์ ในสหรัฐอเมริกา เผยว่า อารมณ์ร่าเริง แจ่มใส และเบิกบานนั้นสามารถลดความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจได้ แม้ว่าจะมีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคหัวใจก็ตาม เพราะการที่ร่างกายอยู่ในอารมณ์ร่าเริง แจ่มใส และเบิกบานเป็นประจำจะทำให้เรานึกอยากทำแต่สิ่งที่ดี ๆ เช่น หัวเราะ ร้องเพลง ฟังเพลง ออกกำลังกาย ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นกิจกรรมที่ช่วยป้องกันโรคหัวใจทั้งนั้น 

          อารมณ์ความรู้สึกที่เราแสดงออกมาในแต่ละวันนั้น ใช่ว่าจะกระทบกับสุขภาพร่างกายและจิตใจของเราฝ่ายเดียวนะคะ แต่ยังสามารถกระทบไปถึงความรู้สึกของคนรอบข้างได้ด้วย ทางที่ดี หากรู้ตัวว่ากำลังอยู่ในอารมณ์ด้านลบ ก็ควรจะแสดงออกให้น้อยที่สุด หันมายิ้มให้กับตัวเองเยอะ ๆ ก็จะช่วยให้เรารู้สึกดีขึ้นได้ เพียงเท่านี้ก็ไม่ต้องห่วงว่าอารมณ์ด้านลบจะบั่นทอนสุขภาพใจของ­­เราแล้ว 




















เรื่องที่คุณอาจสนใจ
6 อารมณ์ร้าย ที่คุณกำลังทำลายหัวใจตัวเองอยู่ทุกวัน อัปเดตล่าสุด 12 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา 11:42:41 19,711 อ่าน
TOP