กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เผยผักคะน้า-ถั่วฝักยาว ในท้องตลาด มีสารพิษตกค้างในเกณฑ์สูง เตรียมส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบซ้ำอีกครั้ง พร้อมระบุหากฝ่าฝืนขายต่อไป จะดำเนินการตามกฏหมายกับพ่อค้าแม่ค้าในตลาดทันที
วันที่ 30 มีนาคม 2558 นายศักดิ์ชัย ศรีบุญซื่อ เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรแห่งชาติ หรือ มกอช. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงกรณีมีกระแสข่าวว่าพืชผักที่วางขายในท้องตลาด มีสารเคมีที่เป็นพิษต่อร่างกายตกค้างจำนวนมากกว่าร้อยละ 25 ว่า เบื้องต้นเข้าตรวจสอบพบว่าพืชผักในท้องตลาด มีเพียงร้อยละ 14 ที่มีสารเคมีตกค้าง ถือว่ายังอยู่ในเกณฑ์ที่บริโภคได้และปลอดภัย
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบผักสองชนิดที่มีสารเคมีตกค้างที่อยู่ในขั้นอันตรายต่อผู้บริโภค คือผักคะน้า และถั่วฝักยาว นับเป็นผักกลุ่มเสี่ยง ตนจึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เก็บตัวอย่างส่งตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง หากพบว่ามีสารตกค้างอยู่ในปริมาณเกินกำหนดจริง จะมีการตักเตือน และหากยังมีการจำหน่ายต่อไป จะดำเนินตามกฏหมายกับพ่อค้าแม่ค้าในตลาด ตาม พ.ร.บ.อาหารและยา ของกระทรวงสาธารณสุขทันที
นอกจากนี้ จะประสานงานไปยังสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และกรมวิชาเกษตร ให้ตรวจสอบการใช้สารเคมีด้านเกษตรในแปลงพืชผัก เพื่อให้เพิ่มความเข้มงวดกับเกษตรกร งดใช้สารเคมีโดยเด็ดขาด รวมถึงจะส่งข้อมูลการตรวจสอบการจำหน่ายผัก ที่เสี่ยงอันตรายต่อผู้บริโภคในตลาดที่จำหน่ายไปยัง อย. เพื่อดำเนินการตามกฏหมายต่อไป
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ประชาชนเกิดความสบายใจ ตนจะทำการส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบอย่างต่อเนื่องซึ่งในส่วนผักที่ได้มาตรฐานการผลิต จะได้รับตรารับรองสินค้ารูปตัวคิวซึ่ง มกอช. ดูแลอยู่ และจะปลอดภัยยิ่งขึ้นหากผักในท้องตลาด มีเจ้าหน้าที่ของ อย. เข้าสุ่มตรวจและบังคับใช้กฏหมายกับพ่อค้าแม่ค้าให้เข้มงวดและเพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้นอีกเช่นกัน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก