x close

Brain Fag Syndrome อ่านหนังสือหนักจนสมองล้า เครียดจัดก่อนสอบ

         อาการอ่อนล้าของสมองขณะอ่านหนังสือ ทำให้จับใจความสำคัญไม่ได้ อ่านไปก็เสียเวลาเปล่าเพราะตำราไม่เข้าหัว วันนี้เลยอยากนำที่มาของอาการมาเล่าสู่กันฟังเพื่อให้ระวังกันให้ดี 
  

         ไล่ดูทวิตเตอร์ไปเรื่อย ๆ ก็จ๊ะเอ๋เข้ากับทวีตของหมอแมว ให้ได้ตกใจ ด้วยข้อความที่บอกไว้ว่า Brain Fag Syndrome เป็นโรคที่กำลังคุกคามนักเรียน นักศึกษา ที่เกิดจากความเครียดสะสมขณะอ่านหนังสือสอบ ! ให้ตายเถอะวัยรุ่น เห็นแบบนี้แล้วกระปุกดอทคอมก็ใจคอไม่ดีจนต้องค้นคว้าข้อมูลเกี่­­ยวกับโรค Brain Fag Syndrome มาขยายความต่อเพื่อให้ทุกคนได้รู้จักโรคอ่านหนังสือจนสมองล้ากั­­นมากขึ้นแบบด่วนจี๋ และได้ความมาตามนี้เลยค่ะ

 

โรค Brain Fag Syndrome คืออะไร 

          โรค Brain Fag Syndrome หรือโรคอ่านหนังสือเยอะจนสมองล้า เป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาทและสมอง ถูกค้นพบครั้งแรกในทวีปแอฟริกาใต้ และไนจีเรียเป็นแห่งที่ 2 โดยกลุ่มเสี่ยงส่วนใหญ่จะเป็นนักเรียน นักศึกษา หรือกลุ่มคนทำงานที่ต้องใช้สายตาอ่านหนังสือค่อนข้างเยอะ 

          ทั้งนี้นักจิตวิทยาก็ขยายความต่อว่า เหตุที่เกิดในประเทศโลกที่ 3 มากกว่าประเทศอื่น ๆ ก็เพราะความยากลำบากของการเรียนหนังสือ พร้อมทั้งความกดดันที่เด็กวัยเรียนในประเทศนั้น ๆ ต้องเจอ ทำให้เกิดความเครียดจนตกอยู่ในกำมือของภาวะ Brain Fag Syndrome นั่นเอง 

 สาเหตุของโรค Brain Fag Syndrome 

          หลัก ๆ แล้วโรคนี้จะเกิดจากความเครียดอันเกิดจากความพยายามอย่างยิ่งที­่่จะทำอะไรให้สำเร็จสักอย่าง รวมทั้งความคาดหวังที่สูงจัดจนกลายเป็นความกดดันตัวเองให้จดจ่อ­­กับสิ่งที่ต้องการมากเกินไป ส่วนมากจะมีอาการทางจิตร่วมด้วยเล็กน้อย เช่น รู้สึกเหนื่อยล้าทั้งร่างกายและจิตใจจนไม่อยากจะสานต่อสิ่งที่ท­­ำอยู่ หัวสมองตื้อ สมาธิที่เคยมีหายไป 



ใครคือกลุ่มเสี่ยง 

          นักเรียน นักศึกษาที่กำลังจะสอบแข่งขัน หรือกำลังพยายามพิชิตบทเรียนที่ยากเกินกว่าจะผ่านไปได้ง่าย ๆ นอกจากนี้กลุ่มวัยทำงานที่ต้องเจอกับภาวะกดดันก็มีสิทธิ์เป็นโร­­คนี้ได้เช่นกัน 

อาการบ่งชี้ภาวะ Brain Fag Syndrome 

          - สมาธิบกพร่อง ไม่สามารถจดจ่ออยู่กับสิ่งที่อ่านได้ 
          - ความสามารถในการจดจำข้อมูลลดน้อยลง 
          - เกิดอาการเป็นเหน็บ รู้สึกชาตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย 
          - ปวดหัว 
          - ปวดบ่าและไหล่ 
          - หงุดหงิดง่าย 
          - สีหน้าบ่งบอกถึงความไม่สบายใจ 
          - กระสับกระส่าย 
          - หายใจติดขัด 
          - วิตกกังวล 
          - น้ำหนักลดลงโดยไม่ทราบสาเหตุ 
          - นอนไม่หลับ 
          - เหงื่อออกเยอะผิดปกติ 
          - เสียงสั่น 
          - เกิดความผิดปกติของเส้นประสาท 
          - ตาพร่ามัว 
          - หูอื้อ 

          หากเกิดอาการผิดปกติเหล่านี้กับคุณเกิน 5 ข้อ อาจเป็นไปได้ที่คุณจะป่วยเป็นโรค Brain Fag Syndrome แล้วล่ะค่ะ 



แนวทางรักษา 

          เนื่องจากโรคนี้เป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาทและสมอง รวมไปถึงอาการทางจิตเบา ๆ ดังนั้นขั้นแรกก็ควรหลีกหนีจากความเครียดที่เจอไปสักพัก และหากจะให้ดีควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะช่วงที่ต้องเผชิญกับสภาวะกดดันทั้งหลายแหล่ เช่น ช่วงใกล้สอบ ช่วงที่ทำโปรเจคท์ หรือแม้แต่วัยทำงานที่ใกล้วันเสนอผลงาน ซึ่งล้วนแต่ทำให้เกิดความกลัวและความเครียดสะสม ทว่าหากอาการของโรคค่อนข้างหนักจนไม่สามารถหาทางออกได้ด้วยตัวเ­­อง เคสแบบนี้หันหน้าปรึกษาจิตแพทย์โดยตรงเลยดีกว่า 

          นอกจากนี้ ดร.เอกราช บำรุงพืชน์ ชมรมโภชนวิทยามหิดล ยังได้แนะนำว่า ในช่วงที่สมองจะถูกใช้งานอย่างหนัก ควรบำรุงสมองให้พร้อมทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ ด้วยการรับประทานอาหารที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 ช่วยสร้างเซลล์ประสาทในการรับรู้ กรดอะมิโนจากโปรตีนเพื่อให้ร่างกายได้นำไปใช้สร้างสื่อประสาทซึ­­่งทำหน้าที่ถ่ายข้อมูลระหว่างเซลล์ประสาท กลูโคสจากคาร์โบไฮเดรตไว้เป็นเชื้อเพลิงหลักของสมองสำหรับสร้าง­­พลังงาน รวมทั้งเสริมความแข็งแรงให้เซลล์สมองด้วยสารต้านอนุมูลอิสระจาก­­ผักและผลไม้นานาชนิดด้วยก็จะยิ่งดี 

          ทั้งนี้ก็ยังมีซุปไก่สกัดอีกอย่างหนึ่งซึ่งผ่านงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์สุขภาพมามากกว่า 20 ผลงานวิจัยแล้วว่า ซุปไก่สกัดมีสารโปรเบปทิเจน (ProBeptigen) ซึ่งทำหน้าที่รักษาระดับของสารสื่อประสาทที่มี่ชื่อว่า ซีโรโทนิน ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่ทำงานเกี่ยวกับการควบคุมอารมณ์และความ­­เครียดได้อย่างเหมาะสม ที่สำคัญสารชนิดนี้ยังมีส่วนช่วยในการต่อต้านความเครียดและเพิ่­­มประสิทธิภาพในการเรียนรู้และจดจำของสมองอีกด้วยนะคะ 

          การแข่งขันที่สูงขึ้นในทุกวันรวมทั้งสภาพแวดล้อมในยุคนี้ทำให้ป­­ฏิเสธไม่ได้เลย ว่าโลกนี้ชักจะอยู่ไม่ง่ายเหมือนเคยซะแล้ว แต่อย่างไรก็ตามเราควรเตรียมความพร้อมให้ตัวเองสามารถตั้งรับกั­­บทุกสิ่งในชีวิตได้ง่าย ๆ เพียงแค่ดูแลสุขภาพร่างกายของตัวเองอย่างจริงจัง อาหารสุขภาพ การออกกำลังกาย และการพักผ่อนคือสิ่งที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษเลยนะคะ 


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก 
ทวิตเตอร์ ‏@mor_maewTHEGISTRIGHT DIAGNOSISChildren Cancer Fund 

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
Brain Fag Syndrome อ่านหนังสือหนักจนสมองล้า เครียดจัดก่อนสอบ อัปเดตล่าสุด 14 กันยายน 2561 เวลา 08:44:59 36,705 อ่าน
TOP