เมล็ดพันธุ์พืชที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางสารอาหารหลากหลายชนิด มีผลวิจัยที่ช่วยการันตีว่า 6 เมล็ดพันธุ์พืชต่อไปนี้นี่ล่ะ จะเปลี่ยนชีวิตคุณจากหน้ามือเป็นหลังมือ
อย่าตัดสินอะไรจากแค่ภายนอก คำพูดนี้เป็นจริงเสมอ ดูอย่างเมล็ดพันธุ์พืชขนาดจิ๋วที่เราจะนำเสนอต่อไปนี้สิ ใครจะเชื่อว่าอัดแน่นไปด้วยคุณค่าทางสารอาหารที่เป็นประโยชน์กับสุขภาพของเรามากมายมหาศาล ขนาดว่า WAKING TIME ยังการันตีเลยล่ะว่า สุขภาพของคุณอาจฟื้นฟูให้ดีขึ้นได้ง่าย ๆ เพียงแค่เชื่อใจ 6 เมล็ดพันธุ์พืชตามนี้
1. เมล็ดเจีย (Chia seed)
แม้จะเป็นธัญพืชที่ไร้ซึ่งรสชาติ แถมกินแล้วยังติดฟันพอประมาณ แต่เพียงคำนึงถึงประโยชน์ของธัญพืชชนิดนี้เมื่อไร ก็แทบจะไม่สนใจเรื่องสีสันและรสชาติอะไรอีกต่อไป ก็เมล็ดเจียเพียงแค่ 1 ออนซ์ (เกือบ 29 กรัม) ให้ไฟเบอร์ประมาณครึ่งหนึ่งของปริมาณที่ร่างกายควรได้รับต่อวันแล้วนะ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มกำลังวังชา ช่วยเสริมการทำงานของระบบย่อยอาหาร อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่มากกว่าบลูเบอร์รี มีธาตุเหล็กมากกว่าผักโขม และมีปริมาณโพแทสเซียมแซงหน้ากล้วยอีกต่างหาก
นอกจากนี้เมล็ดเจียยังอุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 แคลเซียมที่สูงกว่าปริมาณแคลเซียมในนม มีส่วนช่วยซ่อมแซมกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อที่สึกหรอ แถมยังแก้อาการปวดและอักเสบของข้อต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. แฟลกซ์ซีด (Flax seeds)
เมล็ดแฟลกซ์มีขนาดเล็กก็จริงทว่าเปลือกของเขาค่อนข้างแข็ง โดยมากแล้วจึงควรรับประทานในรูปแบบที่บดละเอียดเพื่อให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารมีประโยชน์ได้อย่างเต็มที่มากขึ้น ซึ่งคุณประโยชน์ของแฟลกซ์ซีด (ประมาณ 30 กรัม) ก็มีทั้งไฟเบอร์เกือบ 8 กรัม กรดไขมัน 12 กรัม แมกนีเซียม 12 กรัม ซึ่งเกือบจะเทียบเท่า ¼ ปริมาณแมกนีเซียมที่ร่างกายควรได้รับต่อวันเชียวล่ะ
นอกจากนี้ผลวิจัยชิ้นหนึ่งยังเผยว่า แฟลกซ์ซีดเป็นอาหารเพื่อสุขภาพที่ช่วยลดความดันโลหิตรวมทั้งลดระดับคอเรสเตอรอลได้ด้วย
3. เมล็ดฟักทอง
เมล็ดฟักทองกรุบกรอบอาจเป็นของว่างจานโปรดของใครหลายคน แล้วคุณทราบไหมล่ะว่า เมล็ดฟักทองไม่ได้มีดีแค่ความมันเท่านั้น ทว่ายังเป็นแหล่งโปรตีน, ธาตุเหล็ก, สังกะสี และแมกนีเซียม ซึ่งช่วยคงระดับความดันเลือด พ่วงด้วยคุณสมบัติเด่นสำหรับคุณผู้ชายด้วยไฟโตสเตอรอล (phytosterols) สารชีวเคมีที่ช่วยบรรเทากลุ่มอาการของโรคต่อมลูกหมากโตได้อยู่หมัด
4. งาดำ
คุ้นเคยกันเป็นอย่างดีเพราะงาดำเป็นส่วนประกอบของอาหารคาวหวานหลายประเภท แถมยังหากินได้ง่าย ดังนั้นใครอยากเสริมแคลเซียม, แมกนีเซียม, ธาตุเหล็ก และสังกะสีให้ร่างกาย งาดำก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย
5. เมล็ดทานตะวัน
อีกหนึ่งของกินเล่นที่คุ้นลิ้นคนไทยมานานอย่างเมล็ดทานตะวันก็แอบมีคุณประโยชน์ดี ๆ เกินคาดพอตัว โดยเฉพาะหากเลือกเป็นอาหารว่างรับซัมเมอร์นี้ได้ยิ่งเริดกันไปใหญ่ เนื่องจากเมล็ดทานตะวันเกือบครึ่งถ้วยตวงก็อุดมไปด้วยวิตามิน E เกินกว่า 100% เต็ม ซึ่งมีส่วนประกอบของสารต้านอนุมูลอิสระที่มีชื่อว่า อัลฟา โทโคฟีรอล (alpha-tocophero) ช่วยป้องกันเซลล์ผิวจากรังสียูวี
อีกทั้งยังมีส่วนประกอบของกรดอะมิโนฟีนิลลาลานีน (phenylalanine) สารอาหารสำคัญของสมองที่มีส่วนช่วยต้านความเครียด กระตุ้นสมองให้เกิดความตื่นตัว หัวสมองแล่นปรู๊ดปร๊าด
6. เมล็ดมะละกอ
เห็นชื่อปั๊บหลายคนก็แอบยี้ในใจ เมล็ดมะละกอนี่หาความอร่อยจากที่ไหนได้นะ ทว่าหากเล็งแต่ผลประโยชน์ของเมล็ดมะละกอก็ต้องบอกว่าฟินอยู่ไม่น้อย เนื่องจากเมล็ดมะละกออุดมไปด้วยกรดไขมันโอเลอิก (oleic) และกรดไขมันปาล์มิติก (palmitic) ซึ่งผ่านการทดสอบมาแล้วว่าสามารถป้องกันความเสี่ยงโรคมะเร็งได้
นอกจากนี้ในแถบละตินอเมริกายังรับประทานเมล็ดมะละกอเพื่อป้องกันการเกิดโรคติดต่อจากเหล่าแมลงอย่างโรคไข้เลือดออก ส่วนการแพทย์แผนจีนก็แนะนำให้รับประทานเมล็ดมะละกอเพื่อดีท็อกซ์ตับด้วยนะคะ
โดยวิธีกินเมล็ดมะกอให้แบบไม่รู้สึกทรมานใจมากนัก แนะนำให้นำไปอบแห้งก่อน แล้วค่อยผสมใส่โยเกิร์ตหรือสลัดผักก็ได้
แม้จะเห็นประโยชน์ด้านสุขภาพจากเมล็ดพันธุ์พืชเหล่านี้ไปแล้ว เชื่อว่าหลายคนยังกึ่งกล้ากึ่งกลัวจะลองรับประทานอาหารเหล่านี้อยู่บ้าง แต่ก็อย่างที่บอกล่ะค่ะว่า หากอยากบำรุงร่างกายตัวเองให้แข็งแรงกว่าที่เป็นอยู่ ลองผสมเมล็ดพันธุ์พืชทั้ง 6 ชนิดนี้กับเมนูจานโปรดของคุณดูก็น่าจะพอกินได้อยู่นะ