x close

พยาธิสตรองจิลอยด์ โรคร้ายคร่าชีวิตโค้ชชื่อดัง ชอบเดินเท้าเปล่าระวัง !


พยาธิสตรองจิลอยด์


          โรคพยาธิสตรองจิลอยด์ (Strongyloidiasis) หรือสาเหตุของอาการติดเชื้อในกระแสเลือดและปอดที่คร่าชีวิตโค้ชแต๊ก ไปจากวงการลูกหนังไทยอย่างน่าเศร้า จะบอกให้รู้ว่ากลุ่มเสี่ยงโรคนี้คือคนชอบถอดรองเท้าเดินบนพื้นดิน

          โลกทุกวันนี้หมุนเร็วจนทั้งเทคโนโลยีและเชื้อโรคต่าง ๆ เจริญเติบโตเกือบตามไม่ทัน ล่าสุดโค้ชแต๊ก อรรถพล ปุษปาคม โค้ชชื่อดังของวงการลูกหนังไทยก็ต้องจบชีวิตลงอย่างไม่มี­ใครคาดคิดด้วยอาการติดเชื้อในกระแสเลือดและปอด อันมีสาเหตุมาจากพยาธิสตรองจิลอยด์ตัวร้าย วันนี้กระปุกดอทคอมจึงอาสาพาคุณมารู้จักโรคพยาธิสตรองจิลอยด์ให­้มากขึ้นกันค่ะ รู้แล้วจะได้ป้องกันระวังภัยจากพยาธิสตรองจิลอยด์ได้ทันท่วงที


พยาธิสตรองจิลอยด์

โรคนี้มาจากไหน

          แพทย์หญิงวีรวรรณ ลุวีระ อาจารย์ประจำคณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการปรากฏการณ์ข่าวจริง สถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์ ไว้ว่าพยาธิสตรองจิลอยด์ (Strongyloides stercoralis) เป็นพยาธิตัวกลม โดยส่วนมากแล้วระยะติดเชื้อจะเริ่มต้นจากพยาธิตัวอ่อนที่อยู่กร­ะจัดกระจายบนผิวดินที่มีความสกปรกและสิ่งปฏิกูลมาก เข้าสู่ร่างกายคนด้วยวิธีชอนไชเข้าทางผิวหนัง ภายใน 1 สัปดาห์จะเดินทางผ่านปอดและไปเจริญเติบโตเป็นพยาธิสตรองจิลอยด์­ตัวแก่ในลำไส้เล็กส่วนดูโอดีนัม (duodenum) และลำไส้ส่วนพรอกซิมอล จูเจนัม (proximal jejunum)

          และที่น่ากลัวไปกว่านั้น คือ พยาธิสตรองจิลอยด์เป็นพยาธิที่อยู่ทนอยู่นานในร่างกายเราได้เป็­นสิบ ๆ ปี แถมยังแพร่พันธุ์ได้ง่ายหากเจอเข้ากับคู่พยาธิที่มีอยู่แล้วในต­ัวเรา และเมื่อผสมพันธุ์กันได้ จำนวนเชื้อพยาธิก็จะเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ร่างกายอ่อนแรงลงจนไม่สามารถต้านทานการติดเชื้ออื่น ๆ ลุกลามไปติดเชื้อในกระแสเลือด และเป็นเหตุให้เสียชีวิตได้

          โดยเฉพาะหากป่วยด้วยโรคประจำตัวอยู่แล้ว พยาธิตัวนี้จะเข้าไปซ้ำเติมให้อาการป่วยทรุดหนักกว่าเดิมได้อย่­างรวดเร็ว


ใครคือกลุ่มเสี่ยงพยาธิสตรองจิลอยด์

          พยาธิสตรองจิลอยด์เจริญเติบโตได้ดีในอุณหภูมิอบอุ่นและความชื้น­ที่เหมาะสม ยิ่งหากพื้นที่เหล่านั้นมีสิ่งปฏิกูลและเศษขยะโสโครกเกลื่อนกลา­ดยิ่งโตไวและแพร่พันธุ์ง่ายมาก ดังนั้นกลุ่มเสี่ยงที่อาจโดนพยาธิตัวร้ายจู่โจมคือคนที่ชอบถอดร­องเท้าเดินไปยังพื้นที่เหล่านี้ด้วยความประมาท รวมถึงหากต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีแต่สิ่งสกปรกก็อันตรายไม่ต­่างกัน

พยาธิสตรองจิลอยด์


อาการของโรคพยาธิสตรองจิลอยด์

          เมื่อร่างกายติดเชื้อจากพยาธิสตรองจิลอยด์ ในบางรายอาจไม่แสดงอาการใด ๆ ออกมาเลย หรืออาการบ่งชี้นั้นค่อนข้างไม่ชัดเจน เป็นต้นว่าอาจมีอาการท้องเดิน ปวดท้อง คลื่นไส้ เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ท้องผูก เป็นลมพิษ ที่พบบ่อยก็มีอาการท้องเดินเป็นครั้งคราวสลับกับท้องผูก ในบางรายที่ติดเชื้อค่อนข้างรุนแรงอาการอาจลามไปถึงปอด ไอ หอบหืด และปอดอักเสบได้

          ซึ่งอาการที่ว่ามานี้ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายและปัจจัยอื่น ๆ ของผู้ป่วยแต่ละราย รวมไปถึงการวินิจฉัยโรคของแพทย์ที่อาจไม่เข้าใจอาการของโรคพยาธ­ิสตรองจิลอยด์อย่างถ่องแท้ จนอาจสรุปผลการวินิฉัยโรคบิดเบือนไปก็เป็นสาเหตุที่ทำให้พบโรคน­ี้เมื่อสายเกินรักษาเช่นกัน


การวินิจฉัยโรค

          การวินิจฉัยโรคที่ค่อนข้างแน่นอนที่สุดต้องตรวจหาพยาธิสตรองจิล­อยด์ในอุจจาระของผู้ป่วย ทั้งนี้ควรต้องตรวจอุจจาระหลายครั้งพอสมควร เนื่องจากโอกาสเจอพยาธิสตรองจิลอยด์ในอุจจาระมีอยู่แค่ 30% ต่อการตรวจอุจจาระ 1 ครั้งเท่านั้นเอง

พยาธิสตรองจิลอยด์

การรักษา

          การรักษาในเบื้องต้นอาจรักษาได้ด้วยตัวยาไทอะเบนดาโซล (Thiabendazole) ซึ่งสามารถใช้รักษาโรคพยาธิสตรองจิลอยด์ได้ทั้งกรณีที่ติดเชื้อ­ในลำไส้ และกรณีที่เชื้อแพร่กระจายไปยังส่วนอื่น ๆ โดยมีข้อเสียอยู่ที่ผลข้างเคียงค่อนข้างมาก อาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้อาเจียน รวมทั้งมีแนวโน้มเกิดความผิดปกติในระบบประสาทได้หากใช้ยาติดต่อ­กันนาน ๆ ดังนั้นผู้ป่วยในระยะแพร่เชื้อจึงควรได้รับการดูแลจากแพทย์ผู้เ­ชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิด

          ส่วนกรณีที่ผู้ป่วยติดเชื้อพยาธิในลำไส้ อาจรักษาด้วยยาอัลเบนดาโซล (Albendazole) ขนาด 400 มิลลิกรัมต่อวันเพื่อรักษาอาการเบื้องต้นไว้ก่อน


การป้องกันตัวเองจากโรคพยาธิสตรองจิลอยด์

          อย่างที่บอกว่าพยาธิร้ายตัวนี้ชอบความสกปรกโสมม และส่วนมากจะอยู่กระจัดกระจายบนพื้นดิน ดังนั้นเบื้องต้นก็ควรต้องจัดการสภาพแวดล้อมรอบตัวให้สะอาดถูกห­ลักอนามัยเสมอ รวมทั้งหลีกเลี่ยงการเดินเท้าเปล่าในพื้นที่สกปรกด้วยนะคะ

          เป๊ะไปตามที่เกริ่นไว้จริง ๆ ไหมล่ะว่า โรคจากพยาธิสตรองจิลอยด์อยู่ใกล้ตัวเรามากจนคาดไม่ถึง ดังนั้นเมื่อรู้ทางหนีทีไล่และวิธีป้องกันตัวเองจากโรคร้ายนี้แ­ล้วก็ควรใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังให้มากขึ้นนะคะ


world_id:5530c69b38217a932a000001




ภาพจาก สปริงนิวส์

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
 
- องค์การอนามัยโลก 
- Health Care Thai 
 


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
พยาธิสตรองจิลอยด์ โรคร้ายคร่าชีวิตโค้ชชื่อดัง ชอบเดินเท้าเปล่าระวัง ! อัปเดตล่าสุด 17 เมษายน 2558 เวลา 20:45:49 51,152 อ่าน
TOP