ลดความอ้วน ด้วยวิธีออกกำลังกายและคุมอาหารแบบฉบับเธอคนนี้... จากที่เคยหนักกว่า 78 กิโลกรัม แต่ก็สามารถรีดน้ำหนักทิ้งไปได้ถึง 20 กิโลกรัม ภายในเวลา 7 เดือน แม้จะช้าไปหน่อยแต่ก็ชัวร์ ซึ่งคุณเองก็ทำได้เช่นกันค่ะ
สำหรับใครที่เคยลดความอ้วน คงจะรู้สึกได้ถึงความยากลำบากในช่วงเวลานั้นกันอย่างแน่นอน เพราะไหนจะลองทำทุกอย่างทุกวิธีแล้ว แต่ตัวเลขของน้ำหนักก็ไม่มีทีท่าว่าจะลดลงให้ชื่นใจเสียที ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องธรรมดานะคะสาว ๆ เพราะการลดน้ำหนักไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไป ขอเพียงแค่มีความตั้งใจจริง เชื่อว่าสักวัน เป้าหมายของคุณจะต้องอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมอย่างแน่นอน
ซึ่งเหมือนกับเรื่องราวของคุณ Connect_nim สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม เธอคนนี้ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ใช้ระยะเวลาในการลดน้ำหนักนานแสนนาน แต่ทว่าเธอพยายามออกกำลังกายและควบคุมอาหารด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ ทำให้ภายใน 7 เดือน เธอสามารถที่จะลดน้ำหนักได้ถึง 20 กิโลกรัม ซึ่งทุกวันนี้จากที่เธอเคยได้รับแต่คำล้อเลียนว่าอ้วน กลับกลายเป็นได้รับคำชมว่าผอมแล้วสวยขึ้นจากคนรอบข้าง ซึ่งถือเป็นผลรางวัลแห่งความตั้งใจที่เธอได้พยายามทำมาทั้งหมด ถึงแม้จะช้าไปหน่อย แต่เธอก็ผอมลงได้แบบถาวร ที่สำคัญไม่ต้องเพิ่งยาลดความอ้วน น่าภูมิใจสุด ๆ เลยค่ะ และสำหรับคุณสาว ๆ คนไหนที่อยากจะทำได้อย่างเธอคนนี้บ้าง ลองมาดูวิธีลดน้ำหนักของเธอเพื่อเป็นแนวทางกันเลยค่ะ รับรองว่าเธอทำได้ คุณเองก็ทำได้แน่นอน
สวัสดีค่ะ ในที่สุดก็ได้โอกาส ทำรีวิวการเปลี่ยนแปลงของตัวเองสักที อาจจะเป็นประโยชน์ และเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนที่กำลังลดความอ้วนอยู่เช่นกันนะคะ
แนะนำตัวกันหน่อย
ชื่อ นิ่ม อายุ 27 ปี น้ำหนักปัจจุบัน 58 กิโลกรัม ส่วนสูง 160 เซนติเมตร เป็นคนรูปร่างอวบ ๆ อยู่แล้ว น้ำหนักเกินเกณฑ์มาตั้งแต่เด็ก โดนล้อมาตลอดชีวิต เช่น อีอ้วน หมูตอน ฮิปโป ช้าง และวัตถุที่เป็นทรงกลมทุกอย่าง ก็จะโดนล้อมาตลอด (เจ็บปวด) ส่งผลให้เป็นคนขาดความเชื่อมั่นในตัวเองสุด ๆ ฮือ...
แรงบันดาลใจให้ลุกขึ้นมาปฏิวัติตัวเอง
ปกติน้ำหนักจะอยู่ที่ประมาณ ไม่เกิน 65 ควบคุมอาหาร (ก็อ้วนแหละ) แต่มีช่วงปี 56-57 แบบว่ามีความสุข ปล่อยปละละเลยในการดูแลตัวเองและไม่ควบคุมการกิน ขนม ของหวาน จัดเต็ม โอ้ววว น้ำหนักพุ่งถึง 78 ควบคุมอาหาร (กรี๊ด เกือบ 80+ หรืออาจจะมากกว่านั้นด้วย) ตาย ๆๆ เสื้อผ้าคับหมด โดนทักตลอดว่า อ้วนขึ้นจัง ไปทำอะไรมา อ้วนขนาดนี้ตัวจะแตกไหมเนี่ย (แรงเนอะ คนพูดก็ไม่คิดถึงจิตใจเราเลย) กลับบ้านต่างจังหวัด โดนญาติและคนใกล้ตัวทักอีกมากมาย เสียเซลฟ์ เครียด ไม่อยากเข้าสังคม รู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า ไม่สวย ไม่กล้าถ่ายรูป (ความรู้สึกยากเกินบรรยาย)
ไม่ได้การละ เราอยู่เฉย ๆ ไม่ได้แล้ว คือปกติแล้วก็ออกกำลังกายบ้างนะคะ แต่ไม่ค่อยต่อเนื่องและไม่ค่อยจริงจัง แต่จากนี้ไปจะจริงจังแล้วนะ เช้าวันนั้น (1 ก.ย. 57) ไปซื้อรองเท้าวิ่งมาใหม่ (เป็นแรงบันดาลใจในการออกวิ่งอีกครั้ง) และบอกตัวเองว่า เราต้องทำให้ได้ เราจะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ได้ กำลังใจสำคัญที่สุด
มาดูรูปกัน
ช่วงเช้า
05.45 – 07.00 น. วิ่งลู่วิ่งไฟฟ้าที่ฟิตเนสคอนโด ใช้เวลาวิ่งต่อเนื่อง 40 นาที Speed 7.5-8 การวิ่งตอนเช้าได้ผลดีมากสำหรับเรานะคะ เห็นผลเร็วมาก เบิร์นดีมาก ๆ
ช่วงเย็น (หลังเลิกงาน)
17.00 – 19.00 น. ที่ทำงานเราจะมีฟิตเนสและชมรมแอโรบิค มีเพื่อนเยอะด้วย สนุกดี ช่วงเย็นมีเวลาออกกำลังกายได้หลายอย่างเลยค่ะ เบื่อ ๆ ก็เปลี่ยน ๆ กันไป สลับ ๆ เครื่องเล่นด้วย เช่น
แอโรบิคต่อเนื่อง 45 นาที
วิ่งลู่วิ่งไฟฟ้า 30 นาที
ปั่นจักรยาน 30 นาที
ลู่เดินกึ่งสเต็ป 30 นาที
กระโดดเชือก 1,000 ครั้ง นับเป็นเซต เซตละ 100 ครั้ง 10 เซต
โดยปกติจะใช้เวลาประมาณ 1.30 ชั่วโมง/วัน ช่วง 2-3 เดือนแรก จะเน้นการเบิร์นมากค่ะ
*** อยากแนะนำว่า ให้หากิจกรรมที่เราชอบ และสามารถทำต่อเนื่องได้ 30-40 นาทีต่อเนื่อง ถึงจะเพียงพอสำหรับการออกกำลังกายในแต่ละวัน เช่น นิ่มชอบการวิ่ง ก็วิ่งต่อเนื่อง 40 นาทีต่อวัน เป็นต้น และมีเพื่อนแนะนำการเวท เราก็หาข้อมูลประกอบด้วย เล่นเวทให้กระชับ และเร่งการเผาผลาญ เราใช้การเวทตามท่าประมาณนี้ และบางวันที่ติดภารกิจ ก็พยายามเวทเทรนนิ่งอยู่ที่ห้องค่ะ
เครดิตตามรูป
การทานอาหารสำคัญมาก สำหรับการลดความอ้วน ลองผิดลองถูกมาหลายวิธีแล้ว รอบนี้เราจะตั้งใจแล้วล่ะ ทำให้ถูกต้อง กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ และไม่เครียดมาก เพราะสามารถทำได้ตลอดและไม่ทรมาน
** ช่วงเดือนแรก ๆ ฟิตจัด กินน้อยลงมาก ๆ หลัง ๆ มาไม่ไหว กินน้อยเกินไป ออกกำลังกายหนักด้วย แค่เดินยังจะเป็นลม ช่วงเดือนที่สองก็ปรับเปลี่ยนวิธีการกิน ไม่อด กินให้เพียงพอต่อปริมาณที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน โอเค เดินทางสายกลางดีที่สุดนะทุกคน
1. งดของหวาน ของมัน ของทอด กะทิ ขนมขบเคี้ยว เรียกว่าของอ้วน ๆ ก็ลด ๆ จนถึงไม่อยากกินไปเลย
2. ทำอาหารทานเอง ออกตัวก่อนว่าไม่คลีน 100% แต่เป็นคนไม่ทานอาหารรสจัดอยู่แล้ว ช่วงลดความอ้วนก็ลดปรุง คือปรุงน้อยลง (เช่น กินก๋วยเตี๋ยวก็ไม่ปรุงเลย) เน้นผัก ปลา ไก่ ผลไม้ไม่หวาน เปลี่ยนมากินข้าวกล้อง เพราะอิ่มนาน ช่วยเรื่องการขับถ่ายด้วย
3. นับแคลอรี ก็เรียกว่าไม่แม่นมาก แต่ก็พอคำนวณคร่าว ๆ ในหนึ่งวันไม่ควรกินเกิน 1,500 แคลอรี เพราะร่างกายสามารถเผาผลาญได้หมดและไม่เก็บมาสะสมเป็นไขมันส่วนเกิน
4. ลดปริมาณการกิน เช่น จากเคยกินข้าวเต็ม ๆ จาน จนถึงพูนจาน หรือการสั่งกับข้าวพิเศษ ก็ลดลง แต่ปัญหาที่พบคือ เราจะหิวระหว่างวัน ประมาณบ่าย 2 - บ่าย 3 ก็จะเริ่มหิว วิธีของเราคือ เตรียมมันเทศนึ่ง หรือฟักทองนึ่ง ไว้กินในเวลาหิว ประโยชน์ของมันเทศมีมากมาย เราชอบมาก หาอ่านได้ทั่วไปค่ะ
แต่งานปาร์ตี้ สังสรรค์ก็ยังมีอยู่นะคะ แต่เลือกกิน และจำกัดปริมาณการกินด้วย หลัก ๆ ที่ทำก็ประมาณนี้ ทุก ๆ คนก็พอจะทราบ และเราคิดว่าทุกคนทำได้ ขอเพียงใจเราเข้มแข็ง ใจเท่านั้น เปลี่ยนวิธีคิด ความสำเร็จอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
สิ่งที่ได้มาจากความเพียรพยายาม
1. มีความมั่นใจมากขึ้น ทั้งการแต่งตัว และการเข้าสังคม เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่า มนุษย์เป็นสัตว์สังคม การที่เราพยายามหลอกตัวเองมาโดยตลอดว่า อ้วนก็สวยได้ อ้วนก็ไม่หนักหัวใคร แต่ถ้าเราได้ลองพยายาม และตั้งใจลดความอ้วนอย่างจริงจังและเมื่อมีหุ่นแบบคนปกติ ธรรมดาทั่วไป ย่อมมั่นใจกว่า จริงไหม ?
2. สุขภาพดีขึ้นมาก เรียกได้ว่า แทบไม่เป็นหวัดเลย ร่างกายแข็งแรง กล้ามเนื้อกระชับ
3. ความภาคภูมิใจ และสามารถลบคำสบประมาทของบางคนได้ว่า ทำไม่ได้หรอก ลดไม่ได้หรอก แต่ในเมื่อคนอื่นทำได้ ทำไมเราจะทำไม่ได้ อีกอย่างคือ เราไม่เคยกินยาลดความอ้วน หรืออาหารเสริมใด ๆ เลย แค่ควบคุมอาหารและออกกำลังกายเท่านั้น
7 เดือนผ่านไป เย้ ๆ น้ำหนักลดลงไปเป็น 20 กิโลกรัม เลยทีเดียว คนทักมากมาย นิ่มผอมลง ผอมลงแล้วสวยเลย 555
ส.ค. 57 > น้ำหนัก 78 กิโลกรัม
ก.ย. 57 > น้ำหนัก 74 กิโลกรัม
ต.ค. 57 > น้ำหนัก 70 กิโลกรัม
พ.ย. 57 > น้ำหนัก 65 กิโลกรัม
ธ.ค. 57 > น้ำหนัก 62 กิโลกรัม
ม.ค. 58 > น้ำหนัก 60 กิโลกรัม (ช่วงน้ำหนักลงช้ามาก ๆ เหนื่อย เพลีย ท้อ รู้สึกหมดกำลังใจ แต่เราก็ต้องสู้ต่อไป เพื่อเป้าหมายของเรา เพิ่มการคาร์ดิโอ เพิ่มเวทเทรนนิ่ง ลดอาหารลงอีกนิดค่ะ)
ก.พ. 58 > น้ำหนัก 58 กิโลกรัม (เย้ ๆ ในที่สุดก็ได้ตามเป้าหมายแล้ว รวมน้ำหนักที่ลดลงไปได้ 20 กิโลกรัม เป็นไปได้จริง ๆ เราทำได้ ! )
รอบอก จาก 40 นิ้ว เหลือ 37 นิ้ว
รอบเอว จาก 33 นิ้ว เหลือ 29 นิ้ว
สะโพก จาก 42 นิ้ว เหลือ 38 นิ้ว
เสื้อผ้า จากไซส์ 2XL ตอนนี้ใส่เบอร์ L
ภาพจาก Instagram prayalundberg
ภาพจาก Instagram janienineeleven
กระแสตอบรับดีมากเลย ขออัพโหลดรูปปัจจุบันให้ดูด้วยนะคะ
เห็นไหมคะสาว ๆ ว่าแค่การออกกำลังให้ถูกต้อง กับการควบคุมอาหารให้ถูกวิธี แค่นี้ก็สามารถทำให้น้ำหนักของคุณลดลงได้แล้ว แต่ถึงแม้บางคนอาจจะต้องใช้เวลานานหน่อย ขอเพียงแค่ให้มีความพยายามอีกนิด อดทนอีกหน่อย รับรองว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ต้องมาถึงได้สักวันอย่างแน่นอนค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ Connect_nim สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม