(ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล)
ไวรัสเมอร์ส กระทรวงสาธารณสุข สั่งทุกจังหวัดทั่วประเทศไทยเฝ้าระวังเชื้อไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ 2012 หรือ ไวรัสเมอร์ส แนะประชาชนยึดหลัก กินร้อน ช้อนกลาง และล้างมือฟอกสบู่บ่อย ๆ หลังสัมผัสสิ่งสาธารณะ
จากกรณีที่ประเทศเกาหลีใต้ ได้มีการตรวจพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ 2012 หรือ เมอร์ส-โควี โดยผู้ป่วยมีอาการไอและไข้ขึ้นสูง หลังเดินทางกลับจากประเทศในแถบตะวันออกกลาง และยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต
วันนี้ (1 มิถุนายน 2558) นายแพทย์สุรเชษฐ์ สถิตินิรามัย รักษาราชการแทนปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้เฝ้าระวังโรค เมอร์ส-โควี หลังจากเริ่มมีรายงานพบผู้ป่วยในแถบตะวันออกกลางตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นมา แม้ว่าจนถึงขณะนี้จะยังไม่พบผู้ป่วยในประเทศไทยก็ตาม จะยังคงมาตรการอย่างต่อเนื่อง 3 เรื่อง คือ ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดและโรงพยาบาลทุกแห่ง เฝ้าระวังผู้ป่วย เน้นกลุ่มที่มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ ควบคุมการแพร่กระจายเชื้อในสถานพยาบาลในระดับสูงสุดเช่นเดียวกับโรคซาร์ส
ให้กรมควบคุมโรควางแผนการดูแลสุขภาพชาวไทยมุสลิมที่จะเดินทางไปร่วมพิธีฮัจญ์ประเทศซาอุดิอาระเบีย จำนวน 10,400 คน ฉีดวัคซีนป้องกันโรคตามที่กระทรวงสาธารณสุขประเทศซาอุดิอาระเบียกำหนด และจัดระบบติดตามเฝ้าระวังสุขภาพหลังเดินทางกลับ และจัดทำคำแนะนำในการดูแลสุขภาพและป้องกันโรคแก่ประชาชนทั่วไปที่จะเดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยง
ด้านนายแพทย์โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า เชื้อไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ใหม่ 2012 เป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคติดเชื้อทางเดินหายใจเฉียบพลัน มีอาการรุนแรงคล้ายโรคซาร์ส ติดต่อกันจากการไอจาม โดยพบผู้ป่วยล่าสุดที่ประเทศเกาหลีใต้ รวมยอดสะสมตั้งแต่ปี 2555 พบผู้ป่วยรวม 1,139 ราย ใน 24 ประเทศ เสียชีวิต 431 ราย สำหรับประเทศไทยจะมีมาตรการเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง และขอให้ประชาชนที่มีแผนการเดินทางไปประเทศตะวันออกกลาง ปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข โดยให้ยึดหลัก กินร้อน ช้อนกลาง และล้างมือฟอกสบู่บ่อย ๆ หลังสัมผัสสิ่งสาธารณะ หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสัตว์โดยเฉพาะอูฐ
ทั้งนี้หากมีอาการป่วยคล้ายไข้หวัด มีไข้สูง ไอ มีน้ำมูก ขอให้ใส่หน้ากากอนามัย และพักผ่อน หากอาการไม่ดีขึ้นใน 2 วัน ให้รีบไปพบแพทย์ ส่วนผู้ที่มีโรคประจำตัวและผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำ ขอให้รีบไปพบแพทย์ทันที เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงจะเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง
