ลดน้ำหนักเปลี่ยนแปลงตัวเอง ทำได้เพราะแรงบันดาลใจจากคำว่า อีอ้วน !!

          ลดน้ำหนัก เพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเอง โดยใช้สารพัดคำด่าคำล้อเลียนมาเป็นแรงบันดาลใจ ผลสุดท้ายเธอก็ทำได้ ! แถมยังน่ารักและดูดีมากขึ้นอีกด้วย

          สาวอ้วนทั้งหลาย หลายคนคงเคยช้ำใจกับสารพัดคำล้อเลียนจากเพื่อน ๆ และคนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็น อีอ้วนบ้างล่ะ ช้างน้ำบ้างล่ะ ซึ่งจุดนี้อาจทำให้ใครหลายคนกลายเป็นคนที่เสียความมั่นใจในตัวเองไปเลยก็มี แต่ทั้งนี้สำหรับใครที่มีปมด้อยนี้อยู่ในใจ หากเปลี่ยนจุดนี้ให้กลายเป็นแรงผลักดันในการเปลี่ยนแปลงตัวเอง คุณก็อาจจะประสบความสำเร็จและกลายเป็นคนใหม่ได้ไม่ยาก

          เหมือนกับเรื่องราวของเธอคนนี้ ที่โตมากับคำว่า "อีอ้วน" และไม่เคยคิดจริงจังกับการลดน้ำหนักเลย จนกระทั่งเข้าสู่มหาวิทยาลัยจึงได้แรงบันดาลใจจากสารพัดคำด่าของเพื่อน ๆ รอบข้าง ทำให้จุดนี้กลายเป็นจุดเปลี่ยนให้เธอสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองจากอีอ้วน 103 กิโลกรัม กลายเป็นสาวอวบ 65 กิโลกรัมได้ภายในระยะเวลา 2 ปีกว่า ถึงแม้จะไม่ใช่เวลาที่รวดเร็ว แต่มันก็ทำให้เธอภูมิใจที่สามารถเอาชนะความตั้งใจของตัวเองได้สำเร็จ

          และสำหรับคุณสาว ๆ คนไหนที่อยากจะรู้ว่าเส้นทางลดน้ำหนักเพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเองของเธอคนนี้จะทำได้ง่ายหรือยากขนาดไหน ตามมาอ่านเรื่องราวของคุณ 2450851 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับตัวเองกันเลยค่ะ

          สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ นี่ก็เป็นการตั้งกระทู้แรกของเราเลยนะ หากมีข้อผิดพลาดประการใดเราขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะจ๊ะ คือเราสร้างกระทู้นี้ขึ้นมาเพื่อต้องการสร้างแรงบันดาลใจสำหรับคนที่อยากลดน้ำหนัก

          ก่อนอื่นเราขอแนะนำตัวเองก่อนนะ เรามีนามว่า อิ๋ว ตอนนี้กำลังจะขึ้นปี 4 เรียนอยู่มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งย่านรัชดาที่มีสายไฟบังป้ายมหาวิทยาลัย 55555

          เอาเป็นว่าพอรู้จักกันแล้วเนอะ งั้นเรามาเริ่มกันเลยดีกว่า

          เราเป็นคนที่โดนด่าว่าอ้วนตั้งแต่จำความได้ 5555 คือเราเป็นคนอ้วนตั้งแต่เด็ก ตอนเด็ก ๆ ยายเราจะเป็นคนเลี้ยงเรา เพราะพ่อแม่เราต้องมาทำงานที่กรุงเทพมหานคร เราก็เลยใช้ชีวิตอยู่กับยาย พี่ น้าที่บ้าน ยายเราชอบเด็กจ้ำม้ำเลยเลี้ยงเราแบบตามใจปาก ร้องเมื่อไรยัดขวดนมเข้าปาก 5555 เราเป็นหลานคนเล็กจึงโดนตามใจมากในเรื่องการกิน น้าเราเล่าให้ฟังว่ามีอยู่ครั้งหนึ่ง พี่ชายที่อยู่บ้านเดียวกันเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน (บ้านเราเป็นครอบครัวใหญ่อยู่ด้วยกันหลายคน) ซื้อลูกชิ้นมาให้เรากิน เพราะพี่แกกลับจากโรงเรียนแล้วแกจะซื้อมาให้เรากินบ่อย เราก็กินจนหมดแล้วดันไม่อิ่ม เราก็ร้องไห้ดังไปสามบ้านแปดบ้านอยากกินลูกชิ้นอีก ยายเราเลยต้องให้พี่เราขี่มอเตอร์ไซค์ไปซื้อให้อีก 55555 พอได้กินก็เงียบกริบ นี่ไม่เคยยอมเลยเรื่องการกิน อยากกินอะไรยายก็หามาให้กิน เลยกลายเป็นเด็กสมบูรณ์ (เกิน) ตั้งแต่เด็ก

          เราไม่เคยสัมผัสกับคำว่าผอมเลย เราโตมาด้วยคำว่า "อีอ้วน" เรียนโรงเรียนตั้งแต่ประถมศึกษาจนถึงมัธยมศึกษาก็โดนด่า อีอ้วน ! ช้างน้ำ ! ถังแก๊ส ! สารพัดอะไรที่มันใหญ่โตมโหฬาร คือโดนมาหมด 55555 พวกสรรหาคำด่าก็ขยันหากันมาได้จริง ๆ ตอนนั้นที่โดนด่ามันก็รู้สึกเจ็บนะว่าเราไปทำอะไรให้หนักหนาทำไมต้องว่าอย่างนี้ อ้วนแล้วทำไม ? ไม่ได้ไปขอใครกิน ไม่ได้ไปเปิดหม้อข้าวบ้านพวกเขากิน ทำไมต้องมาดูถูกกันแบบนี้ บางครั้งก็แอบมาร้องไห้คนเดียว ว่าทำไมเราต้องโดนว่าแบบนี้ ทำไมเราต้องเป็นอย่างนี้ ทำไมต้องอ้วนแบบนี้ แต่พอคิดไปคิดมา ไหน ๆ ก็อ้วนแล้ว "ต่อ" 555555555 คือมันอยากลดนะแต่อดไม่ได้ เชื่อว่าหลาย ๆ คนเคยเป็น อยากผอมแต่หยุดปากตัวเองไม่ได้ นู้นก็อยากนี่ก็อยากไปหมด และยิ่งกับข้าวตอนเย็นนี่แบบ หืมมมมม ต้องกระโดดเข้าใส่อะ 55555

          เราปล่อยตัวเองให้อ้วนมาตลอด เราไม่เคยจริงจังกับการลดเลย ช่วงมัธยมศึกษาตอนปลายน้ำหนักเราขึ้นมาที่ 90 กิโลกรัม โอ้โห อีกสิบกิโลกรัมก็ร้อย 5555 แต่นางก็ไม่หวั่น นางก็กินต่อจ้า และแบบคืออดใจไม่ไหว ตกเย็นข้างโรงเรียนของกินนี่มาเต็ม อดไม่ได้จ้า แล้วเพื่อนเราแต่ละคนคือแบบไซส์บิ๊กเบิ้มเยอะ เราก็ไม่แคร์จ้า ไปไหนไปกัน 555

มีรูปมาฝากด้วย

อลังการงานช้างมากเลยใช่ไหม 55555

จนกระทั่งเราได้เข้ามาเรียนมหาวิทยาลัย เหมือนโลกมันเปลี่ยนไป เราต้องพบเจอคนใหม่ ๆ เพื่อนใหม่ สถานที่ใหม่ ผู้คนใหม่ ๆ การเข้ามาเป็นเฟรชชี่แน่นอนต้องผ่านกับการรับน้องปฐมนิเทศ นั่นแหละเป็นสิ่งจุดประกายที่ทำให้เราอยากลดน้ำหนัก มันทำให้เราคิดที่จะเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเอง แต่กว่าจะเริ่มคิดได้น้ำหนักปาเข้าไป 103 กิโลกรัมจ้า คืออ้วนสุดแล้วตั้งแต่เกิดมา 555555 เราโดนด่าด้วยคำว่า อีอ้วน มาตลอด มันเป็นคำที่เราเกลียดและอยากหลุดพ้นไปจากคำนี้สักที เราจึงเก็บคำว่า "อีอ้วน" เนี่ยแหละมาเป็นแรงบันดาลใจในการลดน้ำหนัก

จุดเริ่มต้นของการลดน้ำหนักของเรา แน่นอนต้องไม่พ้นยาลดน้ำหนัก ใช่ ! เราเริ่มต้นจากการกินยาลดน้ำหนักยี่ห้อหนึ่ง เป็นแคปซูลประมาณ 30 เม็ด ตอนนั้นเราอยู่ประมาณปี 1 เทอม 2 เรากินอยู่ประมาณเดือนหนึ่ง คือน้ำหนักมันลดจริงนะ ขณะที่กินตอนนั้นคือลดไปประมาณ 5 กิโลกรัม คือตอนนั้นดีใจสุด ๆ แล้ว คือไม่เคยลดเยอะขนาดนี้จาก 103 กิโลกรัม เหลือประมาณ 98 กิโลกรัม เลขสองหลักแล้ว แต่ผลข้างเคียงมันก็มีนะ คือจะหงุดหงิดง่ายมาก เพื่อนรอบข้างเราบอกเลยว่าเราอารมณ์ร้อนขึ้น เราเลยตัดสินใจหยุดกิน บวกกับการไม่มีตังค์ซื้อแล้ว 555555 เลยหยุดกิน จากนั้นเรากลัวที่มันจะโยโย่ เราจึงเริ่มปฏิบัติการด้วยการลดด้วยตัวเอง...

อันนี้คือเริ่มลดลงมาได้ 5 กิโลกรัม

ต่อมาเราก็ได้ลดด้วยตัวเองต่อ

          เราเริ่มลดน้ำหนักด้วยวิธีของตนเอง อาจจะเป็นวิธีที่ผิดไปบ้าง อยากให้เพื่อน ๆ ใช้วิจารณญาณในการชมนะ 55555 เอ๊ะ !! คืออยากให้เพื่อน ๆ เอาไปปรับใช้กัน เพราะวิธีที่เราลดมันอาจจะโหดไปหน่อย

          อาหารการกิน - เราจะกินข้าววันละมื้อ ย้ำวันละมื้อ โหดมาก 55555 คืออยากกินอะไรกินไปเลยให้เต็มที่ในมื้อนั้น ส่วนมากเราจะเน้นตอนกลางวัน เราจะกินแค่มื้อนั้นมื้อเดียว หลังจากนั้นคืองด ถ้าหิวเราจะกินนมถั่วเหลือง ผลไม้ ถ้าหิวมาก ๆ ตอนเย็น เราจะกินยำวุ้นเส้น ส้มตำ คืออาหารอะไรก็ได้ที่แคลอรีน้อย ๆ แป้งน้อย ๆ คือบางทีมันก็มีหลุดบ้างนะ ก็มีแอบกินตอนเย็นบ้างสำหรับวันที่ไม่ไหวแล้วจริง ๆ ถ้าเรารู้ว่าวันนั้นเรากินเยอะ วันต่อมาเราจะกินให้น้อยลง

          ออกกำลังกาย - เราจะเล่นฟิตเนสสัปดาห์ละประมาณ 3-5 วัน ระยะเวลาประมาณชั่วโมงครึ่ง บางวันก็ชั่วโมงหนึ่ง คืออย่างน้อยต้องออกสักครึ่งชั่วโมงก็ยังดี ในฟิตเนสเราจะเน้นการเล่นที่ช่วยเบิร์น คือการวิ่งลู่วิ่งและปั่นจักรยาน แล้วก็เล่นอุปกรณ์บริหารส่วนต่าง ๆ ของร่างกายนิดหน่อย

          เราทำแบบนี้เป็นระยะเวลาประมาณ 3 เดือน น้ำหนักเราลดลงมาเหลือ 80 กิโลกรัม หายไปประมาณ 18 กิโลกรัม ในระยะเวลานี้คือที่สุดแล้ว 555555 เอวจาก 40 ตอนนั้นเหลือ 36 คือต้องบอกก่อนว่าเราเป็นคนสูง 165 เซนติเมตร ถึงแบบน้ำหนักจะลงแต่เราเป็นคนไหล่กว้าง เลยยังดูเป็นคนตัวใหญ่ เสื้อผ้าต้องเปลี่ยนหมด ช่วงนั้นจะอยู่ประมาณขึ้นปี 2 พอดี เปิดเทอมใหม่ชุดใหม่ก็มาจ้า จากนั้นเราก็เริ่มหย่อนในการลดน้ำหนักมากขึ้น ค่อยเป็นค่อยไปไม่หักโหมเหมือนตอนแรก คือเราเริ่มพอใจกับรูปร่างเราแล้ว แต่ต้องลงให้ได้อีก เราก็เลยลดต่อไป

ตอนนี้คือลดเหลือ 80 กิโลกรัม

          คราวนี้เราลดน้ำหนักโดยการควบคุมอาหารและปริมาณแคลอรี คือเราจะโหลดแอพฯ มาเลยว่าอาหารแต่ละอย่างเรากินไปเท่าไร แล้วแต่ละวันเราต้องกินไปเท่าไร คือจะพยายามไม่ให้เกินพลังงานต่อวันที่เราได้รับ คราวนี้คือบ้าคำนวณมากเลยจ้า 55555 กินอะไรต้องคำนวณตลอด แต่เราก็ว่ามันได้ผลอยู่นะ มันจะทำให้เรายับยั้งปากของเราได้บ้าง และในแต่ละวันคือต้องกินน้ำให้มาก ๆ คือเราไม่ได้ลดแบบหักโหม ค่อยเป็นค่อยไป บางวันอยากกินหนัก ๆ หรืออยากกินของหวานเราก็จะจัด แต่พอกินไปวันต่อมาเราจะเบาคือจะลดปริมาณการกินลง

          การลดน้ำหนักถ้าเรายิ่งเครียดน้ำหนักมันก็จะไม่ลด อย่ายึดติดกับน้ำหนักมาก ให้สังเกตที่ร่างกายเราเองมากกว่า เมื่อไรที่กางเกงคับหรือเสื้อคับ นั่นแหละคือเราอ้วนขึ้นแล้วจริง ๆ แต่เราก็ติดชั่งน้ำหนักนะ เกือบทุกวันหน้าเซเว่น 55555 รู้เนอะแต่มันก็ยังกังวลเรื่องนี้อยู่ ผู้หญิงอะเรื่องน้ำหนักนี่มาก่อน 555555 บางครั้งก็เปิดดูสูตรต่าง ๆ อาหารคลีนบ้าง สูตรเร่งรัดบ้าง คือเราก็ทำมันมาหมด แต่สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้คือการออกกำลังกาย เราห่างหายไปจากฟิตเนสเนื่องจากคนเยอะ 55555 (ฟรี เพราะเป็นของมหาวิทยาลัย) เราเลยออกกำลังกายโดยการออกไปวิ่งรอบสนามฟุตบอลบ้าง ตีแบดมินตันบ้าง แอโรบิกบ้าง แล้วแต่ถ้ามีเวลา แล้วหลัง ๆ คือจะมาฮิตเต้น T25 มีเหรอเราจะพลาด ไม่พลาดจ้า เอากับเขาด้วย 55555 และเราจะมาเน้นเรื่องหน้าท้องมากขึ้น เพราะกินแล้วจะลงพุง ลงสะโพก เราเลยจะมาเน้นที่จุดนี้

          หลังจากที่เราปฏิบัติแบบนี้ น้ำหนักเราลงมาอยู่ที่ 70 กิโลกรัม หายไป 10 กิโลกรัม เอวเหลือ 32 นิ้ว ภายในระยะเวลาประมาณ 3 เดือน คือจุดนี้คือดีใจสุดแล้วจริง ๆ คือมันเห็นได้ชัด สัดส่วนเริ่มเห็น คนเริ่มมาจีบ 55555 ทุกคนรอบข้างเริ่มตกใจในการเปลี่ยนแปลง คนที่บ้านก็บ่นว่าผอมไปแล้ว ยิ่งยายนี่บอกให้กินเยอะ ๆ ไม่อยากให้ผอม คือท่านไม่เคยคิดว่าเราจะเหลือตัวแค่นี้ มันหายไปเกือบ 30 กว่ากิโลกรัม เปลี่ยนเป็นอีกคน ฟินเลยจ้าตอนนั้น จากที่ไม่มีผู้ชายมาจีบก็เริ่มมีนะจ๊ะ เสื้อผ้าที่อยากใส่ก็ใส่ได้หมดจ้า

อันนี้คือตอนหนัก 70 กิโลกรัม สัดส่วนเริ่มมา

เป้าหมายการลดน้ำหนักเราของอยู่ที่ 65 กิโลกรัม คือเราเคยคิดจะหยุดถ้าเราลดได้เท่านั้น จากนั้นเราก็เริ่มลดแบบวิธีก่อนหน้านี้มาเรื่อย ๆ ค่อย ๆ ลด แต่ทุกคืนคือต้องซิทอัพก่อนนอน อย่างน้อยวันละ 50 ครั้ง และในที่สุดเราก็มาถึงเป้าหมายที่เรากำหนดไว้คือ 65 กิโลกรัม รอบเอวเหลือ 29 นิ้ว จากคนที่โดนด่าว่าอีอ้วนมาจนกว่าครึ่งชีวิต ได้กลับกลายเป็นอีกคน ถึงจะไม่ได้ผอมเพรียวมาก แต่มันก็คือที่สุดของตัวเราแล้วจริง ๆ เราภูมิใจในตัวเรามากที่เราชนะใจตัวเองมาได้ จากอีอ้วน 103 กิโลกรัม กลายเป็นสาวอวบ 65 กิโลกรัม น้ำหนักหายไป 38 กิโลกรัม ภายในระยะเวลา 2 ปีกว่า เริ่มต้นลดตอนปี 1 เทอม 2 จนปัจจุบันจะขึ้นปี 4 คือมันคือที่สุดแล้ว จริง ๆ สำหรับผู้หญิงอ้วน ๆ คนหนึ่ง ที่ทุกคนตีหน้าว่า "อีอ้วน"

และนี่แหละคือผลลัพธ์ที่ได้ ^^

ตอนนี้น้ำหนักมันก็จะขึ้น ๆ ลง ๆ ถ้ารู้ว่าขึ้นเราก็จะเบาอาหารแล้วก็ออกกำลังกายให้มันกลับมาน้ำหนักปกติ เราก็อยากจะลดต่อนะ อยากเหลือ 55 กิโลกรัม ตอนนี้ก็ยังไม่ลงเลย 5555 น้ำหนักก็ยังเท่าเดิมค่อยเป็นค่อยไปเนอะ ยังไงก็เป็นกำลังใจให้เราด้วยนะ

อันนี้เป็นรูปปัจจุบันของเรา ^^

เป็นกำลังใจให้กับคนที่กำลังอยากลดน้ำหนักนะคะ สิ่งที่เราจะชนะมันได้คือใจเราเท่านั้น เอาชนะมันให้ได้นะคะ หาแรงบันดาลใจให้ได้ หากไม่มีแรงบันดาลใจก็นึกถึงเราได้นะ และขอฝากถึงคนที่คอยว่าซ้ำเติมคนอื่นว่าอย่าซ้ำเติมกันเลยค่ะ เพราะคำพูดบางคำที่คุณพูดมันอาจจะไปทำร้ายใจของคนอื่นก็ได้ แต่ก็ขอขอบคุณสำหรับคำด่า ที่ทำให้เรามีแรงบันดาลใจในการที่จะหลุดพ้นไปจากคำด่าของพวกคุณเสียที

การลดน้ำหนักเพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเอง นอกจากความตั้งใจจริงแล้ว สาว ๆ ต้องหาแรงบันดาลใจให้กับตัวเองกันด้วยนะคะ เพราะแรงบันดาลใจนี่แหละที่จะเป็นแรงผลักดันให้เราสามารถทำสิ่งที่ตั้งใจได้สำเร็จ แล้วสักวันคุณเองก็จะสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ไม่ต่างจากเธอคนนี้เลย ^^ สู้ ๆ นะคะสาว ๆ

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ 2450851 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม