x close

10 สัญญาณว่าคุณควรหยุดลดน้ำหนักสักที ผอมเกินไปมีแต่พัง !

ลดน้ำหนัก

          ลดน้ำหนักเป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าจริงจังจนหักโหมเกินไปอาจทำลายสุขภาพได้ เช็กซิคุณมีอาการตามนี้ไหม ถ้ามีก็หยุดไดเอตซะ !

          ทุกคนล้วนแต่อยากมีหุ่นดีด้วยกันทั้งนั้น ทว่าการลดน้ำหนักก็ไม่ได้ดีเสมอไปอย่างที่เราเข้าใจกันหรอกนะคะ เพราะการลดน้ำหนักที่หักโหมมากไปอาจจะส่งผลร้ายต่อสุขภาพ ทั้งเกิดการขาดสารอาหาร ร่างกายไม่มีกล้ามเนื้อ ที่ร้ายที่สุดคือกลายเป็นโรคกลัวอ้วนหรืออะนอเร็กเซีย เนอร์โวซา ซึ่งอาจอันตรายถึงชีวิตได้ แต่ก่อนที่เราจะไม่สามารถควบคุมการลดน้ำหนักของตัวเองได้นั้น ก็ยังพอมีสัญญาณที่บ่งบอกให้คุณรู้ตัวค่ะ ถ้าวันนี้คุณไม่อยากสุขภาพพังเพราะการลดน้ำหนัก ลองมาสำรวจตัวเองตามนี้ ถ้าใช่สักข้อละก็ รีบหยุดไดเอตเดี๋ยวนี้เลยค่ะ

ลดน้ำหนัก

1. ชั่งน้ำหนักบ่อยเกินไป

          ถ้าเกิดคุณกลายเป็นคนที่ไม่สามารถบังคับให้ตัวเองหยุดชั่งน้ำหนักได้ทุกครั้งที่เห็นเครื่องชั่งน้ำหนัก บอกได้เลยค่ะว่านั่นเป็นสัญญาณที่บอกคุณอ้อม ๆ ว่าคุณควรจะหยุดลดน้ำหนักเสีย เพราะการที่คุณชั่งน้ำหนักบ่อย ๆ แสดงออกถึงความไม่พึงพอใจในตัวเอง ที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตตามมาอีกหลายอย่างเลยล่ะ ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์ฉุนเฉียว ภาวะซึมเศร้า และอาจนำไปสู่โรคกลัวอ้วนได้อีกด้วย

2. คิดถึงแต่เรื่องการลดน้ำหนักตลอดเวลา

          ไม่ว่าจะเป็นตอนตื่นนอน ตอนอาบน้ำ ตอนรับประทานอาหาร หรือแม้แต่ก่อนเข้านอน หากคุณเอาแต่คิดถึงเรื่องลดน้ำหนัก นั่นก็เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าคุณกำลังหมกมุ่นกับการลดน้ำหนักมากจนเกินพอดี และแน่นอนว่าสิ่งนี้จะส่งผลกระทบไปถึงสภาพจิตใจรวมถึงพฤติกรรมการรับประทานที่อาจจะเปลี่ยนไปในทางที่ผิด ได้แก่ รับประทานน้อยเกินไป ไม่คำนึงถึงสารอาหารที่ได้รับ จนส่งผลให้สุขภาพที่เคยแข็งแรงค่อย ๆ อ่อนแอลง

3. การยอมรับในตัวเองลดลง

          หากวันหนึ่งคุณเริ่มตัดสินรูปร่างคนอื่น หรือคาดคะเนน้ำหนักของผู้คนที่พบเจอ แล้วคิดว่านั่นเป็นที่น่าอิจฉาสำหรับคุณละก็ สิ่งที่คุณควรทำต่อจากนั้นคือการหยุดไดเอต ไม่ใช่การหักโหมมากขึ้นกว่าเดิม เพราะพฤติกรรมเหล่านั้นได้แสดงให้เห็นว่าการยอมรับในตัวเองของคุณลดลง เพราะคุณเริ่มไม่พอใจกับรูปร่างของตัวเอง และนำตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นจนทำให้ตัวเองรู้สึกแย่ ซึ่งนั่นจะนำไปสู่การขาดความนับถือในตัวเอง และอาจทำให้กลายเป็นโรคซึมเศร้าในที่สุด

ลดน้ำหนัก
 
4. สนใจปริมาณแคลอรีมากกว่าปริมาณอาหาร

          จริงอยู่ที่การนับแคลอรีเป็นวิธีที่ช่วยให้ลดน้ำหนักได้ แต่การที่คุณเอาแต่สนใจกับตัวเลขของแคลอรีมากเกินไปจนละเลยถึงปริมาณอาหารรวมทั้งสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย จะยิ่งทำให้คุณไม่อิ่มท้องอย่างที่ควรจะเป็น สารอาหารที่ควรจะได้อย่างเพียงพอก็อาจจะบกพร่องไป ผลที่ตามมาก็คือคุณอาจจะไม่มีแรง หรือหิวบ่อยมากขึ้น ในขณะที่ร่างกายแทนที่จะแข็งแรงก็จะทรุดโทรมลง ไม่คุ้มกันเลยจริง ๆ

ลดน้ำหนัก

5. คุณเริ่มมีกฎเกณฑ์มากเกินไป

          การมีวินัยในการลดน้ำหนักถือเป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าวินัยเหล่านั้นกลายเป็นกฎเกณฑ์ที่มากเกินไปในชีวิต จนทำให้บางครั้งคุณรู้สึกเครียด การลดน้ำหนักนั้นก็ไม่ใช่เรื่องดีต่อสุขภาพของคุณแล้วล่ะ ดังนั้นคุณจึงควรหยุดลดน้ำหนักก่อนแล้วใช้เวลากับตัวเองเพื่อเปลี่ยนความคิดเสียใหม่ อะไรที่ตึงเกินไปก็ไม่ดีทั้งนั้นล่ะเนอะ

6. หมกมุ่นอยู่กับสื่อต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการลดน้ำหนัก

          คนส่วนใหญ่แล้วเมื่อมีเวลาว่างก็มักจะใช้เวลาที่มีไปกับการทำกิจกรรมที่ชอบ แต่ถ้าคุณกำลังเป็นคนหนึ่งที่เอาแต่สนใจกับสื่อที่เกี่ยวกับการลดน้ำหนักทั้งคลิปวิดีโอการออกกำลังกายแบบต่าง ๆ บทความเรื่องเทคนิคการลดน้ำหนัก โฆษณาอาหารลดน้ำหนัก หรือไม่ว่าอะไรที่ก็ตามที่เกี่ยวกับการลดน้ำหนักมากจนเกินพอดี ไม่สนใจอะไรเลย แม้แต่งานอดิเรกที่เคยทำเป็นประจำละก็ แปลว่าการลดน้ำหนักที่คุณทำอยู่กำลังครอบงำชีวิตของคุณมากจนเกินพอดี วิธีแก้ไขก็คือหยุดลดน้ำหนักซะ หรือถอยกลับมาก้าวหนึ่งเพื่อให้การลดน้ำหนักของคุณเป็นไปอย่างพอดี ๆ จะดีกว่านะคะ

ลดน้ำหนัก

7. คุณไม่เคยพอใจกับน้ำหนักของตนเอง

          เราทุกคนเมื่อคิดจะลดน้ำหนักก็ย่อมจะต้องมีเป้าหมายของตัวเองว่าอยากจะลดน้ำหนักให้เหลือเท่าไร แต่ถ้าหากคุณเป็นคนหนึ่งที่ลดน้ำหนักแล้วแต่กลับไม่เคยรู้สึกพอใจกับน้ำหนักที่ลดไปได้ และพยายามที่จะไดเอตต่อไปอย่างไม่มีจุดหมาย หวังแค่เพียงอยากให้น้ำหนักน้อยลง ๆ นั่นแปลว่าคุณกำลังหมกมุ่นกับการลดน้ำหนักจนเกินไป ซึ่งเป็นสัญญาณของโรคร้ายอย่างอะนอเร็กเซีย เนอร์โวซา คุณควรรีบหยุดไดเอตในทันที หรือถ้าหยุดเองไม่ได้ก็ควรจะหาตัวช่วยอย่างด่วน ก่อนที่ทุกอย่างจะเลวร้ายไปกว่านี้

ลดน้ำหนัก

8. คุณเริ่มไม่มีความสุขกับการใช้ชีวิต

          ถ้าหากการไปงานปาร์ตี้ หรือการไปท่องเที่ยว ไม่ได้ทำให้คุณมีความสุขเหมือนอย่างเคยเพราะคุณต้องมัวแต่กังวลเรื่องการรับประทานอาหารอยู่ตลอดเวลาละก็ ตั้งสติให้ดี และโยนการลดน้ำหนักทิ้งไปเลยจะดีกว่าค่ะ เพราะชีวิตที่ตึงเกินไปจนทำให้ละเลยความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ จะนำมาสู่ความเครียด และความเครียดก็จะนำมาสู่ปัญหาสุขภาพอีกเพียบจนแทบนับไม่หวาดไม่ไหว ยังมีอีกหลายวิธีที่ทำให้คุณสามารถเอ็นจอยกับการใช้ชีวิตได้โดยที่ไม่ทำให้คุณกินเยอะจนน้ำหนักขึ้น ชีวิตสั้นนัก มาใช้ชีวิตกันให้คุ้มดีกว่านะคะ

9. ความสัมพันธ์ระหว่างคุณและคนรอบข้างเลวร้ายลง

          หลายคนปล่อยให้การลดน้ำหนักที่เข้มงวดเกินไปทำลายความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง หลายคนตีตัวออกห่างจากครอบครัว เพื่อนฝูงและคนใกล้ชิด เพียงเพราะว่าคุณให้ความสำคัญกับการลดน้ำหนัก และกลัวว่าคนอื่นจะไม่เข้าใจในสิ่งที่คุณเป็น หรือไม่อยากจะได้ยินคำพูดที่ว่าคุณจริงจังกับการลดน้ำหนักเกินไป ถ้าหากคุณกำลังเป็นคนหนึ่งที่ห่างเหินกับคนรอบข้างด้วยเหตุผลนี้ ขอให้หยุดการลดน้ำหนักของคุณเสียเถอะค่ะ แม้ว่านั่นอาจจะทำให้คุณกลับมามีน้ำหนักเพิ่มขึ้น แต่ถ้าทำให้คุณมีกลับมามีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนอื่น ๆ ย่อมคุ้มค่ากว่าแน่นอน

10. คุณกลัวการหยุดลดน้ำหนัก

          หลายคนกลัวว่าถ้าเลิกลดน้ำหนักแล้วจะกลับไปอ้วนอย่างเก่า จึงทำให้ต้องลดน้ำหนักอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ร่างกายอาจเกิดการขาดสารอาหาร หรือได้รับพลังงานไม่เพียงพอ ในจุดนี้สิ่งที่ควรทำก็คือหยุดลดน้ำหนักซะ แต่คุณควรวางแผนการควบคุมน้ำหนักให้ดี โดยควรวางแผนการออกกำลังกาย และการรับประทานอาหารควบคู่กันไปด้วย จากนั้นก็ต้องเชื่อมันในตัวเองว่าคุณจะสามารถควบคุมน้ำหนักของตัวเองได้ และไม่กลับไปอ้วนอีกอย่างเด็ดขาด ถ้าคุณทำได้ คุณก็จะสามารถเลิกลดน้ำหนักได้แล้วค่ะ

          ไม่ใช่เรื่องผิดที่คิดอยากจะมีหุ่นดี ๆ แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับความพอดีด้วย แม้ว่าอยากจะผอมแค่ไหน แต่ถ้าคุณลดน้ำหนักแบบไม่สนใจสุขภาพตัวเอง ผลสุดท้ายอาจจะไม่ใช่แค่สุขภาพร่างกายที่พัง แต่ยังอาจกระทบไปถึงสภาวะจิตใจที่อันตราย หันกลับมามองและรักตัวเองให้มากขึ้นอีกนิด และเลือกใช้วิธีลดน้ำหนักแบบพอดี ๆ ไม่ตึงเครียดจนเกินไป เป้าหมายไม่เพียงแต่ทำให้คุณผอมลงสมใจ แต่ยังทำให้คุณมีความสุขกับการใช้ชีวิตอย่างเต็มที่อีกด้วยค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
askdeniza.com 
lifehack.org 
mindbodygreen.com
health.com

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
10 สัญญาณว่าคุณควรหยุดลดน้ำหนักสักที ผอมเกินไปมีแต่พัง ! อัปเดตล่าสุด 11 มีนาคม 2559 เวลา 11:42:31 19,337 อ่าน
TOP