สธ. ชี้ยาลดน้ำหนักใส่สารต้องห้ามอื้อ อาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต พบส่วนผสมบางตัวมีผลข้างเคียงต่อหัวใจและหลอดเลือดโดยตรง
วันที่ 3 พฤษภาคม 2559 นพ.อภิชัย มงคล อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ขณะนี้พบปัญหาเรื่องการใช้ยาลดน้ำหนักจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มวัยรุ่น และเมื่อดูข้อมูลการตรวจวิเคราะห์ยาลดน้ำหนักของสำนักยาและวัตถุเสพติด เมื่อเดือนตุลาคม 2558 จนถึงเดือนมกราคม 2559 จะพบว่า จากการตรวจวิเคราะห์ยาลดน้ำหนักของกลาง 70 ตัวอย่าง ปรากฏว่า มีส่วนผสมของยาแผนปัจจุบันที่เป็นยาอันตราย 43 ตัวอย่าง และยาควบคุมพิเศษ 8 ตัวอย่าง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสารไซบูทรามีน แอมเฟตามีน เช่น เฟนเทอร์มีน ที่ห้ามใช้ในผู้ป่วยโรคไทรอยด์เป็นพิษ เนื่องจากมีผลต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด
อีกทั้งตัวอย่างที่ตรวจพบ บางครั้งอยู่ในรูปแบบของยาที่จัดเป็นชุด เช่น ชุดที่ประกอบด้วยไซบูทรามีน เฟนเทอร์มีน และบิซาโคดิล โดยบางตัวอย่างจัดเป็นชุดร่วมกับวิตามิน เพื่อลดผลข้างเคียงจากการรับประทานอาหารน้อยลง และการใช้ยาระบาย นอกจากนี้ในยาชุดบางตัวอย่างมียานอนหลับรวมอยู่ด้วย เช่น ไดอาซีแพม เนื่องจากผลข้างเคียงของยากลุ่มแอมเฟตามีน จะกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลางทำให้นอนไม่หลับ จึงมีการจ่ายยานี้ร่วมด้วย ซึ่งยาที่ได้กล่าวมาทุกชนิดจะมีอาการข้างเคียง และอาจก่อให้เกิดอันตรายจากการใช้ยาอย่างไม่ถูกต้องได้
นพ.อภิชัย กล่าวต่อว่า ยังพบว่ามีการนำไทรอยด์ฮอร์โมนซึ่งเป็นยาที่ใช้รักษาผู้ป่วยที่มีภาวะฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำกว่าปกติ มาใช้ลดน้ำหนัก ซึ่งยานี้มีผลเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงานของร่างกาย ทำให้น้ำหนักลดลงเร็ว แต่มีผลข้างเคียงหลายอย่าง เช่น มีผลต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด ทำให้ใจสั่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ เพราะไทรอยด์ฮอร์โมนจะทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้นมากกว่าเดิม และไม่เต็มจังหวะ ทำให้แต่ละครั้งของการเต้นสูบฉีดเลือดได้น้อยลง จึงมีความเสี่ยงสูงกับคนที่มีปัญหาการทำงานของหัวใจ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก