x close

หวานเป็นลม...ขมเป็นยา

น้ำตาล

หวานเป็นลม...ขมเป็นยา (Woman Plus)

           หวานเป็นลม ขมเป็นยา...บรรพบุรุษไทยเปรียบเปรยไว้ว่า แม้รสชาติหวานจะน่าติดใจแต่ก็อาจจะนำมาซึ่งโทษและภัยสารพัด ในขณะที่รสชาติขม เช่น บอระเพ็ด แม้รสชาติจะไม่น่าพิสมัยในเบื้องต้น แต่ก็นำมาซึ่งประโยชน์ต่อสุขภาพ เปรียบเสมือนคำชมหวานหูมักไร้สาระทำให้ลืมตัวขาดสติ แต่คำติซึ่งมักจะไม่ค่อยจะไพเราะเสนาะหูในเบื้องต้น มักเป็นประโยชน์ทำให้ได้คิด

           การรับประทานหวาน...อีกนัยหนึ่งคือรับประทานน้ำตาลมากเกินไป ก็ให้เกิดโรคที่เนื่องมาจากความอ้วนทั้งหลายแหล่ ไม่ว่าจะเป็นเบาหวาน ความดันโลหิตสูง กลุ่มอาการผิดปกติทางเมตาบอลซึ่ม โรคข้อ มะเร็งบางชนิด และอื่น ๆ อีกมากมาย

1.หวานแค่ไหน...ถึงจะพอเหมาะ

           หวานเกินไปใช่จะดี หวานน้อยไปก็พานจะทำให้คนบางคน รับประทานอาหารไม่อร่อยลิ้นเอาเสียเลย ถ้าเช่นนั้น อะไรเล่าคือทางสายกลาง?

           สมาคมโรคหัวใจของประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องของความหวานหรือน้ำตาล (แสดงว่ากินหวานมากเกินไป...ส่งผลต่อหัวใจได้เช่นกัน) และได้แนะนำไว้ว่า สำหรับคุณผู้หญิงควรจำกัดการบริโภคน้ำตาล ให้ไม่เกินวันละ 25 กรัม (หรือประมาณ 6 ช้อนชา) ในขณะที่คุณผู้ชายรับประทานได้มากกว่านิดหน่อย คือไม่เกิน 37.5 กรัมต่อวัน (หรือประมาณ 9 ช้อนชา)




2.เรื่องจริง....ในชีวิตประจำวัน

           อ่านดูแล้วอาจจะรู้สึกประหลาดใจว่า.....ทำไมให้รับประทานน้ำตาลได้เยอะขนาดนั้นในวันหนึ่ง ๆ จริง ๆ แล้วคนอเมริกันส่วนใหญ่รับประทานเกิน (คนไทย หมอหาสถิติไม่เจอ แต่ถ้าดำรงชีวิตแบบประเทศทางตะวันตก หรือรับประทานขนม แม้จะเป็นขนมไทยเป็นประจำ ก็คงไม่แตกต่างกันเท่าไร) แค่น้ำอัดลม 1 กระป๋องจะมีน้ำตาลอยู่ประมาณ 30 กรัมหรือ 7 ช้อนชา ซึ่งก็เกินไปสำหรับปริมาณน้ำตาลที่แนะนำ ให้คุณผู้หญิงรับประทานในแต่ละวัน

3.มีไหม...น้ำตาลดี ๆ

           น้ำตาลที่มากับผลิตผลตามธรรมชาติ เช่น น้ำตาลฟรุกโตสที่มากับผลไม้ หรือน้ำตาลแล็กโทสที่มากับผลิตภัณฑ์นม พวกนี้เป็นแหล่งน้ำตาลธรรมชาติที่มีอยู่ในอาหาร ผู้ที่รับประทานก็จะได้ประโยชน์จากผลิตผลตามธรรมชาตินั้น นอกเหนือไปจากตัวน้ำตาลเองซึ่งโดยปกติ ธรรมชาติก็จะจัดสรรมาอย่างพอเหมาะ แต่น้ำตาลที่เติมลงไปเพิ่มเติมนี่สิ เป็นตัวปัญหาที่มีแต่โทษต่อร่างกาย โดยมิได้มีประโยชน์เพิ่มเติมแต่อย่างใด

ขนม

4.ลองดูวิธีง่าย ๆ...ให้หวานลดลง

           สำหรับตัวหมอเอง...เป็นคนติดหวานจะให้หยุดความหวานเสียเลยก็ไม่ง่ายนัก เลยใช้วิธีเดินสายกลางค่อย ๆ ปรับตัวเองให้ชินกับความหวานน้อยลงไปเรื่อยๆ เช่น ค่อยๆ ปรับเติมน้ำตาลในกาแฟ 2 ช้อน เป็น 1 ช้อนครึ่ง และปัจจุบันเหลือไม่ถึงช้อนชา ตั้งใจจะให้เหลือ 1/2 ช้อนชารวมทั้งรับประทานขนม เป็นคำ ไม่ใช่เป็นถ้วยหรือเป็นชิ้นใหญ่ เติมน้ำตาลในอาหารต่างๆ ลดลง และใช้ความหวานจากธรรมชาติปรุงแทน เช่น ผลไม้ที่มีรสหวาน และลดการปรุงเพิ่มเติมบนโต๊ะ เช่น เวลารับประทานก๋วยเตี๋ยว ลดการดื่มน้ำอัดลมหรือน้ำหวาน เรียกว่านาน ๆ ถึงจะดื่มสักครั้ง

5.น้ำตาลเทียม...ทางเลือกหรือ...ทางไม่ควรเลือก

           ถึงแม้ว่า ยังไม่มีข้อสรุปชัดเจนว่าน้ำตาลเทียม ซึ่งเป็นสารสังเคราะห์เป็นอันตรายต่อสุขภาพหรือไม่ แต่ทางการแพทย์เอง ก็มิได้สนับสนุนให้มีการใช้น้ำตาลเทียมเป็นกิจวัตรโดยไม่จำเป็น สำหรับความเห็นส่วนตัวของหมอ อะไรที่เป็นธรรมชาติ น่าจะดีกว่าสารสังเคราะห์ลองปรับความหวานลดลงแบบธรรมชาติ โดยลด/เลิกการรับประทาน หรือเติมน้ำตาล และหันมาใช้ความหวานจากผัก ผลไม้แทน ที่สำคัญบริโภคในปริมาณพอเหมาะจะดีกว่า หวานจะได้ไม่เป็นลมไงคะ


  เคล็ดลับสุขภาพ สุขภาพใกล้ตัว โรคและการป้องกัน คลิกเลย

คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะ




ขอขอบคุณข้อมูลจาก


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
หวานเป็นลม...ขมเป็นยา อัปเดตล่าสุด 18 สิงหาคม 2553 เวลา 11:27:46 3,438 อ่าน
TOP