หมอออกโรงเตือน การใช้น้ำมันกัญชากับผู้ติดเชื้อเอชไอวี-เอดส์ ระวังดื้อยาต้านไวรัส ถึงขั้นอาจต้องเปลี่ยนยา ด้านแพทย์เผย มีผู้ป่วยใช้ผิดวิธีเข้าโรงพยาบาลวันเดียว 4 ราย
วันที่ 4 มิถุนายน 2562 นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ อายุรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบบทางเดินหายใจ ได้โพสต์ข้อความถึงเรื่องการใช้น้ำมันกัญชากับผู้ติดเชื้อเอชไอวี โดยระบุว่า คนไทยเกือบ
4 แสนคน
ที่กำลังกินยาต้านไวรัสสำหรับรักษาโรคติดเชื้อเอชไอวีและโรคเอดส์ในขณะนี้
เมื่อได้ทราบข่าวที่แชร์ในโลกโซเชียลว่าน้ำมันกัญชาช่วยรักษาโรคเอดส์ได้
อาจทดลองน้ำมันกัญชาควบคู่กับยาต้านไวรัส หรือบางคนอาจทิ้งยาต้านไวรัส
ไปใช้น้ำมันกัญชาอย่างเดียว โดยไม่คิดตรึกตรองให้ดี
1. อย่าใช้น้ำมันกัญชาควบคู่กับยาต้านไวรัส
เพราะมีงานวิจัยว่าสารในน้ำมันกัญชามีปฏิกิริยากับยาต้านไวรัส
ลดระดับยาต้านไวรัสบางตัว อาจทำให้การรักษาด้วยยาต้านไวรัสล้มเหลว
นอกจากนั้นยาด้านไวรัสบางตัวมีปฏิกิริยากับน้ำมันกัญชา เพิ่มฤทธิ์ของสาร
THC ซึ่งเป็นสารเสพติดมีฤทธิ์ต่อจิตประสาทมากขึ้น
2. ห้ามหยุดยาต้านไวรัสแล้วไปกินน้ำมันกัญชาแทนเด็ดขาด เพราะหลังจากหยุดยาต้านไวรัส เชื้อเอชไอวีจะพัฒนาตัวเองให้ดื้อต่อยาต้านไวรัสที่เคยกิน ทำให้ผู้ป่วยต้องเปลี่ยนยาต้านไวรัสเป็นสูตรใหม่ ซึ่งมีราคาแพงขึ้นจากเดิม 10 เท่า สร้างความสูญเสียทางด้านเศรษฐกิจ และสาธารณสุขของชาติอย่างมากมาย
โดยนายแพทย์พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลน่าน เปิดเผยว่า มีผู้ป่วยเด็กป่วยด้วยอาการทางจิต
หูแว่ว ประสาทหลอนจากการสูบกัญชา 1 ราย และมาบำบัดอาการติดกัญชาอีก 4
ราย ในช่วงที่ผ่านมา และสถานการณ์การใช้กัญชาในเยาวชนดูจะรุนแรงขึ้น
เนื่องจากในการตรวจสุขภาพของทหารเกณฑ์ใน จ.น่าน พบว่ามีผู้เสพกัญชาถึง 57
ราย จึงขอแจ้งเตือนว่า การใช้น้ำมันกัญชาควรใช้ในทางการแพทย์
โดยคำแนะนำของแพทย์ ซึ่งกัญชามีสารเคมีที่ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท
ส่งผลเสียต่อร่างกายและจัดเป็นสารที่ทำให้เสพติดได้
จึงไม่ควรใช้พร่ำเพรื่อในโรคที่สามารถรักษาด้วยยาปกติที่มีอยู่ได้
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
ภาพจาก หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC
ในข่าวเพียงแต่บอกว่าหลังจากใช้น้ำมันกัญชา 24 วัน
คนไข้โรคเอดส์ที่ จ.เพชรบูรณ์ นอนไม่ได้สติ กลับมาขยับตัว กินอาหารได้
ไม่มีการให้ข้อมูลว่าในผู้ป่วยรายนี้กินยาต้านไวรัส และยาอื่น ๆ
สำหรับโรคติดเชื้อฉวยโอกาสหรือไม่
ในข่าวไม่ได้บอกว่าน้ำมันกัญชาสามารถฆ่าเชื้อเอชไอวีได้
ไม่มีหลักฐานในโลกนี้ยืนยันว่าน้ำมันกัญชาสามารถรักษาโรคติดเชื้อเอชไอวีได้
มีแต่ยาต้านไวรัสเท่านั้นที่สามารถทำให้ผู้ติดเชื้อเอชไอวีแข็งแรง
มีอายุยืนยาวเหมือนคนปกติ ขอเตือนผู้ติดเชื้อเอชไอวีด้วยความปรารถนาดีว่า
ภาพจาก หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC
ภาพจาก หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC
2. ห้ามหยุดยาต้านไวรัสแล้วไปกินน้ำมันกัญชาแทนเด็ดขาด เพราะหลังจากหยุดยาต้านไวรัส เชื้อเอชไอวีจะพัฒนาตัวเองให้ดื้อต่อยาต้านไวรัสที่เคยกิน ทำให้ผู้ป่วยต้องเปลี่ยนยาต้านไวรัสเป็นสูตรใหม่ ซึ่งมีราคาแพงขึ้นจากเดิม 10 เท่า สร้างความสูญเสียทางด้านเศรษฐกิจ และสาธารณสุขของชาติอย่างมากมาย
ภาพจาก หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC
ด้าน อมรินทร์ ทีวี รายงานว่า มีผู้ป่วยมาโรงพยาบาลน่าน เนื่องจากใช้น้ำมันกัญชา ทำให้เกิดอาการกระวนกระวาย ใจสั่น ขากระตุก นอนไม่หลับ จำนวน 4 ราย โดยส่วนใหญ่สาเหตุที่ใช้เกิดจากการทราบข่าวเกินจริงของน้ำมันกัญชาทางอินเทอร์เน็ตที่บอกว่ามีสรรพคุณรักษาโรคได้หลายอย่าง
จึงเกิดความเชื่อและสั่งซื้อมาใช้ ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีโรคประจำตัว เช่น
ปวดกล้ามเนื้อ ปวดเส้นประสาท หรือหมอนรองกระดูกกดเส้นประสาทชนิดไม่รุนแรง
ได้รับยาแก้ปวดแผนปัจจุบันอยู่ แต่อาการเป็น ๆ หาย ๆ
จึงเชื่อว่าการใช้น้ำมันกัญชาจะทำให้หายขาด
ภาพจาก อมรินทร์ ทีวี
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก