x close

เลเซอร์...ทางเลือกใหม่ของการรักษาภูมิแพ้

ภูมิแพ้

เลเซอร์...ทางเลือกใหม่ของภูมิแพ้ (ไทยโพสต์)

          อาการภูมิแพ้ ความทรมานที่คนไม่ป่วยไม่มีทางรู้ แต่เป็นความน่ารำคาญจนถึงทรมานสุด ๆ สำหรับผู้ป่วย ซึ่งสาเหตุของโรคส่วนใหญ่ แพทย์ฟันธงว่ามาจากกรรมพันธุ์ และเป็นโรคที่พบบ่อยถึง 20% ของประชากรทั่วไป

          ทั้งนี้ ภูมิแพ้สามารถแพ้ได้ตั้งแต่อากาศเย็น-ร้อน ความกดอากาศต่ำ-สูง ไรฝุ่น ซากแมลงสาบ ละอองเกสรดอกไม้ อาหาร หรือแม้แต่แพ้ภูมิตัวเองก็ยังมี เรียกว่าร้อยแปดพันอาการที่จะสรรหามาแพ้กัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สภาพอากาศที่แปรปรวนและมลภาวะที่มากขึ้น เป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้สัดส่วนผู้ป่วยภูมิแพ้สูงขึ้น แน่นอนว่า วิธีการที่ดีที่สุดในการบำบัดอาการแพ้ทั้งหมดทั้งมวลข้างต้นคือ การสังเกตและหลีกเลี่ยงสาเหตุของการแพ้

          สำหรับการบำบัดรักษาอาการภูมิแพ้นั้น แพทย์มักแนะนำให้ออกกำลังกาย เพื่อให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันรักษาตัวเอง โดยอาการแพ้ที่แสดงออกเป็นได้ทั้งจาม คัดจมูก ผื่นคัน คันจมูก น้ำมูกไหล ไอ คันคอ กระทั่งมีอาการหืดหอบร่วมด้วย ซึ่งในรายที่เป็นหืดหอบนั้น การรักษาแพทย์จะแนะนำให้ใช้ยาฉีดพ่นสูดทางปาก เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยหายใจสะดวกขึ้น โดยมีข้อแนะนำตามมาว่า ในการใช้ควรใช้ต่อเนื่องไม่เกิน 2 สัปดาห์ เพราะในยาดังกล่าวจะมีสารประกอบของสเตียรอยด์ ที่จะมีผลข้างเคียงของการใช้ ตั้งแต่อาการบวม ผิวแตกลาย เป็นสิว ผิวเข้มขึ้น ความดันโลหิตสูง อ่อนเพลีย ติดเชื้อง่าย คลื่นไส้อาเจียน เบื่ออาหาร จนถึงขั้นกระดูกเปราะขึ้น แต่ถ้าผู้ป่วยใช้ตามคำแนะนำของแพทย์ ความเสี่ยงดังกล่าวจะน้อยลง แต่ส่วนใหญ่แล้วผู้ป่วยจะใช้จนเคยชิน กระทั่งละเลยคำแนะนำแพทย์ เพราะเมื่อเกิดอาการแล้ว ยาดังกล่าวจะช่วยให้ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นทันทีนั่นเอง

          นอกจากนี้ ผู้ป่วยภูมิแพ้ในโพรงจมูกชนิดเรื้อรัง หรือมีอาการหืดหอบร่วมด้วย มักนิยมรักษาด้วยการฉีดวัคซีน โดยผู้ป่วยจะต้องมาทำการทดสอบภูมิแพ้ทางผิวหนัง (Skin test) ในสารในการทดสอบประมาณ 30 ชนิด เมื่อพบว่าแพ้ชนิดใดแล้วแพทย์อาจจะแนะนำให้หลีกเลี่ยงสารที่แพ้ หรือให้ทำการฉีดวัคซีนจากสารตัวนั้นเข้าไปในปริมาณน้อย เพื่อดูปฏิกิริยาการสร้างภูมิของร่างกายแล้วค่อย ๆ เพิ่มความเข้มข้นหรือขนาดยาขึ้น เมื่อได้เกณฑ์การตอบสนองที่ดีแล้วแพทย์จะนัดมาฉีดวัคซีนสัปดาห์ละ 1 ครั้ง และอาจจะนัดฉีดห่างออกไปหากอาการดีขึ้นเป็นลำดับ โดยต้องฉีดติดต่อกันเป็น เวลา 3-5 ปี

          ทั้งนี้ เมื่อครบคอร์สการรักษาแล้ว ผู้ป่วยส่วนใหญ่อาจจะไม่แสดงอาการ 5-10 ปีแล้วแต่ราย โดยไม่ต้องใช้ยาระงับอาการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรายที่มีอาการหอบหืดร่วมด้วย อาการอาจดีขึ้น 70-80% สามารถกลับมาใช้ชีวิตปกติได้ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่า ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตเสี่ยงต่อสารที่แพ้นั้นมากน้อยแค่ไหน และรับความเข้มข้นของสารก่อภูมิแพ้เท่าใด

          แม้การฉีดวัคซีนจะเป็นการรักษาที่ต้นเหตุของปัญหา แต่วิธีดังกล่าวจะต้องได้รับความร่วมมือจากผู้ป่วยอย่างดี เพราะต้องใช้เวลารักษานานและเสียค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ผู้ป่วยหลายรายรู้สึกท้อเมื่อต้องไปให้คุณหมอฉีดยาทุก ๆ สัปดาห์เป็นเวลา 3-5 ปี

          แต่ทางเลือกใหม่สำหรับผู้ป่วยภูมิแพ้ในจมูก ด้วยการใช้แสงเลเซอร์ที่มีความจำเพาะ เข้าไปทำลายตัวรับสัญญาณภูมิแพ้ที่อยู่บนเยื่อบุโพรงจมูก เพื่อให้ทำงานน้อยลงโดยจะไม่เกิดปฏิกิริยากระตุ้นสารก่อภูมิแพ้อีก และยังช่วยลดขนาดและจำนวนของเส้นเลือดที่อยู่ใต้เยื่อบุโพรงจมูก ทำให้ผู้ป่วยหายใจได้โล่งขึ้น มีน้ำมูกน้อยลงและภูมิแพ้หายขาดได้ โดยการยิงเลเซอร์เพียง 1-2 ครั้งเท่านั้น ซึ่งเป็นวิธีการรักษาที่ปลอดภัย เพราะผู้ป่วยจะมีเพียงสะเก็ดแผลและเยื่อบุ โพรงจมูกบวมประมาณ 1-2 สัปดาห์ โดยสามารถรักษาผู้ป่วยที่มีอายุตั้งแต่ 1 ปีเป็นต้นไป

          ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับความร่วมมือของผู้ปกครองและผู้ป่วยด้วย ซึ่งหลังรับการรักษาจะสามารถควบคุมอาการได้ประมาณ 5-10 ปี และในประเทศไทยได้มีการพัฒนาการรักษาภูมิแพ้ในโพรงจมูก ด้วยวิธีการยิงเลเซอร์มากว่า 15 ปีแล้ว

  เคล็ดลับสุขภาพ สุขภาพใกล้ตัว โรคและการป้องกัน คลิกเลย 



ขอขอบคุณข้อมูลจาก



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เลเซอร์...ทางเลือกใหม่ของการรักษาภูมิแพ้ อัปเดตล่าสุด 9 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา 17:07:08 3,087 อ่าน
TOP