แพทย์ไขข้อสงสัย เคสสาวปวดประจำเดือน มามากผิดปกติ ตรวจพบเนื้องอก 2 ก้อน ผ่าออกเจอเศษผม-ฟัน-เล็บ อยู่ข้างใน ชี้มันคือ เดอร์มอยด์ ซีสต์ โรคซีสต์รังไข่ชนิดหนึ่ง ไม่ใช่โดนคุณไสย อาคม
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Wara P. Petb
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก Wara P. Petb ได้ออกมาโพสต์เล่าประสบการณ์เตือนภัยสำหรับผู้หญิง เกี่ยวกับโรคที่แฝงมากับการปวดท้องประจำเดือน นั่นคือเนื้องอกในมดลูกและรังไข่ ซึ่งเธอเองไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเองมาก่อน หลังอาการปวดประจำเดือนรุนแรงขึ้น ประจำเดือนมานานขึ้น และเปลี่ยนผ้าอนามัยวันละ 2 ซอง สุดท้ายทนไม่ไหว ไปให้หมอตรวจ พบก้อนเนื้อ 2 ก้อน ขนาด 6-8 เซนติเมตร ซึ่งมีขนาดโตขึ้นทุกขณะ เธอจึงตัดสินใจให้หมอผ่านำออกมา แต่ต้องตะลึงเมื่อข้างในพบทั้งเศษผม-ฟันเล็บ หมอบอกว่ามันคือ เนื้องอกชนิด เดอร์มอยด์ (Dermoid Cyst) ที่มันเจริญผิดที่ แต่ไม่ใช่เนื้อร้าย
เกี่ยวกับเรื่องนี้ล่าสุด (4 พฤศจิกายน 2562) เดลินิวส์ออนไลน์ รายงานสัมภาษณ์ นพ.ปัญญา ศักดิ์สง่าวงษ์ สูติ-นรีแพทย์ เวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ โรงพยาบาลเวชธานี อธิบายถึงโรคเดอร์มอยด์ ซีสต์ ว่า เป็นโรคถุงน้ำรังไข่ หรือ ซีสต์รังไข่ ชนิดหนึ่ง ซึ่งเกิดจากเนื้อเยื่อชั้นหนึ่งของร่างกาย ที่ตามปกติแล้วจะต้องเจริญไปเป็นเซลล์ที่ผิวหนัง แต่กลับเกิดการเจริญเติบโตอยู่ผิดที่ แทนที่จะอยู่ภายนอกร่างกาย แต่กลับเข้าไปเจริญเติบโตในช่องท้อง ที่บริเวณรังไข่ จึงทำให้พบว่าภายในรังไข่มีน้ำมันจากต่อมไขมัน เส้นผม หนังศีรษะ หรือแม้กระทั่งฟันอยู่ภายใน ซึ่งความผิดปกตินี้เกิดขึ้นในระยะแรก ๆ ของการเติบโตของทารกตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Wara P. Petb
คุณหมอบอกด้วยว่า เคยผ่าตัดเคสคนไข้หญิงวัยกลางคนท่านหนึ่ง ที่เป็นโรคเดอร์มอยด์ ซีสต์ ซึ่งตอนนั้นทั้งคนไข้และญาติต่างประหลาดใจกับสิ่งที่อยู่ในก้อนเนื้อ ก่อนจะถามตนว่า อย่างนี้แสดงว่าโดนคุณไสยใช่หรือไม่ จึงอธิบายที่มาที่ไปของโรคนี้ พร้อมย้ำว่า โรคเดอร์มอยด์ ซีสต์ เป็นโรคถุงน้ำรังไข่ หรือซีสต์รังไข่ ชนิดหนึ่ง ไม่ได้โดนคุณไสยหรืออาคมแต่อย่างใด
สำหรับ เดอร์มอยด์ ซีสต์ ไม่ใช่เนื้องอกร้ายแรงและมีโอกาสกลายเป็นมะเร็งได้น้อยมาก ตามปกติคนไข้ส่วนใหญ่มักจะไม่ค่อยมีอาการ แต่ก็สามารถทำให้ปวดท้องรุนแรงได้เช่นกัน เนื่องจากถุงน้ำรังไข่ชนิดนี้มักจะไม่มีพังผืดมาเกาะ ทำให้เปลี่ยนตำแหน่งไป-มาได้ง่ายภายในช่องท้องส่วนล่าง จึงมีโอกาสที่ขั้วของรังไข่จะเกิดการบิดหมุน อาจทำให้รังไข่ขาดเลือดไปเลี้ยง ส่งผลให้เกิดอาการปวดท้องขึ้นมาอย่างเฉียบพลัน อีกทั้งเดอร์มอยด์ ซีสต์ นั้น ก็ไม่ได้สัมพันธ์กับปัญหาภาวะมีบุตรยากโดยตรงแต่อย่างใด
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Wara P. Petb
