สธ. ยกระดับการเฝ้าระวังควบคุมป้องกันโรคไวรัสโคโรนา หลังองค์การอนามัยโลกประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ พร้อมประชุมหารือ พิจารณาประกาศให้เป็นโรคติดต่ออันตราย ลำดับที่ 14
ภาพจาก รัฐบาลไทย
หลังจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประกาศให้สถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ เนื่องจากพบการระบาดจากคนสู่คนครั้งแรกในสหรัฐอเมริกา ทางองค์การอนามัยโลก มองว่า การระบาดของไวรัสโคโรนา กลายเป็นภัยคุกคามไปทั่วโลก ไม่ใช่อยู่แค่ที่จีน ซึ่งการประกาศภาวะฉุกเฉินในครั้งนี้ จะทำให้ทั่วโลกได้ยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยต่อการระบาดในครั้งนี้ให้มากขึ้นนั้น
อ่านข่าว : WHO ยกไวรัสโคโรนา เป็นภาวะฉุกเฉินทั่วโลก-ประธานรับ ไม่เคยเห็นการระบาดแบบนี้มาก่อน
อ่านข่าว : WHO ยกไวรัสโคโรนา เป็นภาวะฉุกเฉินทั่วโลก-ประธานรับ ไม่เคยเห็นการระบาดแบบนี้มาก่อน
ล่าสุด (31 มกราคม 2563) เว็บไซต์ รัฐบาลไทย รายงานว่า กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้แถลงการณ์ความคืบหน้าสถานการณ์และแนวทางรับมือป้องกันไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 โดย นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป เผยว่า สธ. เตรียมพิจารณายกระดับการทำงานให้สอดคล้องกับประกาศขององค์การอนามัยโลก
โดยบ่ายวันนี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการอำนวยการ เตรียมความพร้อมป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคติดต่ออุบัติใหม่แห่งชาติ กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อยกระดับมาตรการต่าง ๆ อาทิ มาตรการทางกฎหมาย มาตรการด้านการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรค และมาตรการในด้านการสื่อสารความเสี่ยง
ภาพจาก รัฐบาลไทย
รวมถึงประเด็นก่อนหน้านี้ที่ได้มีการประชุมคณะกรรมการวิชาการโรคติดต่อ หารือเรื่องการประกาศให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 เป็นโรคติดต่ออันตราย ลำดับที่ 14 ภายใต้ พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ตลอดจนการพิจารณาเรื่องการประกาศพื้นที่หรือเขตติดโรคอีกด้วย
ทั้งนี้ สธ. ได้ประกาศคำเตือนระดับ 3 แต่ประชาชนยังสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ แต่ขอให้เพิ่มความระมัดระวังในการเดินทางไปในที่ที่มีคนหนาแน่น หลีกเลี่ยงไปในพื้นที่ที่มีรายงานการระบาดของโรค ให้ยึดหลักการป้องกันตนเองและการดูแลสุขภาพ "กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ" และสวมใส่หน้ากากอนามัยเมื่อต้องเข้าไปอยู่ในที่ชุมชน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก รัฐบาลไทย