กรมการแพทย์ เตือน สาวทาเล็บสีแดง มีโอกาสแพ้มากกว่าสีอื่น อาการมีทั้งบวมแดง ชาปลายนิ้ว แนะใช้ผลิตภัณฑ์ปลอดสารเคมี เปลี่ยนใช้สีอื่นหากมีอาการแพ้
วันที่ 17 พฤษภาคม 2564 นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า การทาสีเล็บโดยทั่วไป สีที่มีการแพ้บ่อยคือ สีแดง โดยสารเคมีที่พบการแพ้บ่อยคือ โทซิลาไมด์ ฟอร์มาดีไฮด์เลซิน เบนโซฟรีโนน ไดบิลทิลทาลเลตฟอร์มาดีไฮด์ ส่วนการต่อเล็บแบบอะคริลิก มักแพ้ส่วนประกอบของกาว เรียกว่า cyanoacrylate ส่วนประกอบในขั้นตอนการรองพื้น และขั้นตอนการเคลือบเล็บสารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้บ่อย คือ methacrylate ส่วนการทาสีเจล มีสาร methacrylate ก่อภูมิแพ้เช่นเดียวกับการต่อเล็บอะคริลิก
ภาพจาก กรมการแพทย์
แพทย์หญิงมิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า อาการแพ้สามารถสังเกตได้หลังจากทาเล็บ 1 - 2 วัน หากมีอาการแพ้รอบเล็บจะบวม แดง คัน ชาที่ปลายนิ้ว รวมถึงบริเวณที่เล็บไปสัมผัส เช่น รอบตา ริมฝีปาก ใบหน้า ลำคอ เนื่องจากสารก่อภูมิแพ้ไปสัมผัสบริเวณดังกล่าว ในการต่อเล็บอะคริลิก และการทาสีเจล อาจมีอาการเล็บแห้ง หลุด ลอก เล็บเปลี่ยนสีได้
การป้องกัน คือ หลีกเลี่ยงการทาสีที่แพ้ หรือเลือกน้ำยาทาเล็บที่ปลอดสารเคมี ส่วนการรักษาสามารถทำได้โดยการทายาที่มีส่วนผสมสเตียรอยด์เพื่อลดอาการอักเสบ การเคลือบปกป้องผิวด้วยครีมบำรุงเพื่อปกป้องชั้นผิวหนังกำพร้าจากการสัมผัสสารเคมี และสามารถทำการทดสอบผื่นแพ้สัมผัส patch test ที่อ่านผลโดยแพทย์ผิวหนัง
ภาพจาก กรมการแพทย์
