อัมมาร ชี้ พร้อมเสมอ สปส.เข้าระบบบัตรทอง (ไทยโพสต์)
สปสช. พร้อมผู้ประกันตนเข้าสู่ระบบบัตรทอง "อัมมาร" ชี้รูปแบบไหนก็ได้ แต่เรื่องงบประมาณสำคัญที่สุด ถ้ารัฐบาลมีงบพอ พร้อมดำเนินการได้ทันที แต่ช่วงแรกอาจต้องมีระยะปรับตัวเล็กน้อย
ภายหลังจากชมรมพิทักษ์สิทธิผู้ประกันตน ได้เข้ายื่นหนังสือถึงนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.สาธารณสุข เพื่อขอให้ปฏิบัติหน้าที่ตาม พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 ที่กำหนดให้บุคคลทุกคนมีสิทธิได้รับบริการสาธารณสุขที่ได้มาตรฐานและมีประสิทธิภาพเท่าเทียมกัน และตามมาตรา 10 ที่กำหนดให้ สปสช. เตรียมความพร้อมในการให้บริการสาธารณสุขแก่ผู้มีสิทธิตามกฎหมายว่าด้วยประกันสังคม ซึ่ง นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เป็นผู้รับเรื่องและจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุมคณะกรรมการ สปสช. ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 18 เมษายนนี้
ด้าน ดร.อัมมาร สยามวาลา นักวิชาการเกียรติคุณ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ในฐานะที่ปรึกษาสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ตามที่ สปสช. ได้ศึกษารูปแบบความเป็นไปได้ในการนำผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมเข้าสู่ระบบหลัก ประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง) และเสนอไว้ 3 แนวทาง คือ
1. นำผู้ประกันตนทั้ง 9.4 ล้านคนเข้าสู่ระบบบัตรทองทั้งหมด แต่จะส่งผลให้รัฐบาลจะต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มอีกกว่า 2 หมื่นล้านบาท
2. ให้ผู้ประกันตนเป็นผู้เลือกว่าจะใช้บริการระบบสุขภาพแบบใด
3. สปสช. ทำสัญญากับทางสำนักงานประกันสังคม (สปส.) ว่าด้วยเรื่องของผู้ประกันตนที่สมัครใจเข้ารับสู่ระบบบัตรทอง
ดร.อัมมาร กล่าวต่อว่า ไม่ว่ารัฐบาลจะเลือกแนวทางใดก็ตาม แต่หากสามารถจัดหางบประมาณ หรือหาก สปสช.ได้งบประมาณจากสำนักงบประมาณกลางมาแล้ว ก็สามารถดำเนินการได้เลย โดยไม่ผ่านหลักเกณฑ์ใด ๆ แต่ในระยะแรกอาจจะต้องใช้เวลาพอสมควร เพราะอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน ประกอบกับที่ผ่านมา สปสช.จะมีความถนัดในเรื่องการดูแลตามหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ชนบทมากกว่า ขณะที่ระบบประกันสังคมส่วนมากจะเป็นคนเมือง อย่างไรก็ตามในเรื่องการเปลี่ยนสิทธิประโยชน์ในการรักษาใด ๆ จะขึ้นอยู่กับคู่สัญญาว่าเป็นใครด้วย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมุล
