x close

ดูแลบ้านให้ปลอดโรค


เคล็ดลับสุขภาพ


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
 
          ใคร ๆ ก็ย่อมอยากให้บ้านของตัวเองเป็นที่พักผ่อนจากความตึงเครียดจากโลกภายนอก เพียงแค่ก้าวเข้าสู่บ้านก็รู้สึกอบอุ่นปลอดภัย แต่ในขณะเดียวกันภายในบ้านเองก็เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคตัวอันตรายที่จะทำลายสุขภาพเราได้เช่นกัน ปลอดภัยจากเรื่องวุ่นวายภายนอกแล้ว มาดูแลภายในบ้านให้สะอาด ปลอดภัยน่าอยู่ด้วยดีกว่าค่ะ
 

ห้องน้ำ

ห้องน้ำ
 
1. ทำความสะอาดฝักบัวอาบน้ำ

          ผลการศึกษาพบว่า ในฝักบัวอาบน้ำนั้นสามารถเป็นที่อยู่อาศัยของแบคทีเรียขนาดเล็ก ซึ่งแบคทีเรียตัวนี้สามารถทำลายเนื้อเยื่อปอดได้ ยิ่งเวลาคุณสระผม ฟองยาสระผมที่ไปเกาะอยู่ที่ฝักบัวซึ่งมีโปรตีนอันเป็นสารบำรุงผมที่ผสมอยู่ในแชมพูก็จะกลายเป็นอาหารชั้นยอดของเจ้าแบคทีเรียจิ๋วพวกนี้ หากคุณสังเกตเห็นคราบดำ ๆ ลื่น ๆ เกาะอยู่ตามรูของฝักบัวล่ะก็ ต้องทำความสะอาดอย่างเร่งด่วนเลยค่ะ และเพื่อป้องกันการเกิดคราบในครั้งต่อ ๆ ไปพยายามทำความสะอาดฝักบัวอาบน้ำทุกสัปดาห์ โดยการใช้แปรงขนแข็งแปรงที่บริเวณหัวฝักบัวค่ะ
 
2. ทำความสะอาดม่านกันเปียก

          สำหรับห้องน้ำที่ใช้ม่านกั้นเพื่อแบ่งบริเวณส่วนเปียกและแห้ง หากปล่อยให้ม่านอับและชื้น จะเป็นแหล่งสะสมและเติบโตของเชื้อโรคเป็นอย่างดี ซึ่งเป็นสาเหตุก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้ และอาจทำให้เกิดการติดเชื้อ จึงควรทำความสะอาดม่านกั้นในห้องน้ำของเป็นประจำทุกสัปดาห์ โดยนำลงไปซักในน้ำอุ่น และผสมยาซักให้เข้มข้นเล็กน้อย ก่อนจะตากให้แห้งและนำกลับไปแขวนที่เดิม รวมถึงหลังใช้งานม่านกั้นส่วนเปียก-แห้งเสร็จแล้ว ควรดึงปิดทุกครั้งเพื่อให้แห้งไวขึ้น และลดความอับชื้น
 
3. ทำความสะอาดตู้ยา

          ตู้ยาสามัญประจำบ้านเป็นอีกส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของบ้านที่จะมองข้ามไม่ได้เป็นอันขาด หากใครเก็บยาไว้ในห้องน้ำ หรือบริเวณที่มีความอับชื้น และอุณหภูมิไม่คงที่ซึ่งส่งผลให้ยาเสื่อมสภาพได้ง่าย รวมทั้งอาจทำให้เกิดการเลอะเลือนของฉลากยา จึงควรย้ายบริเวณที่เก็บมาเป็นห้องอื่น ๆ ของบ้าน อาจเป็นบริเวณห้องนั่งเล่น หรือห้องนอนซึ่งมีอุณภูมิและความชื้นคงที่ รวมถึงเก็บยาให้ห่างจากแสงด้วย 
 
4. ดูแลแปรงสีฟัน

          แปรงสีฟันเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่อยู่ใกล้ชิดกับร่างกายเรามากที่สุด และเรายังต้องใช้มันอย่างน้อยถึงวันละ 2 ครั้ง แต่หารู้ไม่ว่าแปรงสีฟันนี่เองที่เป็นแหล่งเพาะบ่มเชื้อโรคที่ดีสุด ๆ เมื่อคุณกดชักโครกแปรงสีฟันของคุณอาจถูกพรมไปด้วยละอองน้ำเล็ก ๆ ที่ลอยขึ้นมา ซึ่งแน่นอนว่ามีเชื้อโรคต่าง ๆ ปะปนมาด้วย นอกจากนี้อาจมีเชื้อโรคที่ปนเปื้อนมากับน้ำลาย หรือเสมหะของคุณขณะแปรงฟันตกค้างอยู่ที่ขนแปรงด้วย

          วิธีป้องกันง่าย ๆ คือปิดฝาสุขภัณฑ์ทุกครั้งก่อนกดชักโครก หรือย้ายไปแปรงสีฟันคุณไปเก็บที่อื่น และที่สำคัญต้องมั่นใจว่า แปรงสีฟันของคุณแห้งอยู่เสมอ เพราะไม่มีเชื้อโรคตัวไหนจะเติบโตได้ในที่ที่ขาดความชื้นแน่นอน
 

ห้องนั่งเล่น 

ห้องนั่งเล่น
 
1. ทำความสะอาดรีโมท

          รีโมทสำหรับควบคุมเครื่องเล่นต่าง ๆ เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคได้เช่นกัน โดย 1 ใน 5 ของเชื้อโรคเหล่านี้ก่ออันตรายและเป็นเชื้อที่มีความอึดกว่าเชื้อโรคทั่วไป เราจึงควรทำความสะอาดรีโมทเป็นประจำ โดยการใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์เช็ดเบา ๆ  หลีกเลี่ยงการใช้สเปรย์แอลกอฮอลล์เพราะอาจซึมเข้าไปทำลายวงจรของรีโมทได้ รวมถึงเปลี่ยนสำลีแผ่นใหม่ทุกครั้งเมื่อเช็ดรีโมทแต่ละอันเสร็จ
 
2. เปลี่ยนพรมผืนใหม่

          แม้จะใช้เครื่องดูดฝุ่นราคาแพงขนาดไหนก็ไม่สามารถทำความสะอาดคราบชนิดฝังแน่นบนพรมได้ เพราะฉะนั้นพรมที่ผ่านการใช้งานมานานจึงเป็นที่สะสมความสกปรก และที่อยู่ของเชื้อโรคต่าง ๆ รวมทั้งไรฝุ่น ซึ่งก่อให้เกิดอาการผื่นแพ้ น้ำตาไหล และหายใจติดขัด จึงควรนำพรมของคุณมาซักบ้าง คุณอาจเปลี่ยนพรมผืนใหม่ หรือเปลี่ยนวัสดุปูพื้นเป็นเสื่อน้ำมันแทนก็ได้
 
3. ดูแลไม้กระถางในห้อง

          ไม้กระถางเล็ก ๆ ที่คุณวางตกแต่งในห้องนั่งเล่นก็อาจเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคได้ หากคุณรดน้ำในปริมาณมากเกินไป ทำให้ผิวหน้าของดินหรือกรวดที่โรยทับเปียกชุ่มอยู่ตลอดเวลา กลายเป็นแหล่งเพาะตัวของเชื้อโรค เช่นนั้นแล้ว ครั้งต่อไปรดน้ำแต่ในปริมาณพอเหมาะ สังเกตดูผิวดินไม่ให้แฉะเกินไป เมื่อใช้นิ้วแตะต้องไม่มีดินเปียก ๆ ติดมา หรืออาจย้ายกระถางไปวางในห้องที่คุณไม่ได้เข้าไปใช้งานบ่อยครั้งนักก็ได้
 

 
ห้องนอน

ห้องนอน
 
1. ย้ายทีวีออกจากห้องนอน

          มีผลสำรวจออกมาว่าคู่รักที่ไม่มีทีวีอยู่ในห้องนอน มีความสุขกว่าคู่รักที่มีทีวีในห้องนอนถึง 2 เท่า การไม่มีทีวีในห้องนอนทำให้ได้เข้านอนเร็วขึ้นอย่างน้อย 30 นาที นั่นหมายถึงเวลาที่ร่างกายได้พักผ่อนเพื่อซ่อมแซมตัวเอง รวมถึงการได้หลับเต็มอิ่มกว่าเดิม ทำให้ตื่นขึ้นมาอย่างสดใสกระปรี้กระเปร่า ย้ายทีวีออกไปจากห้องนอนของคุณยังช่วยให้คุณมีเวลาจู่จี๋กับคนรักมากขึ้นด้วย หากใครยังทำใจย้ายเจ้าจอสี่เหลี่ยมออกไปไม่ได้ ลองกำหนดให้สัก 2 วันในสัปดาห์เป็นวันที่คุณและคนรักเข้านอนโดยไม่ต้องดูทีวีดูก็ได้ค่ะ
 
2. เปลี่ยนหมอนใบใหม่

          ถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนหมอนใบเดิมบ้างแล้ว หากหมอนที่คุณใช้อยู่เริ่มจะเก่า แถมปลอกหมอน หรือผ้าที่หุ้มอยู่ก็เริ่มสึกจนบาง หรือเส้นใยไม่เกาะตัวแน่นเหมือนเดิม เพราะเป็นการเปิดโอกาสให้ไรฝุ่นเข้าไปอาศัยอยู่ได้ง่าย รวมถึงละอองฝุ่นจากใยสังเคราะห์หรือนุ่นที่ยัดเอาไว้ฟุ้งออกมาได้เช่นกัน ดังนั้น เปลี่ยนหมอนใบใหม่โดยเลือกหมอนที่หุ้มด้วยผ้าที่เส้นใยทอทึบแน่น หากเป็นไปได้เลือกหมอนที่ยัดไส้โดยขนสัตว์ เพราะมีอายุการใช้งานนานกว่าไส้ยัดที่ทำจากวัสดุสังเคราะห์ค่ะ

3.ทำความสะอาดเสื้อผ้าในตู้เสื้อผ้า

          เสื้อผ้าที่คุณไม่ค่อยได้หยิบออกมาใส่บ่อยนัก อย่างเสื้อแจ็กเก็ต หรือเสื้อกันหนาว หากแขวนทิ้งเอาไว้ในตู้นอกจากเป็นที่อยู่ของฝุ่น ยังมีเชื้อโรคมาร่วมแฝงตัวด้วย จึงควรนำออกมาซักทำความสะอาดบ้าง เพียงสองครั้งต่อปีก็ถือว่าเพียงพอแล้ว สำหรับเสื้อผ้าที่เป็นขนสัตว์ที่เก็บกักฝุ่นได้ดีกว่า ก็อย่าลืมหาถุงพลาสติกสำหรับคลุมเสื้อผ้ามาคลุมไว้ด้วย

 
ห้องครัว

ห้องครัว
 
1. ทำความสะอาดขวดเครื่องปรุงบนโต๊ะกินข้าว

          บรรดาขวดเครื่องปรุงต่าง ๆ บนโต๊ะกินข้าว ไม่ว่าจะเป็น ขวดซอส หรือกระปุกเกลือพริกไทย มักเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคซึ่งจับอยู่บริเวณรอบ ๆ ภาชนะ แม้คุณจะเช็ดโต๊ะกินข้าว แต่คุณแทบไม่เคยเช็ดขวดเครื่องปรุงเหล่านี้เลย เมื่อเกิดการไอหรือจามระหว่างทานอาหาร ละอองน้ำลายซึ่งอาจปนเปื้อนเชื้อโรคก็จะกระเด็นไปจับ และสะสมอยู่ที่ขวดเครื่องปรุงเหล่านี้ เพราะฉะนั้นยามเช็ดโต๊ะทานข้าวทุกครั้ง ก็อย่าลืมทำความสะอาดขวดเครื่องปรุงต่าง ๆ ด้วยนะคะ
 
2. ทำความสะอาดฟองน้ำล้างจาน

          อุปกรณ์ช่วยทำควาสะอาดอย่างฟองน้ำล้างจานเอง ก็สามารถเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคได้เช่นกัน ทั้งเศษอาหารและความชื้น ทำให้ฟองน้ำเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค รวมถึงไวรัสที่ทำให้เป็นหวัดได้ด้วย เมื่อคุณใช้ฟองน้ำล้างจาน หรือเช็ดทำความสะอาดอ่างล้าง ก็เท่ากับคุณคุณกำลังป้ายเชื้อโรคนับล้านตัวให้กระจายออกไปบนพื้นผิวอื่น ๆ เพื่อป้องกันปัญหาฟองน้ำกลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค แช่ฟองน้ำในน้ำอุ่นจัดสัก 1 นาทีทุกครั้งหลังการใช้งานจะช่วยฆ่าเชื้อโรคได้ถึง 95% เลยทีเดียว
 
3. ทำความสะอาดตู้เย็น

          บริเวณประตูโดยเฉพาะส่วนมือจับของตู้เย็น สามารถเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคได้มากกว่าที่รองนั่งของชักโครกถึง 200 เท่า ไม่รู้กี่มือต่อกี่มือที่ไม่อาจแน่ใจว่าสะอาดหรือไม่ จับตู้เย็นเปิดปิดอย่างน้อย 5 ครั้งในหนึ่งวัน แถมตู้เย็นยังมักถูกวางในที่ไกลแสง มีทั้งความเย็นและความชื้น อันเหมาะต่อการอยู่อาศัยของเชื้อโรค ทำให้กลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคอีกที่หนึ่งซึ่งมักโดนมองข้าม หากต้องการหลีกไกลจากเชื้อโรคพวกนี้ เพียงเช็ดทำด้วยน้ำยาทำความสะอาดบ้างแค่สัปดาห์ละครั้งก็เพียงพอ
 
4. ทำความสะอาดอ่างล้างจาน

          อ่างล้างจานที่คุณใช้ในการชำระคราบอาหารออกจากภาชนะ รวมถึงล้างของสดต่าง ๆ กลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคได้เช่นกัน เพราะฉะนั้นทุกครั้งหลังจากใช้อ่างเสร็จแล้ว เช็ดทำความสะอาดอ่างด้วยน้ำผสมน้ำยาทำความสะอาด เท่านี้คุณก็ลดโอกาสอยู่รอดของเหล่าเชื้อโรคได้มากกว่าครึ่ง
 
 
เคล็ดลับสุขภาพ

อุปกรณ์เครื่องใช้ในบ้าน
 
1. เปลี่ยนผ้าถูบ้าน

          จากผลสำรวจพบว่า ผ้าขี้ริ้วที่ใช้ถูบ้านสามารถกักเก็บเชื้อโรคได้ดีกว่าการใช้ฟองน้ำถูบ้านอยู่ถึงเท่าตัว เปลี่ยนจากผ้าถูบ้านผืนเก่ามาใช้ฟองน้ำแทน ผสมน้ำยาทำความสะอาดพื้นลงในน้ำสำหรับถู และอย่าลืมนำไปตากให้แห้งสนิททุกครั้งหลังการใช้งาน
 
2. เปลี่ยนถุงเก็บฝุ่นในเครื่องดูดฝุ่น

          เครื่องดูดฝุ่น เปรียบเสมือนบ้านติดล้อของเจ้าเชื้อโรคทั้งหลาย โดยเชื้อโรคจะสะสมอยู่ที่ถุงดักฝุ่นในตัวเครื่อง เพราะฉะนั้นแต่ละครั้งที่คุณเปิดเครื่องใช้งาน สิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่คุณดูดเข้าไปก็จะกลายเป็นอาหารชั้นดีทำหรับเจ้าเชื้อโรค ดังนั้น จึงควรถอดถุงดักฝุ่นออกมาทำความสะอาดบ้าน โดนนำออกไปถอดนอกบริเวณบ้าน เพื่อที่ฝุ่นและเชื้อโรคจะได้ไม่ฟุ้งกระจาย หรือคุณสามารถเปลี่ยนไปใช้ถุงดักฝุ่นแบบที่บุด้วยสารฆ่าเชื้อก็ได้
 
3. ทำความสะอาดโทรศัพท์

          บริเวณปุ่มกดของโทรศัพท์เป็นที่สะสมของเชื้อโรคได้ดีไม่แพ้ปุ่มกดชักโครกในห้องน้ำสาธารณะเลย ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์บ้าน หรือโทรศัพท์มือถือก็ตาม แต่คุณคงไม่ต้องถึงกับล้างมือด้วยน้ำยาทุกครั้งหลังการใช้งานโทรศัพท์ก็ได้ เพียงแค่เช็ดด้วยน้ำยาทำความสะอาดสักสัปดาห์ละ 2 ครั้งก็เพียงพอแล้ว
 
4. ทำความสะอาดแผ่นรองเมาส์ หรือบริเวณที่มือสัมผัสโดน

          แผ่นรองเมาส์หรือบริเวณพื้นผิวที่คุณพักมือขณะใช้เมาส์ เป็นอีกแหล่งที่สามารถนำพาเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้ ทั้งเชื้อที่ก่อให้เกิดอาการเจ็บคอ ตาแดง รวมถึงการติดเชื้อที่ผิวหนัง เพื่อขจัดเชื้อโรคเหล่านี้ออกไปทำความสะอาดแผ่นรองเมาส์ หรือพื้นผิวบริเวณดังกล่าวด้วยสเปรย์ความสะอาด หรือหากใครกังวลว่าแอลกอฮอลล์ในสเปรย์จะทำลายพื้นผิว ก็สามารถใช้กระดาษทิชชชู่อเนกประสงค์ชุบน้ำสบู่อ่อน ๆ เช็ดทำความสะอาดได้
 
5. ทำความสะอาดคีย์บอร์ด

          คีย์บอร์ดหรือแป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์สามารถสะสมเชื้อโรดได้มากกว่าพื้นผิวในห้องน้ำถึง 200 เท่า เนื่องจากคีย์บอร์ดมีซอกหลืบที่ทำความสะอาดยาก ใช้น้ำยาทำความสะอาดเช็ดให้ทั่วสัปดาห์ละครั้งก็สามารถลดปริมาณเชื้อโรคได้กว่าครึ่ง
 
          เห็นไหมคะ ว่าสิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ ภายในบ้านก็อาจกลายเป็นที่แอบซ่อนของเจ้าเชื้อโรคตัวร้ายซึ่งพร้อมเข้าจู่โจมเราทุกเมื่อที่ร่างกายเราอ่อนแอ เพื่อเป็นการป้องกันเอาไว้ก่อน อย่าลืมนำคำแนะนำเหล่านี้ไปปฏิบัติเพื่อทำให้บ้านของคุณสะอาด น่าอยู่ แล้วก็เป็นบ้านที่ปลอดโรคนะคะ



 

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ดูแลบ้านให้ปลอดโรค อัปเดตล่าสุด 18 ธันวาคม 2556 เวลา 10:21:17 1,572 อ่าน
TOP