เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
สหรัฐฯ เผยพบเชื้อแบคทีเรีย ลิสเตอเรีย ปนเปื้อนในแคนตาลูป มีผู้เสียชีวิตแล้ว 13 ราย ติดเชื้ออีก 72 คน ชี้เชื้อร้ายแรงกว่าอีโคไล
หลังจากเมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา มีรายงานว่า ที่สหรัฐอเมริกา พบผู้เสียชีวิตจากการรับประทานแคนตาลูปปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรีย "ลิสเตอเรีย" จำนวน 3 ราย และอีก 6 รายอยู่ในความดูแลของแพทย์นั้น ล่าสุด ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ (ซีดีซี) เปิดเผยว่า พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็น 72 ราย และเสียชีวิตแล้ว 13 ราย ในรัฐแคนซัส มิสซูรี เนบราสก้า และเท็กซัส โดยพบเชื้อลิสเตอเรีย โมโนไซโตจีเนส ในตัวอย่างแคนตาลูปยี่ห้อ "ร็อกกี้ ฟอร์ด จากฟาร์มเจนเซนในเมืองเดนเวอร์ ที่ออกจากฟาร์มตั้งแต่วันที่ 29 กรกฎาคม ถึงวันที่ 10 กันยายนที่ผ่านมา ก่อนจะถูกเรียกคืนในวันที่ 14 กันยายน
ทั้งนี้ ซีดีซี ระบุว่า เชื้อลิสเตอเรียเป็นเชื้อโรคสายพันธุ์ที่มีความรุนแรงกว่าเชื้อซัลโมเนล ลา ที่เคยระบาด ในถั่วเมื่อ 3 ปีก่อน และอีโคไล ที่เป็นข่าวครึกโครมเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา แม้ว่าเชื้อโรคทั้งสองจะก่อให้เกิดอาการเจ็บป่วยมากกว่าก็ตาม โดยเชื้อลิสเตอเรีย เป็นอันตรายอย่างมากสำหรับผู้สูงอายุ สตรีมีครรภ์ และผู้ป่วยที่มีภูมิต้านทานต่ำ มันสามารถเติบโตได้ดีในอุณหภูมิต่ำ มักระบาดในเนื้อแช่เย็นพร้อมรับประทาน ชีสไม่ผ่านการพาสเจอร์ไรส์ และอาหารทะเลรมควันแช่เย็น
สำหรับอาการของผู้ที่ติดเชื้อลิสเตอเรีย จะเป็นไข้ ปวดกล้ามเนื้อ ส่งผลต่อกระเพาะอาหารและลำไส้ และถ้าการติดเชื้อลุกลามไปยังระบบประสาท ก็จะมีอาการปวดหัว คอแข็ง มึนงง สูญเสียการทรงตัว ตัวสั่น หรืออาจเกิดชักได้ในผู้ป่วยบางราย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
