เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ปีแล้วปีเล่าที่เรามักจะตั้งปณิธานกับตัวเองเอาไว้หลายอย่าง ที่จะทำอะไรเพื่อสุขภาพของตัวเอง เช่น ออกกำลังกายเป็นประจำ กินแต่อาหารที่ดีมีประโยชน์ เลิกบุหรี่ และเลิกพฤติกรรมแย่ ๆ อื่น ๆ อีกมากมาย แต่เรามักจะทำไม่ได้อย่างที่พูดสักที อ้างเหตุผลนู้นนี้ นานับประการ แต่วันนี้เราได้นำเคล็ดลับดี ๆ จากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ ที่ทางเว็บไซต์ boston.com ได้รวบรวมเอาไว้ มาเผยให้ทุกคนทราบกันค่ะ
1. สวมเครื่องมือวัดจำนวนก้าวเดินซะจากผลการวิจัยใหม่แนะนำให้เราสวมเครื่องมือวัดจำนวนก้าวเดินทุกวัน เพื่อเป็นการส่งเสริมกำลังใจให้คนออกกำลังโดยการเดินมากขึ้นในทุก ๆ วัน โดยการเดินนี้จะช่วยให้ลดน้ำหนัก และลดความดันเลือดลงได้ แล้วเชื่อไหมว่า การเดินออกกำลังอย่างกระฉับกระเฉงอย่างน้อยวันละ 30 นาที จะทำให้เราก้าวเดินได้ถึง 10,000 ก้าวต่อวันเลยทีเดียว
2. อย่าลืมยกน้ำหนักเสริมกล้ามเนื้อการยกน้ำหนักที่ว่านั้นรวมไปถึงทั้งส่วนบนและส่วนล่างของร่างกาย ซึ่งคนส่วนใหญ่มักจะละเลยจุดนี้ไป โดยเฉพาะคุณสาว ๆ ทั้งหลาย ที่ไม่อยากออกกำลังกายลักษณะนี้ เพราะกลัวร่างกายจะล่ำบึ้กดุจดังชายแกร่ง แต่รู้ไหมว่ามันจะช่วยปกป้องกล้ามเนื้อและกระดูกเมื่อยามที่เราแก่ตัวลง เพียงแค่ใช้เวลาสัก 20 นาทีต่อวัน ทำ 2-3 ครั้งต่ออาทิตย์ เพียงเท่านี้คุณก็จะมีร่างกายที่ดูดีฟิตแอนด์เฟิร์มทีเดียวล่ะ
3. อย่าโด้ปวิตามินมากเกินไปหลายคนมักจะทานวิตามินหลายชนิดเพื่อบำรุงสุขภาพของตัวเองเป็นจำนวนมาก แต่แท้จริงแล้วหากทานมักจนเกินไป ก็อาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้เช่นเดียวกัน ทางที่ดีคุณควรจะหันมาทานอาหารที่มีวิตามินจากอาหาร ผัก ผลไม้ต่าง ๆ จะดีกว่านะ แถมรสชาติยังอร่อยกว่าด้วย
4. หันมาทานปลาอย่างน้อย 2 มื้อต่ออาทิตย์รู้ไหมว่าปลาตัวน้อย ๆ อย่าง ปลาแซลมอน ทูน่า แม็คเคอเรลและปลาเฮอร์ริ่ง นั้นมีคุณค่าทางโภชนาการและให้ประโยชน์กับร่างกายของเรามาก เช่น บำรุงหัวใจและสมอง อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งได้อีก มากไปกว่านั้นยังเป็นอาหารที่เหมาะกับสาว ๆ หรือคนที่ต้องการจะลดน้ำหนักอีกต่างหาก แหม! มันยอดมาก
5. ลองปรึกษาคุณหมอเกี่ยวกับการทานยาแอสไพรินของคุณอย่าใช้ยาแอสไพริน เพื่อป้องกันโรคหัวใจ เพราะมันอาจไม่เหมาะสำหรับคุณ จากการทดลองล่าสุดของทางเวชศาสตร์ได้แนะนำว่า คุณผู้หญิงที่มีสุขภาพดี อายุน้อยกว่า 65 ปี นั้น ไม่ควรใช้แอสไพรินเพื่อป้องกันโรคหัวใจ เนื่องจากผู้หญิงที่ทานยาชนิดนี้เป็นระยะเวลานาน มักจะเป็นผู้ที่อายุ 65 ปีขึ้นไป หรือมีประวัติการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ หรือเบาหวาน จงพึงระวังไว้เถอะว่าตัวยาแอสไพรินนั้นทำให้มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคอื่น ๆ สูงมาก รวมถึงทำให้มีเลือดออกทางลำไส้ได้ จำไว้นะคะว่า ยานอกจากจะมีคุณแล้ว อาจยังมีโทษตามมา หากทานอย่างไม่ระวัง
6. ดื่มน้ำเยอะ ๆเมื่อคุณรู้สึกกระหายน้ำขึ้นมา "น้ำเปล่า" ควรจะเป็นสิ่งแรกที่คุณมองหาที่จะดื่ม เพราะน้ำเปล่าบริสุทธิ์ธรรมดา ๆ นี่แหละที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเราเป็นอย่างมาก
7. นอนให้ได้ 8 ชั่วโมงต่อคืนจากการศึกษาล่าสุด เป็นที่ยืนยันแล้วว่าร่างกายคนเรานั้นควรจะได้รับการนอนหลับพักผ่อน อย่างน้อย 8 ชั่วโมง ต่อคืน เพื่อให้คุณรู้สึกสดชื่น ลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ และช่วยลดอุบัติเหตุจากการหลับในขณะขับรถด้วย
8. ลดน้ำตาลและคาเฟอีนไม่น่าเชื่อเลยว่า หากเราลดปริมาณน้ำตาลในอาหารหรือเครื่องดื่มที่เราทาน จะช่วยเพิ่มพลังงานให้แก่ร่างกายเราสูงขึ้น แต่สำหรับคาเฟอีนนั้น ต่างคนต่างมีความคิดเห็นแตกต่างกันออกไป บางคนมองว่าคาเฟอีนในชา กาแฟ ทำให้นอนไม่หลับ ทำให้ใจสั่น ในทางกลับกันก็ว่าช่วยกระตุ้นทำให้เราตื่นตัวขึ้นจากอาการง่วงนอน และยังช่วยให้ผ่อนคลาย
9. หันมาบำบัดด้วยการฝังเข็มหรือการนวด แทนใช้ยาสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื้อรังจากการปวดหลัง หรือตามเส้นประสาทต่าง ๆ เราแนะนำให้มาบำบัดอาการเหล่านี้โดยการนวดคลายเส้น หรือฝังเข็มดีกว่าการอัดยาแก้ปวดทั้งหลายเข้าไปเป็นประจำนะ
10. เลิกบุหรี่เสียเถอะคุณหาประโยชน์ของบุหรี่ได้สักข้อไหม? ใช่ มันไม่มีเลย หากคุณมีปัญหาในการเลิกมัน เราอยากให้คุณเริ่มจากจุดง่าย ๆ ก่อน เช่น สูบให้น้อยลง หรือลองงดสูบในช่วงเวลาที่คุณมักสูบเป็นประจำ หรืออาจจะมองหาตัวช่วยอื่น ๆ เช่น ลองไปปรึกษาแพทย์เพื่อหาหนทางที่จะเลิก เข้าร่วมกลุ่มบำบัดสำหรับคนต้องการเลิกบุหรี่ เพื่อหาคนที่รู้สึกแบบเดียวกับคุณ ทั้งยังคอยให้กำลังใจอีกด้วย หรือตัวช่วยอย่างแผ่นนิโคติน (พลาสเตอร์อดบุหรี่) เป็นต้น
11. เลิกโฟกัสกับการอดอาหาร ให้โฟกัสไปที่การกินแทนงงรึเปล่าคะ? ใช่ค่ะ เราอยากให้คุณสนใจไปที่การกินมากกว่า โดยปกติแล้ว เวลาที่เราหิวมาก เราจะซัดทุกอย่างที่ขวางหน้าไปหมด โดยเฉพาะมื้อเย็น แล้วก็มาบ่นภายหลังว่า ทำไมอ้วนขึ้น ทั้งนี้ลองเปลี่ยนมากินให้บ่อยขึ้น แต่ลดปริมาณในแต่ละมื้อให้ลดลง จะช่วยให้ในมื้อเย็นของคุณไม่รู้สึกหิวมากจนเกินไป และทานน้อยลงเอง ไม่ต้องอดอาหารให้เสียสุขภาพ
12. จำกัดการกินเหมือนกับที่คุณจำกัดเงินแต่ละวันเรามักจะวางแผนงบการใช้จ่ายเงินของคุณ ว่าใช้-หรือรับมาจำนวนเท่าไหร่ อาหารก็เช่นเดียวกัน เราควรจะทราบว่าควรจะรับประทานเข้าไปขนาดไหนถึงจะดีต่อสุขภาพเรา อาหารชนิดใดที่ไม่ควรทานมาก เพื่อระวังปริมาณแคลอรี แต่เราก็ไม่ได้อยากให้คุณเครียดถึงขนาดต้องเอาเครื่องคิดเลขพกติดตัวตลอดเพื่อคำนวณน้ำมันนะ นั่นก็เยอะไปค่ะ
13. ทานอาหารให้หลากหลายในแต่ละมื้อในอาหารมื้อหนึ่ง ควรจะกินอาหารที่แตกต่างกันสัก 3 ชนิด ไม่ควรกินอย่างใดอย่างหนึ่งมากเกินไป เพื่อไม่ให้ได้รับสารอาหารชนิดใดมากเกินความต้องการของร่างกาย และจะสะสมกลายเป็นส่วนเกินโดยไม่รู้ตัว
14. การกินไม่ได้ช่วยให้อารมณ์ดีขึ้นใครหลายคน (โดยเฉพาะสาว ๆ) มักจะใช้วิธีการกิน ๆ ๆ เป็นการบำบัดอารมณ์ระบายความเครียด เพื่อทำให้รู้สึกตัวเองดีขึ้น มันก็ได้ผลนะ...แต่ก็เพียงชั่วคราว ซึ่งในระยะยาวแล้ว มันก็ไม่ช่วยแก้ปัญหาเรื่องอารมณ์อยู่ดี แถมยังทำให้น้ำหนักขึ้น แล้วก็ลงท้ายด้วยเครียดอีก! ไม่ดีเลยเน้อ
15. อย่าดื่มแคลอรีเข้าไปมากนักก็กาแฟนมลาเต้กลิ่นหอมยั่วยวนจากร้านกาแฟชื่อดังทั้งหลายแหล่นั่นไงล่ะคะ รู้หรือไม่ว่า กาแฟแก้วนั้นมีจำนวนแคลอรีใกล้เคียงกับแฮมเบอร์เกอร์ชิ้นใหญ่หนึ่งชิ้นเลยทีเดียว! แต่ก็ไม่ต้องเครียดไป ดื่มพอเป็นพิธีตามโอกาสและตามใจปากบ้างก็ไม่เป็นไรหรอก แต่อย่าให้มากเกินล่ะ!!!
เป็นยังไงกันบ้างคะกับเคล็ดลับที่เรานำมาเสนอให้เพื่อน ๆ ดู ไม่น่าจะยากเกินไปที่จะลองทำดูเพื่อสุขภาพที่ดีของตัวเอง หากคิดว่าทำทั้งหมดทีเดียวมันจะยากเกินไป ค่อย ๆ เริ่มทีละอย่างก็ได้ เริ่มต้นวันนี้ เพื่อสุขภาพที่ดีรับปีใหม่อันสดใสกันดีกว่าค่ะ
เคล็ดลับสุขภาพ สุขภาพใกล้ตัว โรคและการป้องกัน คลิกเลย
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะ
