x close

สธ. เผย ปัญหาครอบครัว ปัญหายอดฮิต ให้สายด่วน 1323 แนะ

ความรัก


สธ. เผย ปัญหาครอบครัว ปัญหายอดฮิต ให้สายด่วน 1323 แนะ (ไทยโพสต์)


        นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดงาน "บ้านอุดมสุข...ความสุขสร้างได้" ณ โรงพยาบาลศรีธัญญา โดยเปิดเผยว่า ครอบครัวคือสถาบันมูลฐานของมนุษย์ เป็นหน่วยขนาดเล็กที่สุดของสังคมแต่มีความสำคัญที่สุดของสังคม ทั้งนี้ในช่วงเทศกาลวันสงกรานต์ที่ผ่านมาซึ่งมีวันหยุดยาวหลายวัน ถือเป็นโอกาสดีที่ครอบครัวจะได้มีโอกาสใช้เวลาอยู่ร่วมกันมากขึ้นกว่าปกติ เพราะตามปกติในยุคปัจจุบันแต่ละครอบครัวมีเวลาอยู่ร่วมกันน้อยลง โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ ๆ และในกรุงเทพมหานคร

        การใช้เวลาอยู่ร่วมกันจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกคนในครอบครัวควรคำนึงถึงอยู่ตลอดเวลา เพราะการใช้เวลาอยู่ร่วมกันคือการสร้างสายสัมพันธ์ในครอบครัว ช่วยทำให้มีความรักความผูกพันกันมากยิ่งขึ้น การที่ครอบครัวไทยต้องเผชิญกับสภาวะแวดล้อมทางสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรอบด้าน ส่งผลให้เกิดความสั่นคลอนของสถาบันรอบครัว ทั้งปัญหาเด็กถูกทอดทิ้ง ผู้สูงอายุถูกปล่อยให้อยู่ตามลำพัง ปัญหายาเสพติด ปัญหาตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ ปัญหาความรุนแรง ปัญหาการฆ่าตัวตาย ฆ่าผู้อื่น ปัญหาการหย่าร้าง

        ซึ่งจากรายงานของกรมสุขภาพจิตเกี่ยวกับการให้บริการปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิต 1323 พบว่า ปัญหาครอบครัวเป็นปัญหาลำดับต้น ๆ ที่ประชาชนโทรศัพท์เข้ามาขอรับคำปรึกษา ซึ่งปีที่ผ่านมาอยู่ในลำดับ 3 รองจากปัญหาสุขภาพจิตและโรคทางจิตเวช และยังพบว่ามีจำนวนประชาชนขอรับบริการเพิ่มขึ้นจากปี 2553 เกือบพันราย (ปี 2553 ขอรับบริการ 3,674 ราย ปี 2554 ขอรับบริการ 4,632 ราย) ปัญหาที่โทร.เข้ามาปรึกษา ได้แก่ ปัญหาคู่ครองนอกใจ ความไม่เข้าใจกัน ลูกติดยาเสพติด ติดเกม ติดเพื่อน เป็นต้น ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่ากลุ่มอายุที่โทร.เข้ามาขอรับบริการปรึกษาปัญหาครอบครัว

        นอกจากจะเป็นวัยผู้ใหญ่อายุระหว่าง 25-59 ปีแล้ว กลุ่มเด็กและวัยรุ่นเป็นกลุ่มรองลงมาที่โทร. เข้ามาขอรับบริการปรึกษาปัญหาครอบครัว คิดเป็นอัตราส่วนกลุ่มผู้ใหญ่ต่อกลุ่มเด็กและวัยรุ่นประมาณ 5:1 และขอรับบริการปรึกษามากกว่าผู้สูงอายุ ซึ่งปัญหาที่เด็กและวัยรุ่นโทร. เข้ามาได้แก่ความคาดหวังของผู้ปกครองต่อการเรียนของเขา การไม่ไว้วางใจเกี่ยวกับการคบเพื่อน หรือการออกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน
   
        สิ่งเหล่านี้สะท้อนถึงปัญหาความสัมพันธ์ในครอบครัว ที่ส่วนหนึ่งมาจากการไม่มีเวลาให้แก่กัน อย่างไรก็ตามบ้านเราด้วยวัฒนธรรมแบบไทย ๆ ความสัมพันธ์ในระบบครอบครัวยังคงมีความสำคัญอยู่ แม้จะดูห่างออกไปบ้างแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมาเริ่มสร้างกันใหม่ไม่ได้ ขอเพียงใช้เวลาที่อยู่ร่วมกันให้มีคุณค่ามากที่สุด เพื่อสร้างความสุขให้เกิดขึ้นในครอบครัว อาจเริ่มง่าย ๆ โดย  

        1. สื่อสารกันในครอบครัว เช่น การได้พูดคุยกัน 2-3 คำ หรือการใช้คำพูดบางคำที่ทำให้รู้สึกถึงความห่วงใยที่มีต่อกัน หรือแม้ไม่พูดแต่แสดงความรักกันด้วยการสัมผัสหรือการกอด ก็สื่อถึงความรักความผูกพันและความสุขที่เกิดขึ้นได้ในแต่ละวันแล้ว

        2. ออกแบบและทำกิจกรรมครอบครัวร่วมกัน เช่น ดูทีวีด้วยกัน ทำงานบ้านร่วมกัน ค้นหาเรื่องราวต่างๆ ในอินเทอร์เน็ตด้วยกัน ไปกราบคุณปู่คุณย่าด้วยกัน เล่นกีฬาด้วยกัน ทำอาหารรับประทานร่วมกัน ทำกิจกรรมทางศาสนาร่วมกัน ทำกิจกรรมจิตอาสาร่วมกัน หรือแม้แต่การช่วยแก้ปัญหาให้กันและกันก็จะทำให้เวลาที่อยู่ร่วมกันมีคุณค่าแล้ว

        ทั้งนี้ควรจัดสรรเวลาและคงความสม่ำเสมอ เพื่อให้การใช้เวลาอยู่ร่วมกันของครอบครัวมีคุณค่า และสร้างความสุขทางใจให้แก่กันและกันมากที่สุด

        นอกจากครอบครัวทั่วไปที่ควรใช้เวลาอยู่ร่วมกันอย่างมีคุณค่า เพื่อสร้างความรักความผูกพันและความสุขให้เกิดขึ้นแล้ว ครอบครัวผู้ป่วยจิตเวชเองก็สามารถสร้างความสุขให้เกิดขึ้นได้เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะครอบครัวผู้ป่วยโรคจิตจากสารเสพติด ที่สำคัญคือ ยาบ้า ซึ่งในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมา จะเห็นสถานการณ์ข่าวผู้เสพยาบ้าก่อความรุนแรงขึ้นในสังคม ล่าสุดคือการจี้ภรรยาเป็นตัวประกัน เป็นต้น

        ทั้งนี้ผู้เสพติดยาบ้าเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงที่สุดที่จะเกิดอาการโรคจิต เมื่อเปรียบเทียบกับสารเสพติดอื่น อาการที่พบได้บ่อยที่สุดคือ ความคิดหวาดระแวง อาจเพียงสงสัย ระแวดระวัง รู้สึกว่ามีคนคอยเฝ้ามองหรือติดตามตัวเอง พูดพาดพิงถึงจนถึงมีอาการหลงผิด ประสาทหลอน โดยอาการจะเป็น ๆ หาย ๆ เป็นพัก ๆ หากยังคงเสพไปเรื่อย ๆ จะเริ่มมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป อาการโรคจิตจะเด่นชัดขึ้น เกิดพฤติกรรมก้าวร้าวอย่างเฉียบพลัน หรือมีการทำร้ายตนเอง ทำร้ายผู้อื่น นอกจากนี้ อาจพูดน้อย เชื่องช้า และสีหน้าไร้อารมณ์ ซึ่งอาการทางจิตในผู้ป่วยแต่ละรายจะแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับปริมาณ ความถี่ และระยะเวลาที่เสพ ยิ่งเสพหนักเป็นเวลานานยิ่งพบอาการโรคจิตรุนแรง และหากอดนอนจะยิ่งทำให้เกิดอาการโรคจิตง่ายและรุนแรงมากขึ้น ระยะเวลาที่เริ่มมีอาการมักเกิดภายหลัง 2-5 ปีหลังการเสพติด

        สำหรับผู้เสพยาบ้าเรื้อรังยังพบปัญหาสุขภาพจิตอื่นร่วมด้วย อาทิ ภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล และพยายามฆ่าตัวตาย ทั้งนี้การรักษายิ่งรักษาเร็วก็จะหายเร็ว หากเสพไม่นาน มักใช้เวลารักษาประมาณ 1-2 สัปดาห์ ซึ่งมีโอกาสหายได้ แต่หากเรื้อรังต้องใช้ระยะเวลามากกว่า 2 เดือนในการรักษา และต้องไม่ให้ผู้ป่วยกลับไปเสพหรือได้รับสารกระตุ้นอีก รวมทั้งทานยาตามที่แพทย์สั่ง ดังนั้นครอบครัวและชุมชนจึงมีบทบาทสำคัญยิ่ง ที่จะช่วยดูแลผู้ป่วยให้ใช้ชีวิตอยู่ในครอบครัวและชุมชนอย่างปลอดภัยต่อตนเองและผู้อื่น 






ขอขอบคุณข้อมูลจาก


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สธ. เผย ปัญหาครอบครัว ปัญหายอดฮิต ให้สายด่วน 1323 แนะ อัปเดตล่าสุด 19 เมษายน 2555 เวลา 17:59:53 1,882 อ่าน
TOP