x close

สธ.ยัน ไม่ปิดข้อมูลผู้ป่วย โรคมือเท้าปาก อย่างแน่นอน




เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม


            สธ.ยัน ไม่ปิดข้อมูลผู้ป่วย มือ เท้า ปาก อย่างแน่นอน คาดเชื้อจะระบาดอีกแค่ 1 เดือน แนะยึดหลักกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ

            วานนี้ (21 กรกฎาคม) นายแพทย์สุรวิทย์  คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.)ได้เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีเด็ก 2 ขวบ เสียชีวิตที่โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม ที่ผ่านมาว่า ผลการตรวจอุจจาระของเด็กคนนี้ ถึงแม้ว่าจะไม่พบเชื้อไวรัส มือ เท้า ปาก ก็ตาม แต่ขณะนี้ ทาง สธ. ก็ได้ขึ้นบัญชีไว้ ว่าเป็นผู้ป่วยที่เข้าข่ายสงสัยเป็นโรคมือ เท้า ปาก อย่างไรก็ตาม ตนขอยืนยันว่า ทาง สธ. จะไม่ปกปิดข้อมูลอย่างเด็ดขาด จะรายงานผู้ป่วยอย่างตรงไปตรงมา ส่วนข้อมูลของเด็กที่เสียชีวิตรายนี้ ตนจะนำเอาเข้าที่ประชุมของผู้เชี่ยวด้านไวรัสวิทยาและระบาดวิทยา ที่ สธ. ตั้งขึ้น ในสัปดาห์หน้านี้

            ทั้งนี้ นายแพทย์สุรวิทย์ กล่าวต่อว่า ส่วนการที่จะทราบว่าผู้ป่วยที่ว่าเป็นโรคมือ เท้า ปาก หรือไม่นั้น ต้องพิจารณาประกอบด้วยกัน 3 ด้าน ได้แก่...

            1. ระบาดวิทยาของเชื้อโรคมือ เท้า ปาก
            2. อาการของผู้ป่วยที่ปรากฎตั้งแต่เริ่มป่วยจนถึงก่อนเสียชีวิต
            3. ผลการตรวจเชื้อขั้นยืนยันทางห้องปฏิบัติการของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์

            ดังนั้น ผู้เสียชีวิตรายนี้ ยังจัดอยู่ในข่ายของผู้ป่วยสงสัยเท่านั้น จะต้องรอผลการประชุมของคณะผู้เชี่ยวชาญ เพื่อยืนยันสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง

            พร้อมกันนี้ นายแพทย์สุรวิทย์ ยังกล่าวต่อว่า สำหรับสถานการณ์ของโรคมือ เท้า ปาก ในขณะนี้ จัดว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ควบคุมได้ และได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานต่าง ๆ เป็นอย่างดี อีกทั้งประชาชนมีการตื่นตัวในเรื่องนี้ดีมาก ซึ่งโรคมือเท้าปากจัดเป็นโรคประจำถิ่นในไทยอยู่แล้ว การเกิดโรคในปีนี้ไม่ได้มากกว่าปีที่แล้ว ทั้งนี้ ในปี 2554 พบผู้ป่วยประมาณ 18,000 ราย โดยในรอบ 7 เดือนปีนี้ พบผู้ป่วยสะสมทั้งหมด 13,200 ราย

           อย่างไรก็ดี นายแพทย์สุรวิทย์ กล่าวต่อว่า ตนเชื่อว่าเชื้อจะแพร่ระบาดไปเพียงอีก 1 เดือน ต่อจากนั้นก็จะเบาบางลง เนื่องจากสภาพสิ่งแวดล้อมไม่เหมาะสมกับเชื้อไว้รัสชนิดนี้ ซึ่งชอบความชื้น และประการสำคัญก็คือ ยังไม่พบการแพร่ระบาดของเชื้่อโรคมือ เท้า ปาก จากกัมพูชา เข้ามาในไทย โดย สธ. ได้จัดทีมแพทย์ และเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบและคัดกรองให้กับชาวกัมพูชาที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง ตามจังหวัดที่ติดชายแดน ทั้งนี้ หากพบว่า เด็กกัมพูชามีอาการป่วยเป็นโรคมือ เท้า ปาก ก็จะรักษาอย่างดีตามมนุษยะรรม และแนะนำให้กลับไปรักษาตัวที่ประเทศกัมพูชาจนหายเป็นปกติเสียก่อน ไม่เช่นนั้นจะไม่อนุญาตให้เข้ามาให้ประเทศไทย
 
        ท้ายนี้ นายแพทย์สุรวิทย์ ได้กล่าวว่า ตนขอให้ประชาชนทุกคนช่วยกันดูแลสุขภาพของลูกหลาน และให้หลีกเลี่ยงการพาเด็กไปในที่ที่แออัด และให้ยึดหลักกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ โดยต้องให้เด็กล้างมือฟอกสบู่บ่อย ๆ หลังจากสัมผัสสิ่งของต่าง ๆ ทั้งก่อน หรือหลังรับประทานอาหาร และหลังจากเข้าห้องน้ำทุกครั้ง ส่วนสภาพแวดล้อมความเป็นอยู่ ควรเปิดหน้าต่างให้แสงแดดส่องถึง เพื่อลดความอับชื้นในบ้าน และให้สังเกตุอาการของเด็กทุก ๆ วัน ถ้าหากเด็กมีอาการไข้ต่ำ ๆ ต่อมาจะประมาณ 3 วัน ก็จะมีตุ่มใส ๆ ขึ้นตามมือ เท้า และในปากที่ใดที่หนึ่ง ให้รีบไปพบแพทย์ทันที เพื่อจะได้รักษาอย่างถูกต้อง และไม่ให้โรคนี้แพร่ระบาดในวงกว้าง

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สธ.ยัน ไม่ปิดข้อมูลผู้ป่วย โรคมือเท้าปาก อย่างแน่นอน อัปเดตล่าสุด 22 กรกฎาคม 2555 เวลา 16:24:32
TOP