ขอขอบคุณภาพประกอบจาก theblaze.com , news.images.itv.com , i2.dailyrecord.co.uk , wa1.cdn.3news.co.nz ,
เมื่อวันที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์เดลิเมลของอังกฤษ รายงานว่า ศาลสูงอังกฤษพิพากษาปฎิเสธคำร้องชายรายหนึ่งที่ทุกข์ทรมานจากการป่วยเป็นอัมพาตมานานถึง 7 ปีและต้องการให้จบชีวิตเขาไปอย่างถูกกฎหมายเสียที
โดยชายชาวอังกฤษคนดังกล่าวคือ โทนี่ นิกคลินสัน อายุ 58 ปี อดีตนักธุรกิจ คุณพ่อของลูกสาว 2 คน เขาเคยมีชีวิตที่มีความสุขกับภรรยาและลูก ๆ แต่ในปี 2005 โทนี่เกิดภาวะเส้นเลือดในสมองอุดตัน เป็นเหตุให้ป่วยเป็นโรค ล็อก อิน ซินโดรม ทำให้ร่างกายเกือบทั้งหมดเป็นอัมพาต ขยับตัวเคลื่อนไหวไม่ได้นับตั้งแต่นั้นมา แม้ความรู้สึกนึกคิดยังดีอยู่ แต่สภาพจิตใจนั้นหดหู่ ที่ต้องทนทรมานอยู่ในสภาพแบบนี้ไปจนตาย ต้องให้คนอื่นมาคอยดูแลอยู่ตลอดเวลาเป็นเวลาถึง 7 ปีแล้ว
ทั้งนี้ นายนิกคลินสัน เคยยื่นคำร้องต่อศาลครั้งแรก เมื่อเดือนมกราคม 2555 ขอให้มีการอนุมัติให้แพทย์ทำการการุณยฆาตเขา โดยครอบครัวของเขาจะไม่ถือว่าเป็นการฆาตกรรม พร้อมทั้งขอให้แพทย์ที่รับผิดชอบได้รับสิทธิ์คุ้มกันทางกฎหมาย แต่ในครั้งนั้น ศาลกลับมีคำวินิจฉัยว่า การอนุญาตให้ผู้อื่นจบชีวิตตน โดยจะไม่เอาผิดทางกฎหมายนั้น เป็นเรื่องที่แทบเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากจะเท่ากับเป็นการเปลี่ยนแปลงกฎหมายการฆาตกรรมไปโดยปริยาย และต้องได้รับการพิจารณาเป็นรายกรณีจากรัฐสภาเท่านั้น
ด้านนายนิกคลินสัน ให้สัมภาษณ์หลังศาลอ่านคำพิพากษาเสร็จสิ้นว่า รู้สึกใจสลาย เหมือนความหวังที่ตั้งไว้ได้พังทลายลงไม่เป็นท่า อย่างไรก็ตาม เขาและครอบครัว จะยื่นเรื่องอุทธรณ์จนถึงที่สุด เพราะถ้าเขาไม่ตายตอนนี้ ก็จะต้องทนอยู่ในสภาพที่ไม่มีอะไรแตกต่างไปจากเดิม ได้แต่นั่ง ๆ นอน ๆ อยู่แบบนี้ ไปอีก 20 ปี หรือมากกว่านั้น จนกว่าจะถึงวันที่เขาเสียชีวิต มันเจ็บปวดในจิตใจทั้งตัวเขาเองและครอบครัวด้วย
สำหรับการใช้ชีวิตของนายโทนี่ทุกวันนี้ เขาไม่มีแรงแม้แต่จะพูด การสื่อสารจึงทำได้ผ่านบอร์ดตัวอักษร หรือผ่านคอมพิวเตอร์ โดยใช้สายตาเป็นตัวควบคุม เขานอนแค่ 5 ชั่วโมงก็เพียงพอแล้ว เพราะตอนนี้ ทั้งวันก็เหมือนกับการพักผ่อนอยู่แล้ว เนื่องจากร่างกายขยับเขยื้อนไม่ได้เลย
ตามปกติเขาจะนั่งดูโทรทัศน์จนถึงเวลาแปดโมงครึ่งในตอนเช้า ซึ่งเป็นเวลาที่พยาบาลคนแรกมาถึง ก่อนที่พยาบาลจะมาถึง ภรรยาจะเป็นคนคอยดูแลเขาในเบื้องต้น เริ่มตั้งแต่ 07.30 น. ถึง 08.00 น. ตอนเช้า ภรรยาจะเอายามาให้กิน และให้น้ำผลไม้เป็นอาหารเช้า ก็มีแค่ยาตัวเดียวที่ทำให้ร่างกายรู้สึกสบายขึ้น และช่วยยืดชีวิตของเขาต่อเนื่องมาเรื่อย ๆ นับจากป่วยเป็นโรคนี้เมื่อหลายปีก่อน จากร่างกายที่เคยแข็งแรงก็ผอมลงจนหน้าผิดรูป จากชายที่เคยหล่อเหลา สีหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม กลายเป็นเหมือนชายแก่ที่ใบหน้ามีแต่คราบน้ำตาและความทุกข์โศกอยู่ตลอดเวลา
