อันตรายจากเสื้อกันหนาวมือสองแพทย์แนะทางเลี่ยงกลากเกลื้อน (ไทยโพสต์)
จากสภาพอากาศที่เริ่มหนาวเย็นขึ้น ส่งผลให้เสื้อกันหนาวมือสองกำลังได้รับความนิยมอย่างคึกคัก โดยเฉพาะผู้ที่มีรายได้น้อย เพราะเสื้อ 1 ตัวนั้นราคาตกอยู่ที่ไม่เกิน 150 บาท อีกทั้งสภาพการใช้งานอยู่ในสภาพดีไม่ต่างจากเสื้อกันหนาวใหม่ถอดด้าม แต่หลายคนที่ใช้เสื้อกันหนาวมือสองโดยขาดความรู้ความเข้าใจ อาจนำมาซึ่งโรคติดต่อทางผิวหนังอย่างโรคกลากเกลื้อน รวมไปถึงโรคผื่นคัน และโรคภูมิแพ้จากเสื้อกันหนาวราคาถูกได้โดยไม่รู้ตัว
ดังนั้นเพื่อคลายความกังวลให้ผู้บริโภคงบน้อยในการใช้เสื้อกันหนาวมือสองอย่างถูกวิธีนั้น นพ.นภดล นพคุณ อดีตนายกสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย ให้ข้อมูลว่า การที่เสื้อกันหนาวมือสองจะมีความปลอดภัยมากน้อยแค่ไหนนั้น ขึ้นอยู่กับว่าเจ้าของเสื้อนั้นรักษาความสะอาดเกี่ยวกับร่างกายมากน้อยเพียงใด ซึ่งหากเจ้าของเสื้อไม่รักษาความสะอาดเท่าที่ควรนั้น ผู้บริโภคที่นิยมซื้อเสื้อกันหนาวใช้แล้วอาจติดโรคผิวหนังได้ โดยเฉพาะ "เชื้อโรคกลากเกลื้อน" ซึ่งจะสังเกตผื่นแดงมีขุยรอบ ๆ และเกิดอาการคันบริเวณลำตัว หากเป็นที่ศีรษะเรียกว่า tinea capitis แต่หากพบที่เล็บเรียกว่า Tinea ungium ส่วนที่ใบหน้า Tinea facii ซึ่งขนาดของผื่นพบได้ตั้งแต่ขนาดเล็กจนกระทั่งใหญ่ ซึ่งการได้รับเชื้อรานั้นสามารถติดต่อจากสัตว์สู่คน "Microsporum audouinii" หรือคนสู่คน อย่าง "Trichophyton rubrum" (จะพบผื่นเป็นขุยแห้ง ๆ)
สาเหตุหลัก ๆ ที่พบนั้นได้แก่ เชื้อพยาธิที่ปนเปื้อนอยู่ในพื้นดิน หรือ ตัวแมลงที่เจริญเติบโตบริเวณที่นอน หรือเบาะนั่งที่มีรูและรอยรั่วอยู่ด้านใน อย่าง หมัด และตัวไรตัวเลือด ซึ่งหากแมลงและเชื้อราเหล่านี้ปนเปื้อนกับเสื้อกันหนาวมือสอง เมื่อสัมผัสโดนผิวหนังมันจะดูดเลือด และทำให้เกิดผิวหนังเป็นผื่นแดง จนกลายเป็นผื่นแพ้ คัน ติดเชื้อ และก่อให้เกิดโรคผิวหนังในร่มผ้าอย่างที่กล่าวมาข้างต้น
สำหรับการป้องกันตัวแมลงและเชื้อพยาธิซึ่งเป็นสาเหตุของโรคกลากเกลื้อนนั้น คุณหมอแนะนำว่า ก่อนซักทำความสะอาดเสื้อกันหนาวมือสอง ควรตากแดดทิ้งไว้ประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อให้แน่ใจว่า แมลงเหล่านี้ถูกกำจัดไปแล้ว จากนั้นจึงค่อยทำความสะอาดโดยการต้มในน้ำเดือดนาน 15-30 นาที ก่อนแช่น้ำยาซักผ้าขาว แล้วรีดด้วยความร้อนสูง โดยเฉพาะด้านในของเสื้อผ้าที่ความร้อนมักเข้าไปไม่ถึง ก็ป้องกันอันตรายจากเชื้อโรคที่ปนมากับเสื้อกันหนาวที่ใช้แล้วได้ทางหนึ่ง นอกจากนี้ ฝุ่นและคราบผงซักฟอกที่ปนเปื้อนมากับเสื้อกันหนาวมือสอง ซึ่งทำความสะอาดไม่ทั่วถึงนั้น ยังก่อให้เกิด "อาการระคายเคืองผิวหนัง" ซึ่งส่งผลกระทบให้ผู้ที่เป็น "โรคภูมิแพ้กำเริบ" อาการกำเริบได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม คุณหมอกล่าวว่า "แม้เชื้อโรคดังกล่าวจะไม่รุนแรงมากนัก แต่หากปล่อยไว้อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพผิวหนังในระยะยาวได้ และผู้ที่มีอาการของเชื้อราในร่มผ้าอันเกิดจากการใช้เสื้อกันหนาวมือสองนั้น ไม่ควรแคะแกะเกาบริเวณผื่นแดงคัน หรือปล่อยทิ้งไว้จนอาการลุกลาม แต่ควรรีบไปปรึกษาแพทย์ผิวหนังทันที เพื่อรับการรักษาและรับยาทา เพื่อบรรเทาอาการของโรค ประกอบกับในช่วงนี้เป็นฤดูปลายฝนต้นหนาว จะทำให้เชื้อราดังกล่าวเจริญเติบโตได้ดี เนื่องจากสภาพอากาศมีลักษณะแห้งปนชื้น ดังนั้นผู้บริโภคไม่ควรมองข้ามความสะอาดเล็ก ๆ น้อย ๆ โดยเฉพาะการทำความสะอาดเสื้อผ้าที่ใช้แล้ว"
ทั้งนี้ เสื้อผ้ากันหนาวมือสอง ถือเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้บริโภคที่มีรายได้ไม่มาก ดังนั้น นพ.นภดล จึง แนะนำว่า "สามารถเลือกใช้ได้ แต่ทางที่ดีควรเลือกประเภทที่ยังมีสภาพดี และทำความสะอาดก่อนใช้ ก็จะช่วยป้องกันโรคที่ปนเปื้อนมาจากเสื้อกันหนาวมือสองได้ ขณะเดียวกันก็ควรเลือกซื้อจากแหล่งจำหน่ายเสื้อกันหนาวที่สะอาดปลอดภัย และไม่วางกองกับพื้น ก็จะช่วยให้ได้เสื้อกันหนาวมือสองคุณภาพดีและราคาย่อมเยา ไว้ใช้ในช่วงที่อากาศหนาวกำลังจะเข้ามาปกคลุมบ้านเราได้"
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
