เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2556 เว็บไซต์มายเฮลธ์เดลี่ รายงานว่า หญิงชาวเมืองมิชิแกนวัย 47 ปี ต้องเผชิญกับโรคกระดูกอย่างร้ายแรงยากที่จะพบเห็นในสหรัฐฯ เนื่องจากเธอชอบดื่มชา โดยจะนำมาผสมน้ำใส่เหยือกไว้ดื่ม วันละ 100 ซอง เป็นเวลาติดต่อกันถึง 17 ปี
รายงานระบุว่า หญิงรายนี้ได้พบเดินทางเข้าพบแพทย์ หลังจากที่เธอมีอาการปวดกระดูกทั้งที่บริเวณหลังส่วนล่าง แขน ขา สะโพก เป็นเวลาติดต่อกันถึง 5 ปีแล้ว รวมถึงกระดูกเปราะ และฟันร่วงจนหมดปาก ซึ่งผลจากการเอกซเรย์พบว่า กระดูกสันหลังของเธอมีความผิดปกติ และมีหินปูนเกาะบริเวณเส้นเอ็นที่แขน แพทย์จึงวินิจฉัยว่า ร่างกายของเธอมีการสะสมของฟลูออไรด์ในกระดูก (Skeletal Fluorosis) มากเกินไป ซึ่งเป็นผลมาจากการดื่มชาซึ่งมีสารฟลูออไรด์อยู่นั่นเอง และผลตรวจเลือดก็ชี้ชัดว่า เธอมีระดับของสารฟลูออไรด์อยู่ในร่างกายมากกว่า 4 เท่าของคนปกติเลยทีเดียว
ทั้งนี้ สำหรับสภาวะฟลูออไรด์เป็นพิษต่อกระดูก (Skeletal Fluorosis) ส่วนใหญ่พบมากในประเทศอินเดียและจีน ซึ่งเป็นประเทศที่ดื่มชามาก แต่ไม่ค่อยพบในแถบยุโรปและอเมริกาเหนือ แม้ว่าในสหรัฐฯ จะมีการใส่สารฟลูออไรด์ลงไปในน้ำดื่มเพื่อเป็นการช่วยป้องกันฟันผุและเสริมมวลกระดูก แต่ปริมาณก็ไม่มากพอที่จะทำให้เกิดโรคดังกล่าวได้
นอกจากนี้ หากร่างกายได้รับสารฟลูออไรด์มากเกินไป ก็จะมีการขจัดออกทางไต แต่ถ้าเป็นคนไข้เคสนี้ซึ่งได้รับสารฟลูออไรด์มากเกินขนาดและเป็นประจำ ทำให้สารฟลูออไรด์กลายเป็นหินปูนและไปเกาะตามกระดูกนั่นเอง
