เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ไข้หวัดนกในจีนระบาดหนัก ยอดผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 60 คน อีกทั้งยังระบาดเข้าไปในกรุงปักกิ่ง จนทางการจีนต้องสั่งปิดตลาดซื้อขายสัตว์ปีก
เมื่อวันที่ 14 เมษายน เว็บไซต์ฟอร์บส รายงานว่า พบผู้ที่ติดเชื้อไข้หวัดนก H7N9 ในประเทศจีนเพิ่มขึ้นอีก 9 คน ทำให้ในตอนนี้ มียอดผู้ติดเชื้อไวรัสชนิดนี้กว่า 60 คน รวมทั้งผู้เสียชีวิตอีก 13 คน โดยมีการพบผู้ป่วยใหม่ 2 รายในมณฑลเหอหนาน ซึ่งถือเป็นครั้งแรก ที่มีการพบเชื้อ H7N9 ในภูมิภาคนี้ อีกทั้งยังมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 2 รายในเซี่ยงไฮ้ ทำให้ผู้เสียชีวิต เฉพาะในเซี่ยงไฮ้ เพิ่มสูงขึ้นถึง 9 ราย นับว่าเป็นตัวเลขที่สูงกว่าเมืองอื่น ๆ ในประเทศจีน
นอกจากนี้ ยังมีการสั่งปิดตลาดซื้อขายสัตว์ปีกในกรุงปักกิ่ง และสั่งห้ามซื้อขายสัตว์ปีกแบบเป็น ๆ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส H7N9 หลังจากที่มีการค้นพบเชื้อไวรัสชนิดนี้เป็นครั้งแรกในกรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่เสาร์ที่ 13 เมษายนที่ผ่านมา โดยเหยื่อคนดังกล่าว เป็นเด็กหญิงวัย 7 ขวบ อาศัยในกรุงปักกิ่ง ขณะนี้ เธอกำลังเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และอาการยังทรงตัว
จากการแพร่กระจายของโรคนี้ขึ้นไปทางทิศเหนือของประเทศจีน ทั้งในกรุงปักกิ่งและมณฑลเหอหนาน จึงมีการคาดการณ์ว่า ในจังหวัดชานดง จะเกิดการแพร่กระจายของไวรัสชนิดนี้ในอีกไม่นาน แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ จังหวัดชานดง เป็นจังหวัดที่มีการทำอุตสาหกรรมเนื้อไก่ที่สำคัญที่สุดในจีน
การปิดตลาดซื้อขายสัตว์ปีกในกรุงปักกิ่ง จะสร้างความกดดันให้กับอุตสาหกรรมสัตว์ปีกเป็นอย่างมาก เพราะผู้ประกอบการ มีสัตว์ปีกจำนวนมากที่พร้อมขาย แต่ไม่มีคนซื้อ ประเทศจีนเป็นประเทศค้าส่งไก่ที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากสหรัฐอเมริกา และเซี่ยงไฮ้เอง ก็มีไก่อยู่ถึง 6 แสนตัว การที่มีเชื้อไวรัสแพร่ระบาดแบบนี้ ก็เปรียบเสมือนกันแช่แข็งอุตสาหกรรมชนิดนี้ไปโดยปริยาย
ในส่วนของภาคตะวันออกของจีน ที่มีผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัส H7N9 เยอะที่สุดนั้น ได้มีการสั่งปิดตลาดซื้อขายสัตว์ปีก และเพิ่มมาตรการเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส โดยก่อนหน้านี้้ในปี 2003 ได้เกิดเชื้อไวรัสซาร์ส ระบาดในประเทศจีน และแพร่กระจายไปยังประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก ทั้งยังได้คร่าชีวิตคนหลายร้อยคนทั่วโลกอีกด้วย
