เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
เตือนประชาชนเลี่ยงพื้นที่เขตน้ำมันรั่ว เนื่องจากสารไฮโดรคาร์บอนในน้ำมัน อาจก่อให้เกิดอาการระคาย รวมทั้งไม่ควรบริโภคปลาในกระชังที่มีเลี้ยงไว้ในบริเวณดังกล่าวด้วย
จากกรณีท่อรับน้ำมันดิบกลางทะเลของ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) เกิดรั่วไหล เมื่อช่วงเช้าวันที่ 27 กรกฎาคม 2556 ส่งผลให้น้ำมันดิบจำนวน 50,000 ลิตร ไหลลงสู่ทะเลจังหวัดระยอง จนเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2556 คราบน้ำมันดิบได้ถูกพัดเข้ามาถึงเกาะเสม็ด จังหวัดระยอง และทะลักเข้ามายังชายหาดบริเวณอ่าวพร้าว ส่งผลให้ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ต้องประกาศให้พื้นที่บริเวณอ่าวพร้าวเป็นพื้นที่ภัยพิบัติทางทะเล และหลายหน่วยงานต่างลงพื้นที่ร่วมกันแก้ไขปัญหานี้โดยด่วนนั้น
ล่าสุด เมื่อวานนี้ (30 กรกฎาคม 2556) นพ.ปรีชา เปรมปรี ผอ.สำนักจัดการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีผลกระทบจากน้ำมันดิบรั่วไหลลงทะเล บริเวณเกาะเสม็ด และล่าสุด คราบน้ำมันได้ถูกพัดพาขึ้นหาดอ่าวพร้าวแล้วว่า แม้ขณะนี้เจ้าหน้าที่จะห้ามผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปในบริเวณอ่าวพร้าวแล้ว แต่ยังพบว่า มีเจ้าของรีสอร์ทและชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่บางส่วน ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว เนื่องจากมีการระเหยของน้ำมัน ทำให้เกิดอาการวิงเวียนศีรษะ อาเจียน ประมาณ 3-4 ราย
ดังนั้น จึงเตรียมออกคำเตือนแนะนำให้ประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง เฝ้าระวังตัวเองด้วยการหลีกเลี่ยงและอยู่ห่างจากพื้นที่ที่มีกลิ่นน้ำมันเข้าถึงจากการที่มีลมพัดผ่าน และสวมหน้ากากอนามัย สวมแว่นตาป้องกันการระคายเคืองของดวงตา เนื่องจากในน้ำมันมีสารไฮโดรคาร์บอน ที่ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองได้ ส่วนการเลี้ยงปลาในกระชังบริเวณใกล้กับพื้นที่ที่มีน้ำมันรั่ว ควรหลีกเลี่ยงการบริโภคเช่นกัน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
