x close

เช็กด่วน ! พฤติกรรมคุ้นชิน สิ่งไหนปลอดภัย สิ่งไหนเสี่ยง


การดูแลสุขภาพ


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          ทุกวันนี้เราใช้ชีวิตประจำวันไปด้วยความคุ้นชิน กิจวัตรประจำวันก็ทำไปตามความคุ้นเคย จนบางทีก็อาจจะลืม หรือคิดไม่ถึงได้ว่าพฤติกรรมใกล้ตัวบางอย่างก็ไม่มีประโยชน์อะไรกับร่างกายของเราเท่าที่คิดไว้ แถมบางทีก็ยังเป็นอันตรายแก่ร่างกายของเราอย่างคาดไม่ถึงอีกด้วย

          ฉะนั้นคงดีกว่าถ้าเราจะมาเช็กพฤติกรรม 11 อย่างต่อไปนี้ ที่เว็บไซต์ Reader\'s Digest เขาได้เผยให้เราได้รู้ว่าพฤติกรรมอะไรที่สามารถทำต่อไปได้อย่างปลอดภัย และพฤติกรรมเสี่ยงอันไหนที่ควรหยุดเพื่อความปลอดภัยกับตัวเราเอง


1. มีกลิ่นปาก : เสี่ยง

          กลิ่นปากไม่ใช่เรื่องตลก และก็คงไม่มีใครอยากจะมีกลิ่นปากแน่ ๆ เพราะไม่เพียงแต่ทำให้เราอับอายเท่านั้น แต่ยังหมายถึงสุขภาพของเราเริ่มจะมีปัญหาขึ้นมาแล้ว เป็นต้นว่าเกิดอาการอักเสบในบางจุด ซึ่งเมื่อเป็นอย่างนี้เราก็ต้องทำความสะอาดปากของเราให้มีลมหายใจที่หอมสดชื่นอยู่เสมอ

          ไม่ว่าจะด้วยการแปรงฟันให้ถูกวิธี ใช้น้ำยาบ้วนปาก และเคี้ยวหมากฝรั่ง เพื่อให้เราสามารถเช็กสุขภาพของเราไปด้วยในตัว เพราะถ้าดูแลสุขภาพปากและฟันอย่างดีที่สุดแล้ว แต่ยังมีกลิ่นปากอยู่ ก็แสดงว่าร่างกายของเราอาจจะเกิดความผิดปกติบางประการขึ้นมา และจะได้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจเช็กและรักษาอาการต่อไป


ทำสีผม


2. ทำสีผม : เสี่ยง

          แฟชั่นและความสวยความงามเป็นเรื่องที่หลายคนอดไม่ได้จริง ๆ อย่างการทำสีผมเพิ่มมิติให้หน้าดูสว่างไสวเก๋ไก๋มากขึ้น ก็เป็นสิ่งที่หลายคนมักจะทำเพิ่มความสวยหล่อให้ตัวเองอยู่บ่อย ๆ โดยที่ไม่รู้ว่า ในน้ำย้อมสีผมมีสารเคมีอยู่มากกว่า 5,000 ชนิดเลยทีเดียว และจากผลการศึกษาก็ยังพบด้วยว่า สารเคมีบางตัวในน้ำยาย้อมสีผมสามารถเป็นสารก่อมะเร็งในสัตว์ได้ และเป็นสาเหตุให้เกิดมะเร็งกระเพาะปัสสาวะในคนได้อีกด้วย

          อย่างไรก็ตาม จากผลการศึกษาล่าสุดของสถาบันมะเร็งนานาชาติ (National Cancer Institute) พบว่า น้ำยาย้อมผมในปัจจุบันนี้มีความเสี่ยงโรคมะเร็งน้อยกว่าน้ำยาย้อมสีผมในยุคก่อน ๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังสามารถทำลายสุขภาพผมของเราให้แห้งเสียได้อยู่ดีนะจ๊ะ


3. ตัดเล็บสั้น : ปลอดภัย

          การตัดเล็บให้สั้นอยู่เสมออาจจะไม่ค่อยสวยงามเท่าไร แต่ก็ปลอดภัยต่อสุขภาพของเราอย่างมาก เพราะการไม่ไว้เล็บยาว จะช่วยลดความสกปรก เชื้อโรค และลดความเสี่ยงการเกิดเชื้อราซ่อนอยู่ที่เล็บของเราได้อีกทางหนึ่ง ดังนั้นก็ควรจะตัดเล็บให้สั้นอยู่เสมอ แต่ก็ควรระวังอย่าตัดเล็บจนสั้นเกินไป เพราะอาจจะทำให้รู้สึกเจ็บหน้าเล็บได้นะคะ


กลิ่นน้ำหอม


4. ฉีดน้ำหอมฟุ้งจัด : เสี่ยง

          แม้น้ำหอมจะมีกลิ่นที่เป็นมิตรกับจมูก แต่กับบางคนก็ไม่เห็นด้วยเท่าไร เพราะกลิ่นของน้ำหอมอาจจะทำให้เขาเหล่านั้นเกิดอาการแพ้ คันจมูก จาม น้ำมูกน้ำตาไหลกันได้เลยทีเดียว ซึ่งส่วนมากก็จะเป็นเฉพาะกับคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ หรือคนที่มีผิวบอบบาง และโสตประสาทที่อ่อนไหวกว่าคนอื่น ฉะนั้นแทนที่จะฉีดน้ำหอมให้ฉุนฟุ้งทั้งคุณและคนรอบข้าง ก็เปลี่ยนมาทาโลชั่น หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้จะดีกว่า


5. สระผมทุกวัน : เสี่ยง

          บางคนมักจะคิดว่าการสระผมทุกวันจะช่วยให้ผมยาวเร็วขึ้น และทำให้หนังศีรษะของเราสะอาด แต่จริง ๆ แล้วการสระผมทุกวันจะทำให้น้ำมันธรรมชาติในเส้นผมถูกทำลายมากขึ้นต่างหาก นอกจากนี้สารเคมีในน้ำยาสระผมที่สะสมมากขึ้นทุกวัน ก็ยังจะเป็นสาเหตุทำให้เส้นผมหยาบกร้าน แห้งกระด้างได้ในที่สุดด้วย


6. ใช้ไหมขัดฟัน : ปลอดภัย

          คนส่วนใหญ่มักไม่ค่อยใส่ใจการขัดฟันเป็นประจำเท่าไรนัก เพราะคิดว่าการแปรงฟันอย่างถูกวิธี ร่วมกับการใช้น้ำยาบ้วนปาก ก็น่าจะเพียงพอให้เชื้อโรคและแบคทีเรียในช่องปากถูกกำจัดไปได้พอสมควรแล้ว แต่ในความเป็นจริงเราควรจะใช้ไหมขัดฟันทำความสะอาดฟันของเราด้วยอีกอย่าง เพราะไหมขัดฟันจะเข้าไปซอกซอนทำความสะอาดร่องฟันในจุดที่แปรงสีฟันเข้าไม่ถึง ทำให้เราคราบพลัดและเศษอาหารที่คิดค้างอยู่ถูกกำจัดออกไปได้มากขึ้น ซึ่งก็มีผลวิจัยออกมาชี้แจงว่า การกำจัดคราบพลัคในช่องปากสามารถช่วยลดความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจ และลดโอกาสการเกิดโรคเหงือกอักเสบได้อีกด้วย


ถอนขนจมูก


7. ถอนขนจมูก : เสี่ยง

          ขนจมูกที่โผล่ออกมาจากรูจมูก อาจทำให้ใครหลายคนรำคาญและคิดจะกำจัดขนจมูกเหล่านี้ด้วยการดึงทิ้งซะเลย แต่อยากให้คิดดี ๆ อีกที เพราะแพทย์ได้เผยว่า การถอนขนจมูกจะทำให้รูขุมขนในส่วนนั้นกว้างขึ้น เปิดโอกาสให้เชื้อโรคและแบคทีเรียเข้าไปแทรกซอนได้ง่ายกว่าเดิม เป็นสาเหตุให้เกิดอาการอักเสบตามมา แถมถ้าจมูกของคุณไม่มีขนมาคอยเกะกะแล้ว เราก็จะหายใจเอาฝุ่นและเชื้อโรคที่ลอยอยู่ในอากาศเข้าปอดได้มากขึ้น ทำให้ป่วย และเกิดอาการอักเสบที่โพรงจมูกเป็นของแถมอีกอย่างเลยนะ


8. แปรงฟัน : ปลอดภัย

          เชื่อได้ว่าทุกคนแปรงฟันกันเป็นประจำอยู่แล้ว อย่างน้อยก็วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ซึ่งก็เป็นพฤติกรรมที่ควรทำเป็นอย่างมาก เพราะการแปรงฟันจะช่วยลดปัญหาสุขภาพปากทั้งหมด ทั้งลดความเสี่ยงเป็นโรคฟันผุ ลดโอกาสเกิดโรคเหงือกอักเสบ กำจัดการสะสมของคราบพลัคและแบคทีเรีย ให้ลมหายใจที่หอมสะอาดสดชื่น แถมยังช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจได้อีกทางหนึ่งด้วย


แคะจมูก


9. แคะขี้มูก : เสี่ยง

          นอกจากการแคะขี้มูกจะเป็นพฤติกรรมที่ไม่น่าทำในที่สาธารณะแล้ว ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน หรือเวลาใดก็ไม่ควรทำด้วยเช่นกัน เพราะเพียงแค่เราใช้มือแหย่เข้าไปในโพรงจมูก ก็จะนำพาเชื้อโรคและแบคทีเรียที่ติดกับมือเราเข้าไปแฝงตัวอยู่ในโพรงจมูกเราได้โดยง่ายแล้ว และก็จะเป็นสาเหตุทำให้เกิดปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ตามมาอีกเป็นกระบวน เช่น โรคหวัด โพรงจมูกอักเสบ เป็นต้น ฉะนั้นถ้าอยากจะทำความสะอาดจมูก แพทย์ก็แนะนำให้ใช้น้ำเกลือ หรืออุปกรณ์ในการล้างจมูกที่ปลอดภัยจะดีกว่า


10. ล้างหน้าสะอาดเกินไป : เสี่ยง

          ผิวของเราทุกส่วนมีน้ำมันเป็นส่วนประกอบอยู่ด้วย โดยเฉพาะผิวหน้าที่ถ้าใช้โฟมล้างหน้ามากเกินไป หรือล้างหน้าบ่อย ๆ ก็จะทำให้น้ำมันธรรมชาติในผิวหนังถูกกำจัด และอาจจะหยุดผลิตน้ำมันธรรมชาติขึ้นมาซะเฉย ๆ เป็นเหตุให้ผิวหนังบนใบหน้าของเราแห้งแตก เป็นสะเก็ดหรือเป็นขุยได้ ฉะนั้นแพทย์ผิวหนังจึงแนะนำให้ล้างหน้าอย่างอ่อนโยน หรือทางที่ดีก็ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าวันละ 2 ครั้งก็พอค่ะ


โกนขน


11. โกนขนผิดวิธี : เสี่ยง

          การใช้ใบมีดโกนกำจัดขนบนผิวหนังเป็นอันตรายต่อผิวหนังอย่างมาก เพราะอาจจะเกิดอาการระคายเคือง ผื่นแดง และรอยบาดได้ โดยเฉพาะกับผิวบอบบางแพ้ง่าย และถ้าโกนขนผิดวิธี ก็จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงมากขึ้น

          ทั้งนี้ ในความเป็นจริงแล้วการโกนขนทุกอย่างควรจะใช้น้ำร้อน หรือน้ำอุ่นรดผิวหนังบริเวณนั้นก่อน หรือทางที่ดีก็ใช้น้ำยาโกนหนวดร่วมกันด้วยเลย เพื่อให้ผิวหนังบริเวณนั้นมีความลื่น เส้นขนก็จะอ่อนนุ่มขึ้น เวลาโกนขนก็จะสะดวกและง่ายขึ้นไปด้วย และที่สำคัญก็ควรโกนขนไปตามแนวเส้นขน อย่าโกนย้อนแนวเส้นขนเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นจะทำให้ผิวหนังเกิดรอยครูด เสี่ยงจะเกิดบาดแผลและอาการระคายเคืองมากขึ้นได้


          บางครั้งความเคยชินก็ทำให้เราลืมนึกถึงเรื่องความปลอดภัยกันไปบ้าง ยิ่งบางพฤติกรรมก็เป็นเรื่องเล็กน้อยที่ไม่เคยคิดว่าต้องเอามาใส่ใจด้วยจริงไหมคะ แต่ในเมื่อตอนนี้ได้ทราบกันไปแล้วว่าพฤติกรรมอย่างไหนที่ทำแล้วดีต่อสุขภาพ และพฤติกรรมแบบไหนที่ควรหยุดเพราะเสี่ยงต่อสุขภาพ ดังนั้นก็อย่าลืมนำไปปฏิบัติตามนี้กันด้วยนะจ๊ะ






เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เช็กด่วน ! พฤติกรรมคุ้นชิน สิ่งไหนปลอดภัย สิ่งไหนเสี่ยง อัปเดตล่าสุด 9 ตุลาคม 2556 เวลา 15:11:27
TOP