x close

สเต็มเซลล์ กับ ความงาม

สเต็มเซลล์

สเต็มเซลล์ กับ ความงาม (เดลินิวส์)

          กระแสเรื่อง "สเต็มเซลล์" มาแรงมาก  แพทย์ทุกสาขาต่างตั้งความหวัง จะนำมารักษาโรคที่ยังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ที่ให้ผลแน่นอนในปัจจุบัน คือ โรคเลือด เช่น มะเร็งเม็ดเลือด โรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย ส่วนที่ยังรอประเมินผล เช่น โรคเนื้อสมองถูกทำลาย โรคหัวใจขาดเลือด โรคเบาหวาน

          รศ.พญ.พรทิพย์  ภูวบัณฑิตสิน สาขาตจวิทยา ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บอกว่า สเต็มเซลล์ซึ่งนำมารักษามี 2 ชนิด คือ เซลล์จากตัวอ่อนมนุษย์ คือ บลาสโตซีส เป็นเซลล์ซึ่งได้จากการผสมของไข่กับอสุจิในหลอดทดลองเมื่ออายุเซลล์ 5-7 วัน นำมาดัดแปลงเป็นสเต็มเซลล์และใส่กลับให้ผู้ป่วย แต่ยังมีปัญหาในเรื่องกฎหมายและจริยธรรมว่าควรจะศึกษาต่ออีกหรือไม่ เพราะเป็นการทำลายชีวิตหนึ่ง เพื่ออีกชีวิตหนึ่ง

          ส่วนสเต็มเซลล์จากเนื้อเยื่อที่โตเต็มวัย มีหลายแบบ นิยมเก็บจากการถ่ายเลือด โดยศูนย์บริจาคโลหิตสภากาชาดไทย ก็กำลังรับบริจาคจากผู้ต้องการให้ชีวิตเป็นทาน สเต็มเซลล์ชนิดนี้ จะต้องคัดกรองให้เหมาะสมกับผู้ป่วย เพราะร่างกายผู้รับบริจาคอาจต่อต้านสเต็มเซลล์ มีธุรกิจเก็บสเต็มเซลล์ในเด็กแรกเกิดจากเลือดสายสะดือ เพื่อเก็บรักษาไว้ใช้ ในอนาคต ก็ไม่ทราบว่าจะคุ้มกับค่าใช้จ่ายที่รอโดยไม่มีกำหนดเวลาหรือไม่ และเมื่อถึงเวลานั้นจริงอาจใช้ไม่ได้จริง

          การรักษาด้วยสเต็มเซลล์ จะฉีดเซลล์เข้าหลอดเลือดร่วมกับสารเหนี่ยวรั้ง ให้เซลล์ไปในบริเวณที่ต้องการ หรือฉีดเข้าในบริเวณที่มีพยาธิสภาพโดยตรง เช่น ฉีดเข้าไขสันหลังหรือเข้าหลอดเลือดเลี้ยงหัวใจ ในโรคเลือดการใช้สเต็ม เซลล์จะก้าวหน้ากว่าสาขาอื่น เพราะฉีดเข้าโดยตรง การรักษาด้วยสเต็มเซลล์เป็นวิวัฒนาการทางการแพทย์ที่ยิ่งใหญ่ในศตวรรษนี้ แต่ต้องมีการศึกษาเพื่อสนับสนุนผลดีและผลเสียต่อ คงต้องรออีกหลายสิบปีที่จะนำมาใช้ในวงการแพทย์ทั่วไป

          แพทย์สาขาโรคผิวหนังก็พยายามนำสเต็มเซลล์มาปรับใช้ เพราะในยุคปัจจุบันทุกคนจะตื่นเรื่องความสวยงาม กลัวความเสื่อมของผิวหนัง มีแพทย์หลายท่านนำสเต็มเซลล์มาเป็นจุดขาย คลินิกหลายแห่งที่เน้นการรักษาความงามมีโปรแกรมรักษาความเสื่อมของผิวหนัง ให้กลับมาเต่งตึงขาวใสหลายวิธี และอาจโฆษณาว่ามีโปรแกรมรักษาด้วยสเต็มเซลล์ บางแห่งถ่ายเลือดผู้ป่วยมาผ่านกระบวนการบางอย่างแล้วฉีดกลับให้ผู้ป่วย และถ้านำเลือดส่งไปศูนย์ในต่างประเทศ ค่าใช้จ่ายก็อาจจะสูงมาก วิธีนี้ไม่ใช่ฉีดสเต็มเซลล์ แต่ฉีดสารสกัดซึ่งอ้างว่าเมื่อร่างกายได้รับ เซลล์ซึ่งเสื่อมจะกลับฟื้นมา ทำหน้าที่ดีขึ้นเหมือนได้สเต็มเซลล์ทดแทน ก็คงมีผลทางใจเท่านั้น
  
          ถ้าผู้ป่วยเป็นโรคซึ่งมีปัญหาในการดำรงชีวิต มีเงินจะจ่าย ก็คงเป็นสิทธิของผู้ป่วยที่จะลอง แต่ในกรณีการเสื่อมตามธรรมชาติของผิวหนัง การรักษาด้วยวิธีนี้คงเป็นวิธีที่ไม่ฉลาด เพราะเซลล์ทุกเซลล์มีรหัสความตาย ถึงจะให้สารอะไรก็คงไม่มีประโยชน์ ส่วนการฉีดสเต็มเซลล์จริง ๆ ก็คงอีกไกลที่จะทำได้ เพราะริ้วรอย ความเสื่อมของผิวหนังเกิดการเสื่อมของเซลล์หลายชนิดร่วมกัน ปัจจัยภายในเซลล์เช่นหน่วยพันธุกรรมควบคุม การตายของเซลล์ แต่ละชนิดก็ยังไม่แน่ชัด จึงยังไม่มีความก้าวหน้า

          แต่การโฆษณาเรื่องสเต็มเซลล์เพื่อความงาม หรือป้องกันความเสื่อมหรือลบริ้วรอย ก็มีออกมาหลายแบบ เช่น ครีมผสมสเต็มเซลล์จากรกแกะ ซึ่งหลายท่านลองใช้มาเป็นปีริ้วรอยก็ยังเพิ่มขึ้น ถ้าก่อนซื้อมีความรอบคอบหาข้อมูลก่อนก็คงไม่เสียเงินซื้อมาใช้ เพราะสเต็มเซลล์เป็นสิ่งมีชีวิต การเตรียมสเต็มเซลล์จากสายสะดือรกต้องเตรียมในน้ำเพาะเลี้ยงเซลล์บรรจุในภาชนะที่มิดชิด มีอุณหภูมิที่เหมาะสม ต้องปลอดเชื้อและต้องเตรียมใช้ทันที เพราะเซลล์จะตายง่าย

          ปัจจุบันการโฆษณาครีมผสมสารสกัดจากแอปเปิ้ล ก็เป็นเรื่องแปลกอีกเรื่องหนึ่ง มีบทความในเว็บไซต์มากมายว่าเป็นสารสกัดมาจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นแอปเปิ้ลซึ่งไม่เน่าเสียง่าย มีการผูกเรื่องผิวแอปเปิ้ลกับผิวคนได้อย่างไร อาจเป็นความคิดฝังลึกตั้งแต่วัยเด็ก ที่อยากให้สีผิวแก้มแดงเหมือนผิวผลแอปเปิ้ล ก็ไม่ทราบว่าจะบอกอย่างไร จึงจะเชื่อว่าสารสกัดของแอปเปิ้ลไม่เกี่ยวข้องกับผิวหนังคน

  เคล็ดลับสุขภาพ สุขภาพใกล้ตัว โรคและการป้องกัน คลิกเลย 

 

  คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะ     



ขอขอบคุณข้อมูลจาก


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สเต็มเซลล์ กับ ความงาม อัปเดตล่าสุด 18 ธันวาคม 2552 เวลา 15:00:17 2,040 อ่าน
TOP