x close

ผู้หญิง กำลังจะตายเพราะบุหรี่!

บุหรี่

"ผู้หญิง" กำลังจะตายเพราะบุหรี่! (สสส.)
ที่มา มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่

          ดูเหมือนว่า โศกนาฏกรรมที่เกิดจาก "บุหรี่" จะยังไม่หมดสิ้นไปจากสังคมไทย เพราะจากการสำรวจของมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ยังพบว่า มีประชาชนที่เสพติดบุหรี่อยู่ถึง 10.8 ล้านคน เป็นชายกว่า 10 ล้านคน เป็นหญิงถึงกว่า 5 แสนคน เมื่อเทียบอัตราส่วนระหว่างชายสูบบุหรี่และหญิงสูบบุหรี่ จะเท่ากับ 20 : 1...แม้ว่าอัตราการสูบบุหรี่ของผู้หญิงไทยในปัจจุบันมีจำนวนไม่มากนัก เมื่อเปรียบเทียบกับอัตราการสูบบุหรี่ของผู้ชาย แต่ก็มีแนวโน้มว่าผู้หญิงจะหันมาสูบบุหรี่มากขึ้น!

          เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ บอกว่า สาเหตุที่ทำให้ผู้หญิงเสพติดบุหรี่มากขึ้นนั้น มาจากการที่บริษัทบุหรี่พยายามใช้กลยุทธ์ต่าง ๆ เพื่อขยายตลาดเจาะกลุ่มผู้หญิงโดยตรง เนื่องจากเป็นตลาดที่ยังขยายได้อีกมาก ที่สำคัญทำสำเร็จมาแล้วในประเทศส่วนใหญ่ โดยขณะนี้วัยรุ่นหญิงในยุโรปและอเมริกา มีอัตราการสูบบุหรี่ที่สูงกว่าวัยรุ่นชาย และอัตราการสูบบุหรี่ของชายต่อหญิง เท่ากับ 1 : 1 ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าตกใจเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของทุกฝ่ายในสังคมไทยจึงต้องร่วมมือกัน เพื่อไม่ให้หญิงไทยสูบบุหรี่มากขึ้น ดังที่เกิดขึ้นกับประเทศอื่น ๆ

          "จากการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ พ.ศ.2550 พบว่า ในแต่ละปี มีผู้หญิงเสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ถึง 5,793 คน ซึ่งการสูบบุหรี่ยังพบว่าทำให้อายุขัยของปี หญิงสั้นลง 12.6 ปี ปัจจัยหลักที่เอื้อให้ผู้หญิงไทยหันมาทำร้ายตัวเอง ริลองสูบบุหรี่ มาจากการที่มีเพื่อนสนิทสูบบุหรี่ ซึ่งส่งผลให้มีโอกาสสูบบุหรี่ถึง 18 เท่า ของคนที่มีเพื่อนไม่สูบบุหรี่ หากมีทัศนคติเชิงบวกต่อการสูบบุหรี่ที่เห็นว่าดูดี โก้เก๋ ก็จะมีโอกาสสูบบุหรี่ 7 เท่า และถ้าแม่สูบบุหรี่ ก็จะทำให้ลูกมีโอกาสสูบบุหรี่ถึง 4 เท่า!!!

          โดยเยาวชนหญิงที่มีแม่หรือพี่สาวสูบบุหรี่ จะมีโอกาสที่จะสูบบุหรี่สูงกว่าการที่มีพ่อสูบบุหรี่ เนื่องจากเยาวชนมักได้รับอิทธิพลอย่างสูงจากบิดามารดาและเพื่อน และในเยาวชนที่สูบบุหรี่จะพบว่า มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมเสี่ยงอื่น ๆ มากขึ้น อาทิ การดื่มเหล้า การใช้ยาเสพติดชนิดอื่น ๆ การเที่ยวกลางคืน อีกด้วย" ศ.นพ.ประกิต เล่าด้วยความเป็นห่วง

          ด้าน รศ.ธราดล  เก่งการพานิช คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยผลการวิจัยพฤติกรรมการสูบบุหรี่ของวัยรุ่นหญิงไทย ในปี พ.ศ. 2551 ที่สำรวจในกลุ่มวัยรุ่นหญิงอายุระหว่าง 13 –25 ปี จำนวน 3,093 คน พบว่า วัยรุ่นหญิงเริ่มสูบบุหรี่อายุต่ำกว่า 12 ปี เท่ากับร้อยละ 10.2 และ เริ่มสูบอายุระหว่าง 12-13 ปี เท่ากับร้อยละ 21.2  โดยเฉพาะวัยรุ่นหญิงระดับมัธยมศึกษาตอนต้นเริ่มสูบอายุต่ำกว่า 12 ปี มากถึงร้อยละ 16.9  และร้อยละ 42.1 สูบเกือบทุกวัน  นอกจากนี้วัยรุ่นหญิงร้อยละ 92.4 รับรู้ว่าคนสูบเป็นมะเร็งปอด และ ฟันเหลือง ร้อยละ 84.9  ส่วนคนไม่สูบแต่ได้รับควันบุหรี่มือสองจะเป็นมะเร็งปอด ร้อยละ 91.6   และถุงลมโป่งพอง ร้อยละ 84.0

          ไม่เพียงเท่านี้ ศ.นพ.สุรศักดิ์ ฐานีพานิชสกุล คณบดีวิทยาลัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ยังออกมาเปิดเผยว่า ผู้หญิงที่สูบบุหรี่จะมีโอกาสเกิดโรคร้ายต่าง ๆ มากขึ้น โดยมีโอกาสเสียชีวิตในวัยกลางคนถึงร้อยละ 50 และอายุเฉลี่ยจะสั้นลงประมาณ 10 ปี โอกาสเกิดมะเร็งปอดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ โรคหัวใจวาย เส้นเลือดในสมองตีบจะเพิ่มมากกว่าคนปกติอย่างมาก

          "การสูบบุหรี่จะทำให้ผู้หญิงแก่ก่อนวัย มีการเปลี่ยนแปลงของผิวหนังและใบหน้า โดยมีรอยย่นมากขึ้น ริมฝีปากคล้ำ มีปัญหาโรคช่องปาก โรคมะเร็งปากมดลูกที่เป็นมะเร็งที่พบบ่อยที่สุดในหญิงไทยจะเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่าในผู้หญิงที่สูบบุหรี่ นอกจากนี้ผู้หญิงที่สูบบุหรี่พบว่าจะมีโอกาสตั้งครรภ์ช้า หรือไม่มีบุตรมากกว่าผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ถึง 3 เท่า ส่วนผู้หญิงที่รับควันบุหรี่มือสอง  ก็จะมีผลเสียต่อสุขภาพมากเช่นเดียวกัน โดยพบว่าในผู้หญิงที่มีสามีสูบบุหรี่ จะมีโอกาสเป็นมะเร็งปอดเพิ่มขึ้น 2-3 เท่าเมื่อเทียบกับผู้หญิงอื่น ๆ และมีโอกาสเสียชีวิตก่อนเวลาอันควรสูงขึ้น"

          เพื่อเป็นการเตือนสติบรรดาสาว ๆ ที่กำลังจะกลายเป็นสิงห์อมควัน สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) มีข้อมูลที่น่าตกใจมาบอก ว่า ผู้หญิงที่สูบบุหรี่จะมีแต่โรคมารุมเร้าให้รำคาญใจอยู่เสมอ โดยมีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งปอดมากกว่าผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ 10 เท่า และมีโอกาสเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดสูงขึ้นอย่างมาก โดยพบว่า หญิงสูบบุหรี่จะเกิดอาการหัวใจล้มเหลวมากกว่าหญิงที่ไม่สูบ 2-6 เท่า พร้อมทั้งมีอัตราเสี่ยงต่อการเกิดหัวใจวายกะทันหันเพิ่มขึ้น 20 เท่า และความเสี่ยงนี้จะทวีขึ้นตามจำนวนบุหรี่ที่สูบต่อวัน!

          นอกจากนี้ ผู้หญิงที่สูบบุหรี่จะมีอัตราเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งปากมดลูก สูงกว่าผู้หญิงทั่วไปถึง 4 เท่า เพราะการสูบบุหรี่ทำให้ภูมิต้านทานของร่างกายลดลง มีผลให้เกิดการติดเชื้อไวรัสแปปปิวโลมาได้ง่าย ซึ่งปากมดลูกที่ติดเชื้อไวรัสนี้ จะมีอัตรากลายเป็นมะเร็งปากมดลูก และมีโอกาสเป็นมะเร็งเต้านมมากกว่าผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ หรือผู้ที่เลิกสูบบุหรี่แล้วถึงร้อยละ 25 เพราะการสูบบุหรี่ทำให้ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งมีหน้าที่ในการป้องกันการเกิดมะเร็งเต้านมลดลง ทำให้เกิดมะเร็งเพิ่มขึ้น

          ความน่ากลัวยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะผู้หญิงที่สูบบุหรี่ จะมีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ เพิ่มขึ้นมากกว่าผู้หญิงทั่วไปอีก 1 เท่า เพราะนิโคตินไปทำลายกล้ามเนื้อที่ควบคุมการทำงานของกระเพาะปัสสาวะ เมื่อสูบบุหรี่เข้าไป จะทำให้กล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะอ่อนตัวลง ผู้ที่สูบบุหรี่จึงมีโอกาสกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ หรือในกรณีผู้หญิงที่สูบบุหรี่และรับประทานยาคุมกำเนิดเป็นประจำ ก็มีโอกาสเกิดอาการเส้นเลือดหัวใจตีบเฉียบพลันหรือหัวใจวายสูงขึ้น 39 เท่า และมีอัตราการตายมากกว่าผู้ไม่สูบบุหรี่ที่กินยาคุมกำเนิดถึง 3 เท่าตัว เพราะการสูบบุหรี่ ทำให้ร่างกายได้รับสารพิษที่ทำปฏิกิริยากับยาคุมกำเนิด มีผลให้เลือดแข็งตัวง่ายขึ้น และเกิดการอุดตันของหลอดเลือดง่ายขึ้น โดยเฉพาะเส้นเลือดที่จะเลี้ยงหัวใจและสมอง สำหรับผู้หญิงที่ใช้ห่วงคุมกำเนิด ก็จะมีโอกาสที่เสี่ยงต่อการอักเสบของอุ้งเชิงกรานมากขึ้นอีกด้วย!

          ส่วนสาว ๆ คนไหน ที่วางแผนจะมีทายาทตัวน้อย ๆ ไว้สืบสกุล แต่ยังไม่เลิกพฤติกรรมการสูบบุหรี่ สสส. ก็ขอให้เปลี่ยนพฤติกรรมซะ เพราะจากการที่สำนักงานสถิติแห่งชาติได้ทำการสำรวจประชากรหญิงที่ตั้งครรภ์แล้วสูบบุหรี่ ในปี พ.ศ.2550 พบว่า หญิงตั้งครรภ์กว่า 17,000 คนสูบบุหรี่ขณะตั้งครรภ์ โดยหารู้ไม่ว่าการกระทำเช่นนี้จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อมารดาและทารกในครรภ์ ซึ่งพบว่า มารดาจะมีโอกาสแท้งบุตรเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า มีโอกาสเกิดภาวะรกเกาะต่ำ คลอดก่อนกำหนด เด็กในครรภ์มีการเติบโตช้า และทารกมีโอกาสเสียชีวิตในขณะแรกคลอดสูงขึ้นมาก

          ทั้งนี้เป็นผลมาจากการได้รับสารพิษจากบุหรี่ ที่จะถ่ายทอดจากกระแสเลือดของแม่ ผ่านทางรกมายังทารกโดยตรง และหลังจากคลอดแล้ว ทารกที่ได้รับควันบุหรี่ขณะที่อยู่ในครรภ์จะมีโอกาสเกิดภาวะเสียชีวิตเฉียบพลันได้มากขึ้น ในช่วงปีแรกของชีวิต และมีโอกาสเพิ่มมากขึ้น ถ้าเด็กยังได้รับควันบุหรี่จากสิ่งแวดล้อมหลังคลอด

          สำหรับคุณแม่คนไหนที่อยากเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ แต่ยังสูบบุหรี่อยู่ รู้ไว้ซะด้วยว่า นิโคตินที่แม่ได้รับจากควันบุหรี่จะขับออกทางน้ำนมได้ และทำให้เด็กได้รับนิโคตินจากนมแม่ด้วย และในเด็กหลังคลอดที่ได้รับควันบุหรี่มือสองอย่างต่อเนื่อง พบว่า มีโอกาสเกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจและภาวะติดเชื้อในหูบ่อยขึ้น มีโอกาสเป็นโรคหอบหืดและโรคภูมิแพ้มากขึ้นอย่างชัดเจน

          แต่! ถ้าคุณเลิกบุหรี่ตั้งแต่วันนี้ ภายใน 20 นาที ความดันเลือดและชีพจรของคุณจะเต้นในระดับปกติ 24 ชั่วโมง ปอดจะเริ่มขจัดเสมหะและสิ่งสกปรกต่าง ๆ อันเกิดจาการสูบบุหรี่ออกจากร่างกาย 1 สัปดาห์ เลือดในร่างกายจะไหลเวียนสู่แขนขาได้ดีขึ้น คุณสามารถที่จะออกกำลังกายได้อย่างเต็มที่ 3-9 เดือน ไม่มีปัญหาการไอ ระบบหายใจดีขึ้น เพราะปอดทำงานได้ตามปกติ 5 ปี อัตราการเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจขาดเลือดจะลดลงเหลือครึ่งหนึ่ง 10 ปี อัตราการเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปอดจะลดลงเหลือครึ่งหนึ่ง และออกกำลังกายอย่างเหมาะสม รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนอย่างเพียงพอ เพียงเท่านี้ คุณก็จะมีสุขภาพที่แข็งแรง รูปร่างดี ใบหน้าสวยใส

          จะเห็นได้ว่า ผลจากการได้รับสารพิษจากควันบุหรี่ ไม่ว่าจะเป็นทางตรงหรือทางอ้อม ก็ล้วนแล้วแต่เกิดความเสียหายให้ตนเองและคนรอบข้าง เลิกสูบบุหรี่ตั้งแต่วันนี้ ก่อนที่บุหรี่จะทำร้ายคุณและคนที่คุณรัก…

          มาร่วมสร้างค่านิยมใหม่ "ผู้หญิงยุคใหม่ เท่ห์ได้ โดยไม่พึ่งพาบุหรี่"


  เคล็ดลับสุขภาพ สุขภาพใกล้ตัว โรคและการป้องกัน คลิกเลย


คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะ




ขอขอบคุณข้อมูลจาก



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ผู้หญิง กำลังจะตายเพราะบุหรี่! อัปเดตล่าสุด 23 ธันวาคม 2552 เวลา 14:24:32 1,177 อ่าน
TOP