เล่นน้ำสงกรานต์แบบไหน ไม่ป่วยไม่ไข้ ไร้ปัญหาสุขภาพ

          วันสงกรานต์ที่ปกติจะเป็นช่วงเวลาที่อากาศร้อนสุด ๆ ถ้าคิดจะออกไปสาดน้ำเล่นละก็ ต้องอ่านเรื่องต่อไปนี้ก่อนออกจากบ้านเลย
          - ก่อนออกจากบ้านไปเล่นสงกรานต์กลางแดดจ้า ควรดื่มน้ำสะอาดสัก 1-2 แก้วไว้ก่อน และสำรองน้ำสะอาดติดตัวไปด้วย ระหว่างเล่นน้ำก็หาจังหวะดื่มน้ำสะอาดระหว่างวันให้มาก ๆ ด้วยค่ะ เพื่อทดแทนน้ำที่สูญเสียไป อย่างที่รู้ว่าอากาศร้อน ๆ แบบนี้ เหงื่อออกดีนักเชียว

          - คนที่ใส่คอนแทคเลนส์ บิ๊กอาย ควรถอดออกก่อนจะเล่นสงกรานต์ เพราะเมื่อเราอยู่ในที่แจ้งนาน ๆ อาจมีปัญหาตาแห้งจากการถูกแสงแดดเป็นเวลานานตามมาได้ และอาจเกิดการระคายเคือง จนกระจกตาเป็นแผลและอักเสบได้เลย นอกจากนี้ ถ้าน้ำที่มาเข้าตามีสิ่งสกปรกเจือปน หรือมีเชื้อโรค อาจทำให้เกิดปัญหาที่ดวงตาได้

          - ไม่ควรใส่ถุงเท้า หรือรองเท้าที่อับไปเล่นสงกรานต์ เพราะอาจเกิดปัญหาเชื้อราที่เท้าได้ เนื่องจากต้องแช่อยู่น้ำนาน รองเท้าแตะที่มีดอกยางดี ๆ น่าจะเหมาะกับเทศกาลนี้ที่สุดแล้วนะ

          - ควรทาครีมกันแดดชนิดกันน้ำ SPF 15 ขึ้นไป ก่อนออกจากบ้านไปเล่นน้ำด้วย เพื่อป้องกันแสงแดดและรังสีอัลตราไวโอเลตมาทำร้ายผิว แต่ไม่ใช่ทาแค่บริเวณแขนขาอย่างเดียวนะจ๊ะ ควรทาที่บริเวณคอ และเท้าด้วย

          - ถ้าผู้ปกครองพาเด็กไปเล่นน้ำ อาจหาแว่นตาสำหรับกันแดดให้เด็กใส่ด้วย เพื่อป้องกันน้ำและฝุ่นเข้าตา

          - ควรหลีกเลี่ยงการเล่นน้ำในเวลากลางคืน เพราะแสงสว่างในช่วงเวลากลางคืนอาจไม่เพียงพอต่อการมองเห็น มีโอกาสเสี่ยงเกิดอันตรายได้มากกว่าช่วงกลางวัน

          - คนที่มีภูมิต้านทานต่ำ เช่น เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เป็นกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อสูง ควรหลีกเลี่ยงการเล่นน้ำหรือไม่ควรเข้าไปอยู่ในที่ที่มีผู้คนอยู่รวมกลุ่มกันมาก ๆ เพราะอาจป่วยได้ และถ้าป่วยจะมีอาการหนักกว่าคนทั่วไปด้วย


ช่วงเล่นสงกรานต์

          - ไม่ควรเล่นสงกรานต์กลางแดดนานเกินไป เพราะอาจทำให้ป่วยได้จากอากาศร้อน ๆ และการตัวที่เปียกปอนเป็นเวลานาน ทำให้อุณหภูมิในร่างกายปรับไม่ทัน ดีที่สุดก็คือ ในผู้ใหญ่ ไม่ควรเล่นติดต่อกันเกิน 4 ชั่วโมง ส่วนเด็กเล็กไม่ควรเกิน 1 ชั่วโมง

          - ไม่ควรเล่นน้ำสงกรานต์ด้วยน้ำแข็ง หรือน้ำเย็น เพราะจะทำให้ผู้ถูกสาดน้ำป่วยง่ายกว่าใช้น้ำอุณหภูมิปกติ และอาจเกิดอุบัติเหตุจากก้อนน้ำแข็งกระแทกหน้า และลำตัวเป็นแผลเป็นได้

          - ไม่ควรใช้น้ำคลองริมถนน หรือผสมเม็ดแมงลัก เม็ดสาคู ฯลฯ มาเล่นสาดกัน เพราะน้ำอาจสกปรกมีเชื้อโรคปนเปื้อน รวมทั้งไม่ควรใช้น้ำผสมสีด้วยค่ะ เพราะอาจทำให้สารพิษหรือสารเคมีเข้าสู่ร่างกาย ใช้น้ำประปาธรรมดาจะปลอดภัยที่สุด

          - ถ้าใช้ปืนฉีดน้ำเล่นสงกรานต์ ไม่ควรฉีดใส่บริเวณใบหน้าผู้อื่นโดยตรง หรือฉีดใส่ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ และไม่ควรใช้ปืนฉีดน้ำความดันแรงสูงด้วย เพราะเป็นอันตรายต่อผู้ที่ถูกฉีดใส่ หากถูกตาอาจทำให้ตาบอดได้เลย

          - หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์อย่างเด็ดขาด เพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์จะทำให้ผู้เล่นควบคุมสติตัวเองไม่ได้ จนเป็นสาเหตุให้เกิดการทะเลาะวิวาทได้ อีกทั้งแอลกอฮอล์ยังมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ จะยิ่งทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำมากขึ้น นอกจากนี้ยังไปเพิ่มแรงดันโลหิตให้สูงขึ้น อาจทำให้ร่างกายปรับสภาพไม่ทันจนถึงขั้นช็อกได้

          - ไม่ควรเล่นพลุ หรือดอกไม้ไฟ เพราะหากพลาดพลั้งเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา อาจได้รับบาดเจ็บถึงขั้นสูญเสียนิ้วมือ ตาบอด และพลุนั้นอาจทำให้เกิดไฟไหม้ถึงขนาดสูญเสียชีวิตได้เลย



หลังเล่นสงกรานต์

          - เมื่อกลับจากการเล่นสงกรานต์แล้ว ให้รีบอาบน้ำชำระล้างร่างกาย สระผม เช็ดตัวให้แห้ง เปลี่ยนเสื้อผ้าให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายทันที เพื่อช่วยป้องกันความเจ็บป่วยจากโรคทางเดินหายใจ และโรคผิวหนัง แต่หากใครมีอาการหนาวอยู่ อาจจิบน้ำอุ่นช่วย

          - หากผิวไหม้หลังจากเล่นสงกรานต์กลางแดดนาน ๆ ให้ทาเจลว่านหางจระเข้เพื่อบรรเทาอาการแสบร้อนก่อน แต่หากมีผื่น หรือตุ่มแปลก ๆ ขึ้นที่ผิวหนัง ให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจดูสักหน่อยค่ะ เพราะเราอาจติดเชื้อจากสิ่งสกปรกที่ติดมากับน้ำ หรือดินสอพองที่ใช้เล่นสงกรานต์ได้

          - เฝ้าสังเกตอาการป่วยหลังหยุดเล่นน้ำภายใน 1 สัปดาห์ ถ้ามีไข้ คัดจมูก ปวดศีรษะ หรืออาการผิดปกติที่ส่วนใด ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจรักษา


          การเล่นสงกรานต์ อย่านึกถึงแต่ความสนุกของตัวเองเพียงอย่างเดียวเท่านั้นนะ แต่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของตัวเองและคนรอบข้างเราด้วย และที่สำคัญ เทศกาลสงกรานต์ไม่ได้มีแต่การสาดน้ำเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ ที่ควรกระทำ เช่น เข้าวัดทำบุญ รดน้ำดำหัว ขอพรจากญาติผู้ใหญ่ เพื่อแสดงความกตัญญูและเป็นสิริมงคลแก่ตัวเอง รู้แล้วก็ปฏิบัติกันให้ถูกต้องเลยนะคะ