ข่าวเชื้ออีโบลา ระบาด ทำทั่วโลกตื่นตัวการแพร่ระบาดของเชื้ออีโบลา หวั่นระบาดเหมือนเครือข่ายใยแมงมุมไปทั่วโลก เร่งติดตามผู้คนอีก 30,000 ราย ที่ได้พบปะกับเหยื่อติดเชื้อที่โดยสารไปบนเครื่องบินก่อนเสียชีวิตที่ไนจีเรีย
ความพยายามในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคอีโบลาทวีความเข้มข้นมากขึ้น โดยล่าสุด วันที่ 30 กรกฎาคม 2557 เว็บไซต์มิร์เรอร์ รายงานว่า มีความหวั่นเกรงว่าเชื้อจะแพร่กระจายไปทั่วโลกในลักษณะใยแมงมุม หลังจากที่คณะกรรมการเพื่อรับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน (Cabinet Office Briefing Rooms) ของอังกฤษได้หารือกันที่กรุงลอนดอน ก่อนที่ตัวแทนกลุ่ม ดอกเตอร์เยวันดี เอดชินา ที่ปรึกษาพิเศษด้านสาธารณสุขของไนจีเรีย ได้สั่งให้ขยายการติดตามตัวผู้เข้าข่ายต้องสงสัยได้รับเชื้อเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนกว่า 30,000 ราย อันได้แก่ใครก็ตามที่ได้พบปะกับนายแพทริก ซอว์เยอร์ เหยื่อเชื้อมรณะวัย 40 ปี ที่เดินทางโดยเครื่องบินจากไลบีเรียมายังไนจีเรีย ตลอดจนทุกคนที่อยู่ในสนามบินที่นายซอว์เยอร์ได้เดินทางไปถึง
ทั้งนี้ นายแพทริก ซอว์เยอร์ ได้เดินทางโดยเครื่องบินจากไลบีเรีย หยุดพักที่กานา แล้วเปลี่ยนเครื่องที่โตโก ก่อนบินมาไนจีเรีย และเสียชีวิตหลังจากนั้น 5 วัน ซึ่งความพยายามในการติดตามตัวผู้เข้าข่ายอาจได้รับเชื้อนั้น เดิมจำกัดอยู่แค่เพียงผู้โดยสารร่วมเครื่องบินทั้ง 2 ลำที่นายซอว์เยอร์อยู่ในนั้น อันมีจำนวนราวร้อยกว่าคน ก่อนขยายวงเพิ่มเป็น 30,000 คน ดังที่กล่าว
นายไมค์ โนเยส จากกลุ่มแอคชั่นเอด เผยว่า การระบาดของเชื้ออีโบลาครั้งนี้รุนแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมา สิ่งที่น่าเป็นห่วงไม่ใช่เพียงจำนวนผู้ป่วยที่ต้องเสียชีวิตจากการติดเชื้อจะมีอีกมากแค่ไหน แต่ยังรวมไปถึงระยะเวลาในการระบาดที่ตอนนี้ยังไม่ทราบเลยว่าจะสามารถควบคุมได้เมื่อไหร่ ซึ่งปกติแล้วโรคระบาดส่วนใหญ่มีระยะระบาดตั้งแต่ 1 เดือนครึ่ง ถึง 2 เดือน แต่เชื้ออีโบลานี้เริ่มระบาดมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ และยังคงรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ หากไม่สามารถยับยั้งได้ มันก็อาจแพร่กระจายไปเหมือนใยแมงมุม
ด้านความเห็นจากนายบาร์ท แจนเซนส์ หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการจากมูลนิธิแพทย์ไร้พรมแดน ที่ได้เข้าไปให้ความช่วยเหลือด้านการแพทย์ในพื้นที่ที่มีการระบาด ก็ยิ่งตอกย้ำว่าสถานการณ์เลวร้ายมาก โดยนายแจนเซนส์ บอกว่า การระบาดครั้งนี้ยังคงไม่สามารถควบคุมได้ และยังคงมองไม่เห็นหนทางจริง ๆ ว่าจะรับมือกับมันอย่างครอบคลุมได้อย่างไร หากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้นกว่านี้ ก็มีโอกาสที่เชื้อจะระบาดออกไปยังประเทศอื่น ๆ
สำหรับสถานการณ์ความพยายามควบคุมโรคล่าสุดในกรุงมอนโรเวีย เมืองหลวงของไลบีเรีย หน่วยกักกันผู้ป่วยได้ปิดตัวลงเมื่อวันคืนวันอังคารที่ผ่านมา (29 ก.ค.) ผู้ป่วยต้องกลับไปรักษาตัวที่บ้านของตัวเอง หลังจากเจ้าหน้าที่ผู้ทำหน้าที่ดูแลผู้ป่วยหลายสิบรายเกิดติดเชื้อและเสียชีวิตลง โรงเรียนทุกแห่งปิดทำการ งานเทศกาลที่อาจเป็นแหล่งแพร่กระจายเชื้อ เช่น การแข่งขันฟุตบอล ถูกยกเลิก
ในขณะเดียวกัน กรมอนามัยของอังกฤษกำลังร่วมมือกับองค์การอนามัยโลก หรือ WHO ในการหาทางรับมือกับเชื้ออีโบลาระบาดในแอฟริกา ล่าสุดได้เร่งให้รัฐบาลสหรัฐฯ เร่งพัฒนาตัวยา ทีเคเอ็ม-อีโบลา (TKM-Ebola) ซึ่งคาดว่าจะกลายเป็นยาช่วยต้านไวรัสมรณะนี้ได้
