x close

ถึงเวลามาใส่ใจสุขภาพเท้ากันเถอะ


ถึงเวลามาใส่ใจสุขภาพเท้ากันเถอะ

มาใส่ใจสุขภาพเท้าของคุณ (Woman Plus)


          เท้า..เป็นอวัยวะที่สำคัญมาก เพราะตั้งแต่เราตื่น เดิน จนเรากลับบ้าน เท้านี่ละที่พาเราเดินไปไหนต่อไหน ใช้งานมันตลอดทั้งวัน ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปก็ทำให้เมื่อยล้า และอาจมีความผิดปกติกับเท้าของเราได้ ยิ่งเป็นผู้หญิงด้วยแล้ว การเลือกใส่รองเท้าส้นสูงก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เท้าเรานั้นทำงานหนักมากขึ้น เพราะฉะนั้นเราจึงต้องหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพของเรากันให้ดีค่ะ

สังเกตอย่างไรว่าเท้าของเรานั้นผิดปกติ....

           มีอาการปวด

           การไหลเวียนของเลือดบริเวณเท้าผิดปกติ สังเกตได้ว่าผิวหนังจะมีสีคล้ำและเท้าจะเย็น แสดงว่าเลือดอาจไปเลี้ยงที่เท้าไม่พอ

           การทำงานของนิ้วเท้าไม่ดีเท่าที่ควร พิสูจน์ได้จากการใช้นิ้วเท้าคีบผ้าบนพื้น ถ้าทำได้แสดงว่านิ้วเท้ายังมีการเคลื่อนไหวปกติดี

           การทรงตัวไม่ดี ทดสอบโดยการยืนยกเท้าข้างเดียว คนอายุน้อยกว่า 30 ปีจะยืนได้นาน 15 วินาที คนอายุ 30–40 ปีจะยืนได้ 12 วินาที อายุ 40-50 ปีจะยืนได้นาน 10 วินาที และอายุมากกว่า 50 ปีจะยืนได้นาน 7 วินาที ถ้าทำไม่ได้แสดงว่าคุณกำลังมีความผิดปกติที่เท้า

ถึงเวลามาใส่ใจสุขภาพเท้ากันเถอะ

หลักการดูแลเท้าให้มีสุขภาพดี มีอะไรบ้าง...

           ล้างเท้าให้สะอาดด้วยน้ำสบู่อ่อน ๆ และน้ำสะอาด

           เช็ดเท้าให้แห้งทันที โดยเฉพาะบริเวณซอกนิ้วเท้า

           ทาครีมหรือโลชั่นให้ทั่วทั้งหลังเท้าและฝ่าเท้า เพื่อความชุ่มชื้นโดยหลีกเลี่ยงบริเวณซอกนิ้วเท้า

           ถ้าเล็บยาวตัดเล็บเท้าอย่างถูกวิธีโดยตัดตามแนวขอบเล็บเท่านั้น ไม่ตัดเล็บเซาะเข้าไปทางด้านข้างของเล็บ

           สวมถุงเท้าที่เป็นผ้าฝ้ายระบายความร้อนได้ดี และควรใส่รองเท้าตลอดเวลาแม้จะอยู่ในบ้านก็เลือกใส่ชนิดเป็นรองเท้าใส่ในบ้าน

           หมั่นนวดบริเวณเท้าอยู่เสมอเพื่อให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น

           ใส่รองเท้าที่เหมาะสมและถูกสุขลักษณะ โดยเลือกใส่รองเท้าหุ้มส้นให้พอดีกับเท้า ไม่คับไม่หลวมเกินไป

           ออกกำลังเพื่อบริหารข้อเท้าและกล้ามเนื้อเท้าอย่างสม่ำเสมอเพื่อคงความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและกระตุ้นการไหลเวียนเลือดมาสู่ปลายเท้า

ถึงเวลามาใส่ใจสุขภาพเท้ากันเถอะ

การเลือกรองเท้าที่เหมาะสม เลือกอย่างไร...

          เลือกแบบที่ปลอดภัยกับเท้า เพราะปัจจุบันมีรองเท้าหลายแบบและหลายรูปทรงให้เลือก ควรลองรองเท้าลักษณะต่าง ๆ ก่อนตัดสินใจซื้อ รองเท้าที่เหมาะสมไม่ควรมีตะเข็บแข็งอยู่ด้านในและไม่ควรเลือกแบบที่ใส่แล้วคับเกินไป หลวมเกินไป หรือมีส่วนของรองเท้ากดหรือเสียดสีกับเท้า

          เลือกแบบของรองเท้าที่เหมาะสมกับรูปเท้า ควรเลือกรูปทรงรองเท้าที่เหมาะสมและมีลักษณะใกล้เคียงกับรูปเท้าของเราก่อน แล้วจึงลองขนาดของรองเท้า

          ไม่มีมาตรฐานที่แน่นอนของขนาดรองเท้า โดยรองเท้าเบอร์เดียวกันจะมีขนาดต่างกันไปในแต่ละยี่ห้อ แม้รองเท้ายี่ห้อเดียวกัน ถ้ารูปทรงต่างกันขนาดก็แตกต่างกัน ดังนั้นห้ามซื้อรองเท้าจากการดูเบอร์ ต้องลองสวมรองเท้าก่อนซื้อทุกครั้ง

          วัดขนาดเท้าทั้งสองข้างก่อนเลือกซื้อรองเท้าเสมอ เพราะเท้าคนเราเปลี่ยนแปลงได้ทั้งขนาดและรูปร่างในแต่ละช่วงอายุ อีกทั้งคนส่วนใหญ่มักมีเท้าข้างใดข้างหนึ่งกว้างหรือยาวกว่าอีกข้างหนึ่ง ดังนั้นควรลองสวมรองเท้าทั้งสองข้างก่อนตัดสินใจซื้อทุกครั้ง

          ลองสวมเดินทุกครั้ง คือเมื่อเลือกรองเท้าได้แล้ว ต้องลองสวมเดินก่อนซื้อทุกครั้งเพราะรองเท้าที่ดีต้องสวมสบายทั้งในขณะนั่ง ยืนและเดิน

          ความยาวของรองเท้าที่เหมาะสม สำหรับความยาวที่เหมาะสม คือ ใส่แล้วมีระยะระหว่างปลายนิ้วที่ยาวที่สุดกับปลายของรองเท้าเหลือประมาณ 3/8–1/2 นิ้วฟุต หรือเท่ากับขนาดความกว้างของนิ้วหัวแม่มือ

          ความกว้างของรองเท้าที่เหมาะสม และความกว้างที่เหมาะสม คือ ส่วนที่กว้างที่สุดภายในรองเท้าควรกว้างเท่ากับความกว้างที่สุดของเท้าและอยู่ในตำแหน่งที่ตรงกัน

          ส้นเท้าต้องอยู่พอดีกับส้นรองเท้า ส่วนตำแหน่งของส้นเท้าควรอยู่กับตำแหน่งของส้นรองเท้าและมีความกระชับพอดี เมื่อเดินแล้วรองเท้าไม่หลุดจากส้นเท้า

          ถ้าใส่วัสดุเสริมในรองเท้าต้องเปลี่ยนขนาดรองเท้าให้เหมาะสม และสำหรับผู้ที่มีความจำเป็นต้องใช้วัสดุเสริมภายในรองเท้า เช่น แผ่นรองใต้ฝ่าเท้า วัสดุเหล่านี้ทำให้รองเท้าคับขึ้น ดังนั้นเวลาเลือกรองเท้าต้องใส่วัสดุเสริมในรองเท้าก่อนลอง เพื่อให้ได้ขนาดรองเท้าที่เหมาะสม

         เท้าเปลี่ยนขนาดได้ตามเวลาและชนิดของกิจกรรม ซึ่งเท้าเปลี่ยนขนาดและรูปร่างได้ในแต่ละช่วงของวัน เท้ามักจะขยายหลังจากเดินมาก นั่งห้อยเท้านาน ๆ หรืออกกำลังกาย ดังนั้นก่อนเลือกรองเท้าต้องคำนึงถึงเวลาและกิจกรรมที่จะนำไปใช้ให้สอดคล้องกันด้วย

ถึงเวลามาใส่ใจสุขภาพเท้ากันเถอะ

วิธีการรักษาสุขภาพเท้า

          หลังจากเท้าต้องทำงานมาทั้งวัน การแช่เท้าในน้ำอุ่นหรือนวดฝ่าเท้าช่วยผ่อนคลายความตึงล้าของกล้ามเนื้อเล็ก ๆ ในเท้าได้ แต่ห้ามใช้ในผู้เป็นเบาหวาน ซึ่งมีผิวเท้าแห้ง เพราะการแช่น้ำทำให้ผิวแห้งมากขึ้น และห้ามใช้ในผู้ที่มีเท้าชาเพราะทำให้ไม่รู้ตัวว่าน้ำนั้นร้อนเกินไป อาจทำให้เท้าพองได้

          ออกกำลังเพื่อบริหารข้อเท้าและกล้ามเนื้อเท้าอย่างสม่ำเสมอทุกวัน เพื่อคงความแข็งแรงของกล้ามเนื้อกระตุ้นการไหลเวียนเลือดมาสู่ปลายเท้า ท่าบริหารทำได้โดย

           กระดกข้อเท้าขึ้นและลงสลับกันช้า ๆ

           หมุนข้อเท้าโดยหมุนเข้าและหมุนออกช้า ๆ

           ใช้นิ้วเท้าจิกผ้าที่วางอยู่บนพื้นเพื่อบริหารกล้ามเนื้อเล็ก ๆ ในเท้า

           นั่งยกขาขึ้น เหยียดเข่าตึง แล้วกระดกข้อเท้าขึ้นค้างไว้นับ 1-6 ในใจ ถือเป็น 1 ครั้ง



ขอขอบคุณข้อมูลจาก


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ถึงเวลามาใส่ใจสุขภาพเท้ากันเถอะ อัปเดตล่าสุด 8 กันยายน 2557 เวลา 17:05:27 7,521 อ่าน
TOP