x close

สธ. เปิดยุทธศาสตร์ถุงยางอนามัยแห่งชาติ หวังลดเอดส์-ท้องก่อนแต่ง


ถุงยางอนามัย

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

          กระทรวงสาธารณสุข เปิดยุทธศาสตร์ถุงยางอนามัยแห่งชาติ หนุน ใช้ผู้หญิง-ผู้ชายใช้ถุงยางอนามัย สารหล่อลื่น ให้เป็นวิถีชีวิตปกติ หวังลดปัญหาตั้งครรภ์ไม่พร้อม โรคเอดส์ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

          เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2557 นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานแถลงข่าวเรื่อง "การจัดทำยุทธศาสตร์ถุงยางอนามัยแห่งชาติ" ร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ โดยระบุว่า ในระยะ 20 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยมีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับจากนานาชาติว่าสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคเอดส์อย่างได้ผล ด้วยการดำเนินงานโครงการถุงยางอนามัย 100% แต่ปัจุบันกลับพบว่า การแพร่ระบาดของโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ รวมทั้งการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากวัยรุ่นมีเพศสัมพันธ์ก่อนสมรสในระดับสูง โดยข้อมูลจากสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ กระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. 2555 พบว่ามีแม่ที่ตั้งครรภ์ก่อนอายุ 20 ปี เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 5.44 ในปี พ.ศ. 2503 เป็นร้อยละ 16.59 ในปี พ.ศ. 2555

          ด้วยเหตุนี้ทางกระทรวงสาธารณสุขจึงได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำ "ยุทธศาสตร์ถุงยางอนามัยแห่งชาติ ฉบับที่ 1 พ.ศ. 2558-2562" เพื่อส่งเสริมการใช้ถุงยางอนามัยให้กว้างขวาง ทั้งในบุรุษและสตรี รวมทั้งการใช้สารหล่อลื่น ให้เป็นวิถีชีวิตโดยปกติของประชาชน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันโรคเอดส์ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และการตั้งครรภ์ที่ไม่ถึงประสงค์ ซึ่งปัญหาเหล่านี้สามารถป้องกันได้ด้วยการใช้ถุงยางอนามัย

          สำหรับยุทธศาสตร์ที่จัดทำขึ้นนั้นมีทั้งหมด 5 ยุทธศาสตร์ คือ

          ยุทธศาสตร์ที่ 1 การส่งเสริมความยอมรับและลดอคติเกี่ยวกับถุงยางอนามัย และสารหล่อลื่น

          ยุทธศาสตร์ที่ 2 การส่งเสริมการเข้าถึงและการใช้ถุงยางอนามัยและสารหล่อลื่น

          ยุทธศาสตร์ที่ 3 การพัฒนาระบบการบริหารจัดการและการควบคุมคุณภาพถุงยางอนามัย

          ยุทธศาสตร์ที่ 4 การสร้างสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการส่งเสริมการใช้ถุงยางอนามัย

          ยุทธศาสตร์ที่ 5 การติดตามและประเมินผลการดำเนินงานส่งเสริมการใช้ถุงยางอนามัย


ถุงยางอนามัย


          ในตอนท้าย รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ยังฝากให้ประชาชนทุกคนหันมาป้องกันตัวเอง และรับผิดชอบผู้อื่นด้วย โดยการใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์ และหากต้องการคำปรึกษาเรื่องสุขภาพทางเพศสามารถเข้ารับบริการได้ที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน ซึ่งปัจจุบันคนไทยทุกคนสามารถเจาะเลือดตรวจหาเชื้อเอชไอวีได้ฟรีปีละ 2 ครั้ง หากสนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักโรคเอดส์ วัณโรค และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ 02 590 3217 หรือสายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422

          ด้าน ดร.วาสนา อิ่มเอม ผู้ช่วยผู้แทนกองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติประจำประเทศไทย (UNFPA) ย้ำความสำคัญของการใช้ถุงยางอนามัย โดยระบุว่า สถานการณ์ของประเทศไทยในขณะนี้อยู่ในภาวะ "การเกิดน้อย ด้อยคุณภาพ" คือมีเด็กแรกเกิดจำนวนประมาณปีละ 130,000 รายที่เกิดจากวัยรุ่นหญิงอายุระหว่าง 15-20 ปี หรือกล่าวได้ว่า ทุก 4 นาทีจะมีแม่วัยรุ่นเกิดขึ้น

          อีกทั้งสถานการณ์โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในกลุ่มวัยรุ่นและประชากรเฉพาะหลาย ๆ กลุ่มยังเป็นสิ่งที่ต้องจับตามอง การใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งเพื่อให้เป็นวิถีปกติของการมีสุขภาวะทางเพศและอนามัยการเจริญพันธุ์ที่ดี จึงมีความสำคัญในกป้องกันทั้งการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น หรือกลุ่มที่ยังไม่พร้อมต่อการตั้งครรภ์ และป้องกันการติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์



อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สธ. เปิดยุทธศาสตร์ถุงยางอนามัยแห่งชาติ หวังลดเอดส์-ท้องก่อนแต่ง อัปเดตล่าสุด 26 กันยายน 2557 เวลา 16:29:19 1,363 อ่าน
TOP