สถานการณ์ด้านสุขภาพที่จัดว่าเป็นข่าวเด่น ประเด็นร้อนในปี 2558 จะมีอะไรบ้าง รวบรวมมาให้อ่านกันอีกครั้ง เพื่อเฝ้าระวังตัวเองและคนในครอบครัว
ปี 2558 ที่กำลังจะผ่านพ้นไปเป็นปีที่โลกเผชิญสถานการณ์น่าวิตกในเรื่องสุขภาพมากที่สุดอีกปีหนึ่ง ที่หลายประเทศต้องลุกขึ้นมาต่อสู้กับ "ไวรัสเมอร์ส" ขณะเดียวกันยังต้องเฝ้าระวัง "โรคอีโบลา" ที่เคยระบาดหนักเมื่อปี 2557 ไม่ให้กลับมาระบาดครั้งใหญ่ซ้ำรอยเดิม ส่วนในประเทศไทย สถานการณ์เรื่องโรคติดต่อไม่ถึงกับรุนแรง เพราะสามารถควบคุมของไวรัสเมอร์สไม่ให้ระบาดในประเทศได้ แต่ก็ยังมีการระบาดของโรคตามฤดูกาลที่ปรากฏเป็นข่าวอยู่ตลอดทั้งปี ที่น่ากลัวที่สุดคือโรคไข้เลือดออก ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าในปีหนึ่ง ๆ จะมีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนไม่น้อย ลองไปย้อนดู 10 เรื่องสุขภาพที่เป็นข่าวดังในเมืองไทยกันอีกครั้ง
ภาพจาก JUNG YEON-JE / AFP
มหันตภัย ไวรัสเมอร์ส โรคติดต่ออันตรายที่ทั่วโลกสะพรึง !จริง ๆ แล้วโรคไวรัสเมอร์ส (MERS) หรือ โคโรน่าไวรัสสายพันธุ์กลุ่มอาการโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง ถูกพบครั้งแรกเมื่อปี 2012 ในประเทศซาอุดีอาระเบีย ก่อนจะระบาดไปในแถบประเทศใกล้เคียง ซึ่งไม่ได้เป็นข่าวที่คนไทยให้ความสนใจมากนัก เพราะดูเป็นเรื่องไกลตัว แต่แล้วในช่วงต้นปี 2015 กลับมีข่าวพบผู้ป่วยไวรัสเมอร์สในหลายประเทศในยุโรป ลามมาจนถึงประเทศจีน แต่ที่สถานการณ์รุนแรงที่สุดเห็นจะเป็นที่ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งจำนวนผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนทางการต้องสั่งปิดโรงเรียนนับพันแห่ง ท่ามกลางการควบคุมการระบาดที่ทำได้ยากยิ่ง เพราะเป็นโรคที่ติดต่อกันง่ายผ่านทางการหายใจและสัมผัสตัวผู้ป่วย หนำซ้ำยังไม่มียารักษา
ขณะที่ในประเทศไทยเองก็มีข่าวพบผู้ต้องสงสัยติดเชื้อชวนให้หวาดผวาไม่แพ้กัน กระทั่งมาพบผู้ป่วยไวรัสเมอร์สรายแรกของไทยในช่วงเดือนมิถุนายน แต่ทว่าทางกระทรวงสาธารณสุขสามารถควบคุมโรคได้ ทำให้ไม่มีการระบาดในประเทศไทย จนเวลาผ่านไป ทางการเกาหลีใต้ได้ประกาศยุติการระบาดของโรคเมอร์สได้ หลังเชื้อร้ายดังกล่าวคร่าชีวิตชาวเกาหลีไปกว่า 30 ราย ซ้ำยังกระเทือนต่อเศรษฐกิจของประเทศที่คนไม่กล้ามาลงทุนและท่องเที่ยวอยู่พักใหญ่ ซึ่งก็ทำให้รัฐบาลต้องอัดแคมเปญกระตุ้นความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวและนักลงทุนให้กลับคืนมา
อ่านข่าว ไวรัสเมอร์ส โรคติดต่ออันตราย 
โรคอหิวาต์เทียม ทำคนผวาไม่กล้ากินข้าวมันไก่คนชอบกินข้าวมันไก่ถึงกับสะดุ้งเมื่อมีข่าวว่าพบผู้ป่วยหลายคนในจังหวัดเชียงใหม่ล้มป่วยด้วยอาการอาหารเป็นพิษ และเมื่อตรวจอุจจาระก็พบเชื้อ Vibrio parahaemolyticus หรือเชื้ออหิวาต์เทียม สอดคล้องกับที่ช่วงนั้นยังพบประชาชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือหลายคนมีอาการป่วยคล้าย ๆ กัน ก่อนจะมีข่าวว่าสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมามีคำสั่งห้ามเสิร์ฟข้าวมันไก่และงดใส่เลือดไก่ลงในอาหารทุกชนิด ซึ่งภายหลังกรมควบคุมโรคออกมาปฏิเสธหนังสือคำสั่งดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ข่าวดังกล่าวก็ทำให้คนตื่นตัวและเฝ้าระวังเชื้ออหิวาต์เทียมกันมากขึ้น จนยอดขายข้าวมันไก่ลดฮวบ ขณะที่ฝ่ายที่เกี่ยวข้องก็ได้ทำการตรวจสอบโรงงานผลิตเลือดไก่ พร้อมให้ความรู้ว่าไม่ต้องกลัวว่าจะเชื้ออหิวาต์เทียมปนมา เพราะหากเราปรุงเนื้อไก่และเลือดไก่ให้สุกด้วยความร้อนตั้งแต่ 75 องศาเซลเซียส นานเป็นเวลา 15 นาที หรือปรุงให้เดือด ที่ 100 องศาเซลเซียส จะสามารถฆ่าเชื้ออหิวาต์เทียมให้ตายได้ 100% ดังนั้นจึงอย่าตื่นตระหนกจนเกินไป
ไครโอนิกส์แช่แข็งมนุษย์ ชุบชีวิตคนตายได้จริงหรือ ?หลายคนอาจจะได้ยินชื่อ "เทคโนโลยีแช่แข็งมนุษย์" หรือ "ไครโอนิกส์" เป็นครั้งแรกจากข่าวของ น้องไอนส์ เด็กหญิงวัย 2 ขวบ ที่ป่วยด้วยโรคมะเร็งสมองชนิดรักษาได้ยาก ทำให้พ่อแม่ตัดสินใจปลดเครื่องช่วยหายใจเพื่อให้น้องจากไปอย่างสงบ และนำร่างเข้าสู่ขบวนการไครโอนิกส์ ด้วยความคาดหวังว่าสักวันการแพทย์จะก้าวหน้าจนสามารถปลุกลูกสาวให้ฟื้นจากการหลับใหลที่หนาวเหน็บ และรักษาโรคมะเร็งนี้ได้
เรื่องนี้ก็มีหลายฝ่ายออกมาให้ความเห็นในหลายทิศทาง ซึ่งนักวิชาการและแพทย์หลายคนก็มองว่า การแช่แข็งร่างกายเพื่อหวังจะนำกลับมาเพิ่มอุณหภูมิ เพื่อให้ระบบต่าง ๆ ภายในร่างกายกลับมาเริ่มทำงานอีกครั้งนั้น ยังไม่มีทฤษฎีหรืองานวิจัยใดที่ชี้ให้เห็นถึงความเป็นไปได้ เพราะที่ผ่านมายังไม่มีใครทำได้ อีกทั้งในการใช้วิธี "ไครโอนิกส์" ยังมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก แต่ความเป็นไปได้ที่จะสามารถชุบชีวิตมนุษย์ได้นั้นน้อยยิ่งกว่าน้อย จึงถือเป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มค่า อย่างไรก็ตามก็ถือเป็นสิทธิที่บุคคลพึงกระทำได้ ซึ่งทางครอบครัวของน้องไอนส์ก็ยืนยันจะทำเช่นนี้
ภาพจาก webmd.com
ไข้กาฬหลังแอ่น โรคระบาดในอดีตที่กลับมาเป็นข่าวอีกครั้งช่วงเดือนมีนาคม 2558 คนไทยได้ยินชื่อโรคที่เคยระบาดในอดีตอย่าง "ไข้กาฬหลังแอ่น" อีกครั้ง หลังจากหญิงชาวกัมพูชาที่เดินทางผ่านเข้ามาในประเทศไทยเกิดเสียชีวิตด้วยโรคนี้ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา และเพราะเป็นโรคติดต่อทางระบบหายใจ ผ่านการไอ จาม สัมผัสสารคัดหลั่ง จึงมีโอกาสแพร่เชื้อในผู้ใกล้ชิดได้ ทำให้ทางกระทรวงสาธารณสุขต้องลงพื้นที่ติดตามเฝ้าระวังผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้เสียชีวิต อย่างไรก็ตามก็ไม่พบผู้ป่วยเพิ่มเติมจากเหตุการณ์นี้
กระทั่งในเดือนพฤษภาคม พบชายไทยเสียชีวิตด้วยโรคไข้กาฬหลังแอ่นที่จังหวัดอุบลราชธานี นับเป็นผู้เสียชีวิตรายแรกของจังหวัดในรอบเกือบ 20 ปี อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขได้ย้ำเตือนคนไทยว่าไม่ต้องตื่นตระหนก เพราะโรคนี้มีวัคซีนป้องกัน และแม้ว่าอาการของไข้กาฬหลังแอ่นจะค่อนข้างรุนแรง แต่หากรู้ตัวเร็วและรีบรักษาก็ลดโอกาสการเสียชีวิตได้
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Saowapa Sittikankaew
โรคมือเท้าปากชนิดรุนแรง คร่าชีวิตเด็กน้อยหลังป่วยแค่ 3 วันได้ยินข่าวเด็กเล็ก ๆ ป่วยด้วยโรคมือ เท้า ปาก กันอยู่ทุกปี แต่ช่วงกลางปีที่ผ่านมาพบเด็กหญิงรายหนึ่งเสียชีวิตด้วยโรคนี้หลังจากมีอาการเพียงแค่ 3 วันเท่านั้น จึงทำให้พ่อแม่ผู้ปกครองตื่นตระหนกไม่น้อย ซึ่งแพทย์ระบุว่า โรคมือ เท้า ปาก มีหลายสายพันธุ์ แต่ละสายพันธุ์รุนแรงไม่เท่ากัน จึงคาดว่าเด็กคนนี้อาจติดเชื้อสายพันธุ์ที่รุนแรงที่สุดคือ "เอนเทอโรไวรัส (EV) 71" ที่มีโอกาสพบได้น้อยมาก แต่หากป่วยแล้วจะมีอาการทรุดหนักรวดเร็วและเสียชีวิตได้ง่าย
อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลสถิติตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-8 กันยายน 2558 พบผู้ป่วยแล้วกว่า 26,000 ราย เสียชีวิต 4 ราย โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเด็กเล็กอายุแรกเกิดถึง 4 ขวบ ที่สำคัญในปีนี้พบว่าเชื้อเอนเทอโรไวรัส 71 ที่ก่อให้เกิดอาการรุนแรงมีสัดส่วนสูงกว่าทุกปีเมื่อเทียบกับ 10 ปีที่ผ่านมา ดังนั้นจึงฝากเตือนพ่อแม่ ผู้ปกครอง หมั่นสังเกตอาการบุตรหลาน หากพบว่ามีไข้ ร่วมกับแผลในปาก และตุ่มที่มือหรือเท้า บางรายอาจมีเฉพาะไข้ และแผลในปาก แต่ไม่มีตุ่มที่มือหรือเท้า ควรให้หยุดเรียน และไม่คลุกคลีกับคนอื่น ๆ ในครอบครัวหรือในชุมชน ถ้าพบว่าเด็กอาการไม่ดีขึ้น ยังมีไข้สูงหรืออาเจียนหรือซึม ต้องรีบพาไปพบแพทย์
ฮือฮาสนั่นเมือง อ้างดื่มน้ำทุเรียนเทศรักษามะเร็งได้เคยได้ยินสรรพคุณในการรักษาโรคของทุเรียนเทศมาพักหนึ่ง แต่ยังไม่มีงานวิจัยทางวิชาการมารับรองอย่างชัดเจนนัก ถึงกระนั้นก็ยังมีกระแสข่าวบอกกล่าวถึงสรรพคุณมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งกรณีที่ชาวแพร่รายหนึ่ง ออกมาให้ข่าวว่าเขาสามารถพิชิตโรคมะเร็งระยะสุดท้ายได้ หลังดื่มน้ำใบทุเรียนเทศติดต่อกันเพียง 2 เดือน เซลล์มะเร็งที่ขยายลงไปที่ตับและปอดก็หายไป สร้างความประหลาดใจให้กับแพทย์ที่รักษา (อ่านข่าว สุดอัศจรรย์ ชาวเมืองแพร่ดื่มน้ำใบทุเรียนเทศ เอาชนะมะเร็งระยะสุดท้าย)
เรื่องดังกล่าวก็ถูกพูดต่อกันไปในวงกว้าง ทุกคนต่างเสาะหาใบทุเรียนเทศเพื่อหวังจะบรรเทาอาการป่วยของตนเอง ทำให้แพทย์ต้องออกมาเตือนว่า ห้ามรับประทานทุเรียนเทศรักษามะเร็ง เพราะงานวิจัยเรื่องนี้ยังอยู่ในขั้นทดลองเท่านั้น หากทานเข้าไปอาจมีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตด้วยโรคตับและไตวายเฉียบพลัน เพราะทุเรียนเทศมีพิษต่อระบบประสาท (อ่านข่าว แพทย์เตือน กินทุเรียนเทศแก้มะเร็ง เสี่ยงตับ-ไตวายเฉียบพลัน)
เช่นเดียวกับ อาจารย์เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ ที่เตือนให้ระวังความเสี่ยงจากสารสกัดใบทุเรียนเทศซึ่งมีพิษสูงมาก ส่วนเรื่องที่บอกว่าทุเรียนเทศรักษามะเร็งได้นั้น เป็นเพียงคำกล่าวอ้างของคนเดียว ดังนั้นก่อนจะเชื่ออะไร ควรฟังหูไว้หู เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง (อ่านข่าว ทุเรียนเทศ รักษามะเร็งได้จริงหรือ นักวิชาการเตือนระวังความเสี่ยงด้วย)
ภาพจาก สปริงนิวส์
พยาธิสตรองจิลอยด์ วายร้ายใกล้ตัว คร่าชีวิตโค้ชแต๊กนับเป็นข่าวน่าเศร้าของวงการลูกหนังไทย ที่สูญเสีย โค้ชแต๊ก อรรถพล ปุษปาคม ไปด้วยอาการติดเชื้อในกระแสเลือดและปอด อันมีสาเหตุมาจากพยาธิสตรองจิลอยด์ตัวร้าย ซึ่งเข้าสู่ร่างกายมนุษย์ได้ด้วยการชอนไชผ่านเข้าสู่ผิวหนัง และกลุ่มที่เสี่ยงที่สุดคือ คนที่ชอบถอดรองเท้าเดินเท้าเปล่าบนพื้นดิน
ข่าวนี้จึงเป็นการเผยให้เห็นถึงภัยสุขภาพใกล้ตัวที่คนไม่ทันระมัดระวังกัน ให้รู้จักความอันตรายของพยาธิชนิดนี้ที่หากเข้าสู่ร่างกายไปแล้ว จะมีชีวิตอยู่ได้นานเป็นสิบ ๆ ปี และยังแพร่พันธุ์ได้ง่ายหากเจอเข้ากับคู่พยาธิที่มีอยู่แล้วในตัเรา ซึ่งเมื่อผสมพันธุ์กันได้ จำนวนเชื้อพยาธิก็จะเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ร่างกายอ่อนแรงลงจนไม่สามารถต้านทานการติดเชื้ออื่น ๆ ลุกลามไปติดเชื้อในกระแสเลือด และเป็นเหตุให้เสียชีวิต ดังนั้นหนึ่งในทางป้องกันที่ดีที่สุดก็คือ หลีกเลี่ยงการเดินเท้าเปล่าในพื้นที่สกปรก
เตือนภัยกันดัง ๆ ใช้ยาโปรโคดิลผิดวิธี อันตรายถึงชีวิต !"ยา" หากใช้ในทางที่ดีก็ช่วยรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้ แต่ถ้านำไปใช้ผิดวิธี "ยา" ก็ฆ่าคนได้เหมือนกัน อย่างเช่นข่าวนักเรียนชั้นมัธยมกินยาโปรโคดิลผสมยาทรามาดอล 40 เม็ด จนมึนเมา และเกิดอาการชักเกร็งตกตลิ่งใต้สะพานภูมิพล
ข่าวนี้ทำให้แพทย์ต้องออกมาย้ำเตือนวัยรุ่นดัง ๆ ว่า ยาโปรโคดิล ซึ่งมีไว้ใช้แก้แพ้ หากนำมาใช้ผิดวิธีจะเป็นอันตรายต่อชีวิตมาก คนที่กินยาโปรฯ เกินขนาดจะสูญเสียการทรงตัวเป็นช่วง ๆ เนื่องจากการประสานงานของกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ผิดปกติไป และหากกินโปรติดต่อกันนานเข้าอาจเกิดภาวะชัก สมองหยุดทำงานเนื่องจากขาดออกซิเจน นำไปสู่การเสียชีวิตได้ รวมทั้งการกินยาแก้ปวดหรือยาแก้ไอผิดวิธี ก็ให้ฤทธิ์ไม่ต่างจากสารเสพติดที่เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ด้วยเช่นกัน ดังนั้นอย่าริลองเป็นอันขาด
WHO ยกไส้กรอก เบคอน เนื้อแดงแปรรูปอันตรายเทียบเท่าสารหนู-สูบบุหรี่ !รายงานจากองค์การอนามัยโลก (WHO) เมื่อปลายเดือนตุลาคม 2558 ทำเอาคนชอบหม่ำไส้กรอก เบคอน หมูแฮม ลังเลที่จะทานต่อไป หลังเปิดเผยว่าเนื้อสัตว์แปรรูปเหล่านี้ สามารถก่อให้เกิดความเสี่ยงในระดับสูงได้ และเตรียมจัดให้เป็น 1 ใน 5 ของสารก่อมะเร็งเทียบเท่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แร่ใยหิน สารหนู และการสูบบุหรี่ ซึ่งรู้กันดีอยู่แล้วว่าสิ่งเหล่านี้ก่อโรคร้ายให้ร่างกายมากมหาศาลเพียงไหน (อ่านข่าว อันตราย ! "ไส้กรอก-เบคอน-เบอร์เกอร์" WHO จ่อยกเป็นตัวก่อมะเร็งเทียบเท่าสารหนู)
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีงานวิจัยพบว่าการกินเนื้อแปรรูปมีความสัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งลำไส้ ส่วนมะเร็งชนิดอื่น ๆ นั้น ยังไม่มีหลักฐานยืนยันแน่ชัดถึงขั้นฟันธงได้ แต่ถึงกระนั้น นักวิจัยก็เพียงแต่แนะนำให้ควบคุมปริมาณการบริโภคเนื้อแดงและเนื้อแปรรูปไม่ให้มากเกินไป เพราะจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากโรคหัวใจ เบาหวาน และโรคอื่น ๆ ได้ด้วยเหมือนกัน (อ่านข่าว ตอบทุกข้อสงสัย กินไส้กรอก-เบคอน ก่อมะเร็งลำไส้จริงหรือ ?)
ไข้เลือดออกระบาดหนัก คนตื่นตัวอีกครั้งหลัง ปอ ทฤษฎี อาการวิกฤตหลายคนคิดว่าโรคไข้เลือดออกมักระบาดในฤดูฝน แต่จริง ๆ แล้วถ้าติดตามข่าวอย่างสม่ำเสมอจะได้ยินข่าวพบคนป่วยเสียชีวิตด้วยโรคนี้อยู่ตลอดทั้งปี แต่ไม่ได้เป็นข่าวใหญ่มากนัก จนกระทั่งพระเอกหนุ่ม ปอ ทฤษฎี สหวงษ์ ล้มป่วนด้วยโรคไข้เลือดออก และมีอาการเข้าขั้นรุนแรง เนื่องจากป่วยโรคนี้เป็นครั้งที่ 2 ทำให้เกิดอาการช็อก และมีอาการไตวาย ตามมาด้วยอาการอื่น ๆ ที่สร้างความตกใจให้ผู้ที่ทราบข่าวเป็นอย่างยิ่ง ท่ามกลางกำลังใจจากคนในครอบครัว แฟนคลับ และประชาชนทั่วไปที่เอาใจช่วยพระเอกหนุ่มให้มีอาการดีขึ้น
การล้มป่วยของ ปอ ทฤษฎี ครั้งนี้ ทำให้คนตื่นตัวในความรุนแรงของโรคไข้เลือดออกมากขึ้น และเมื่อเปิดสถิติผู้ป่วยโรคนี้ ตั้งแต่เดือนมกราคม 2558 จนถึงวันที่ 15 ธันวาคม 2558 พบว่ามีผู้ป่วยสะสม 131,647 ราย เสียชีวิตแล้ว 129 ราย โดยจำนวนผู้ป่วยมากที่สุดในช่วงเดือนกรกฎาคม-พฤศจิกายน (ข้อมูลจาก สำนักโรคติดต่อนำโดยแมลง) นับว่าเป็นโรคที่มีผู้ป่วยจำนวนมาก ดังนั้นสิ่งที่จะทำได้ก็คือ ต้องป้องกันไม่ให้ถูกยุงลายอันเป็นพาหะของโรคกัด
ทั้งหมดนี้คือ 10 สถานการณ์เด่น ๆ ในแวดวงสุขภาพที่เป็นประเด็นในปี 2558 อันจะเห็นได้ว่าเรื่องโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ นั้นอยู่ใกล้ตัวเรากว่าที่คิด หากรักษาสุขภาพร่างกาย สร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง เราจะก็จะป้องกันตัวเองไม่ให้อยู่ในภาวะเสี่ยงได้ รวมทั้งการติดตามข่าวสารอยู่เสมอก็จะช่วยให้เรามีข้อมูลในการพิจารณาและรู้เท่าทันภัยอันตรายต่าง ๆ
