รองปลัด กทม. เตือนประชาชนระวังป่วยไข้หวัดใหญ่ หลังระบาดมากในฤดูฝน เผยสำรวจตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-30 กันยายน 2559 พบผู้ป่วยในเขต กทม. 8,382 ราย
วันที่ 7 พฤศจิกายน 2559 นางวันทนีย์ วัฒนะ รองปลัด กทม. เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการเปลี่ยนจากฤดูฝนไปสู่ฤดูหนาว จึงมีอากาศเย็นสลับกับมีฝนตก โดยตลอดช่วงฤดูหนาวจะเป็นช่วงที่พบผู้ป่วยโรคไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่เป็นจำนวนมาก เฉพาะในพื้นที่ กทม. ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-30 กันยายน 2559 พบผู้ป่วยสะสมทั้งสิ้น 8,382 ราย ซึ่งทาง กทม. ได้กำชับให้ศูนย์บริการสาธารณสุขทั้ง 68 แห่ง เฝ้าระวัง รณรงค์ และให้คำแนะนำแก่ประชาชน สถานศึกษา หอพัก ค่ายทหาร และพื้นที่แหล่งชุมชน พร้อมกับเร่งฉีดวัคซีนป้องกันโรคแก่กลุ่มเสี่ยง
- ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง, หอบหืด, โรคหัวใจ, เบาหวาน
- ผู้ที่มีน้ำหนักมากกว่า 100 กิโลกรัมขึ้นไป
- ผู้ที่มีอายุ 68 ปีขึ้นไป และเด็กอายุ 6 เดือน ถึง 2 ขวบ เป็นต้น
ทั้งนี้ควรฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่และหลีกเลี่ยงการอยู่กับคนหมู่มาก และหากพบว่ามีอาการคล้ายโรคไข้หวัดใหญ่ควรรักษาตัวอยู่ที่บ้านเป็นเวลา 7 วัน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด
นางวันทนีย์ กล่าวต่อว่า กทม. ยังเฝ้าระวังสถานการณ์โรคไข้เลือดออกและไข้ซิกาอย่างต่อเนื่อง โดยขอความร่วมมือจากประชาชนและทุกภาคส่วนช่วยกันป้องกันไม่ให้มียุงลายพาหะนำโรคไข้เลือดออก และกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายทุก 7 วัน รวมทั้งปรับปรุงให้ภาชนะ หรือของเหลือใช้ต่าง ๆ เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายด้วยการคว่ำภาชนะหรือทำลายทิ้ง
อย่างไรก็ตาม หากพบผู้ที่อาการไข้สูงมากกว่า 2 วัน อาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ แต่ไม่ไอ ไม่มีน้ำมูก แต่ปวดเมื่อยตามตัว หน้าแดง อาจมีจุดเลือดออกใต้ผิวหนัง ที่แขน ข้อพับ ควรนำตัวพบแพทย์โดยด่วน ซึ่งทาง กทม. จะลงพื้นที่รณรงค์เรื่องไข้เลือดออกกันอย่างเข้มข้น และฉีดพ่นสารป้องกัน และทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายในพื้นที่ต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
