x close

สธ.เปิดห้องผ่าศพผู้เสียชีวิต ไข้หวัด2009

ไข้หวัดใหญ่ 2009
ไข้หวัด2009 swine flu h1n1



กรมการแพทย์เผย 6แสนติดหวัด สธ.เปิดห้องผ่าศพ (ไทยรัฐ)

          สธ.เปิดห้องปฏิบัติการ "ผ่าศพ" ผู้ป่วย ไข้หวัด2009 เก็บข้อมูลพยาธิสภาพของผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่2009 เพื่อวิจัยค้นหาแนวทางการรักษาที่ดีที่สุด เผยเป็นโอกาสที่จะได้ศึกษาทางการแพทย์และวางมาตรการรับมือการระบาดระลอก 2 ในเดือนสิงหาคมนี้ 

          วันนี้ (27 กรกฎาคม) นพ.เรวัติ วิศรุตเวช อธิบดีกรมการแพทย์  กล่าวว่า จากการระบาดของ ไข้หวัดใหญ่2009  ขยายวงการระบาดไปทั่วประเทศ ในขณะนี้ คาดว่าประเทศไทยจะมีผู้ติดเชื้อโรคนี้จริงๆ มากกว่า 5- 6 แสนคน กรมการแพทย์ในฐานะหน่วยงานที่มีบทบาทหน้าที่สำคัญในการให้การรักษาผู้ป่วย เพราะมีสถานพยาบาลระดับตติยภูมิและศูนย์การแพทย์ในสังกัดหลายแห่ง โดยเฉพาะที่โรงพยาบาลราชวิถี มีผู้ป่วยมารับการรักษาในแต่ละวันเป็นจำนวนมาก เฉลี่ยเฉพาะผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ที่มารักษาที่แผนกผู้ป่วยนอกวันละ 300–400 ราย หรือ ที่สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี มีผู้ป่วยมารับการรักษามากขึ้น จนต้องเปิดคลินิกพิเศษให้บริการจนถึงเที่ยงคืนทุกวันราชการ การที่มีผู้ป่วยมารักษาเป็นจำนวนมาก ส่วนหนึ่งแม้จะทำให้แพทย์และพยาบาลมีภาระงานเพิ่มขึ้น แต่อีกด้านหนึ่งในฐานะหน่วยงานที่ต้องวิจัยและพัฒนาให้เกิดความก้าวหน้าในทางการแพทย์ การมีขนาดตัวอย่างของผู้ป่วยจำนวนมาก ทำให้สามารถที่จะสุ่มตรวจและเก็บข้อมูลเพื่อเป็นประโยชน์ในการวางแนวทางการรักษาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อลดอัตราการเสียชีวิตลงได้  

          อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ได้ให้โรงพยาบาลในสังกัดทั่วประเทศ รวมทั้งขอความร่วมมือโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข เก็บข้อมูลประวัติการรักษาผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่2009 ที่ยืนยันผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการแล้วทุกรายอย่างละเอียด เพื่อจะนำมาเป็นข้อมูลในการวิจัยทางคลินิกถึงพยาธิสภาพของโรคที่เกิดขึ้นกับระบบต่างๆ ของร่างกาย เพราะที่ผ่านมา ผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่2009 ชนิดเอ h1n1 แม้จะมีอาการทั่วไปเหมือนกัน แต่ก็มีความแตกต่างกันในบางราย โดยเฉพาะภาวะความรุนแรงที่เกิดกับปอด เช่น ปอดบวม ปอดอักเสบ หรือแม้แต่ในกลุ่มที่อาจจะไม่ใช่กลุ่มเสี่ยง คือ ไม่ใช่คนอ้วน ไม่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หัวใจ แต่กลับมีอาการรุนแรง  แพทย์อาจจะต้องพยายามค้นหาสาเหตุ ปัจจัยเหล่านี้ แม้จะเป็นเพียงผู้ป่วยส่วนน้อยมากก็ตาม 

          นพ.เรวัติ กล่าวด้วยว่า อีกส่วนหนึ่งที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ คือ การชันสูตรศพผู้เสียชีวิตจาก ไข้หวัด2009 โดยสถาบันพยาธิวิทยา  มีห้องปฏิบัติการผ่าชันสูตรศพที่สามารถชันสูตรศพโรคติดเชื้อได้เพียงแห่งเดียวในประเทศไทยขณะนี้ โดยได้ทำการชันสูตรศพอย่างละเอียดไปแล้ว 2 ราย เท่าที่ญาติผู้เสียชีวิตยินยอม ทำให้ได้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับความรุนแรงของไวรัสที่ส่งผลต่อการทำงานของอวัยวะในระบบต่างๆ โดยเฉพาะความรุนแรงต่อระบบการหายใจทั้งระบบ ที่จะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อวงการแพทย์และการรักษาโรคนี้ต่อไป  

          "ห้องปฏิบัติการชันสูตรศพของสถาบันพยาธิวิทยาเป็นห้องปฏิบัติการที่ได้มาตรฐาน สามารถแบ่งความดันลบ หรือที่เรียกว่า Negative Pressure ได้ถึง 3 ระดับ มีมาตรการป้องกันตั้งแต่การลำเลียงศพเข้า –ออก ที่มีการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคอย่างเข้มข้น โดยออกแบบระบบปรับอากาศและระบายอากาศ แบบ 100% เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อสู่ผู้ปฏิบัติงาน มีการเติมอากาศ และกรองอากาศ รวมถึงการฆ่าเชื้อด้วยแสงยูวี เชื่อมั่นได้ว่ามีความปลอดภัย 100%" อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวและว่า นับจากนี้ หากมีการขอร้องจากแพทย์ หรือญาติที่อนุญาตให้ทำการผ่าศพเพื่อพิสูจน์เป็น วิทยาทานทางการแพทย์ กรมการแพทย์ก็จะดำเนินการทันที เพราะถ้ามีการเก็บข้อมูลเพื่อการวิจัยที่ดีพอ เชื่อมั่นว่า แม้จะมีการคาดการณ์ การระบาดของโรคระลอกสองในเดือนสิงหาคม-ตุลาคมนี้ แพทย์จะมีแนวทางในการรักษาได้อย่างทันท่วงที นอกจากตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขแล้ว ยังจะช่วยลดความรุนแรงของโรคและอัตราการเสียชีวิตลงได้มาก



ขอขอบคุณข้อมูลจาก
 


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สธ.เปิดห้องผ่าศพผู้เสียชีวิต ไข้หวัด2009 อัปเดตล่าสุด 28 กรกฎาคม 2552 เวลา 14:13:23
TOP