x close

อสม.บวกหมออนามัย รวมพลังชวนคนไทยเลิกบุหรี่ให้ได้ 3 ล้านคน ภายใน 3 ปี


          "หมออนามัย ไม่ใช่หมอ แต่ทำหน้าที่ไม่ต่างจากหมอ ชาวบ้านเรียกเราว่าหมอ เพราะเราให้ยาเขาได้ ปฐมพยาบาลและให้การรักษาโรคเบื้องต้นได้ ให้วัคซีนเด็ก ไม่ว่า ไอกรน คอตีบ บาดทะยัก โปลิโอก็ได้ ช่วยวางแผนครอบครัว อนามัยสิ่งแวดล้อม การสุขาภิบาล และการสร้างส้วม สร้างถังเก็บน้ำ ฯลฯ"

          "หมออนามัยรู้จักบ้านทุกหลัง คนเดินมานี่รู้เลยว่าบ้านอยู่ไหน ลูกเต้าเหล่าใคร หมออนามัยบางคนตื่นตีสี่ ไปเยี่ยมชาวบ้าน ตอนสายกลับมาชาวบ้านหิ้วข้าวหิ้วผลไม้มาส่งถึงที่ทำงาน ในวงการแพทย์ถึงยอมรับว่า หมอที่เป็นนายแพทย์จริง ๆ บางครั้งยังแค่ "เห็นไข้ไม่เห็นคน" ในขณะที่พวกเราหมออนามัยนั้น ทำงานแบบ "เห็นคนเห็นไข้" คือไม่ได้แค่สั่งยาสั่งเอกซเรย์ แต่เรารู้ไปหมด พูดง่าย ๆ ว่าช่วยดูแลชาวบ้านใกล้ชิดเป็นหนึ่งเดียวกันเหมือนน้ำกับปลา
เลิกบุหรี่

          คุณกษิดิศ ขันธรัตน์ รองประธาน มูลนิธิเครือข่ายหมออนามัย ได้กล่าวถึงภาพรวมในการทำงานและบทบาทของหมออนามัยในปัจจุบัน ซึ่งใช้หลักในการทำงานแบบซึมลึกทุกพื้นที่ ตามสโลแกน "ปรับทุกข์ ผูกมิตร เกาะติด ซึมลึก" จนทำให้หมออนามัยเป็นที่รักและผูกพันกับทุกหลังคาเรือนในชุมชน ชนิดที่ว่าออกตรวจพื้นที่ทีไร ต้องได้กินข้าวอิ่มกลับมา หรือถูกเชิญไปร่วมงานสำคัญของชาวบ้านเสมอ ไม่ว่าครั้งไหน ก็จะต้องได้นั่งเก้าอี้โซฟาตัวหน้าสุดที่มีไว้สำหรับคนสำคัญเสมอ
 
เลิกบุหรี่

          อีกหนึ่งภาคีที่มีบทบาทสำคัญ คือ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือที่เราเรียกย่อ ๆ กันติดปากว่า อสม. ซึ่งเป็นตัวชาวบ้านเองที่ผ่านกระบวนการอบรมด้านการป้องกันและส่งเสริมสุขภาพจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และนำความรู้ที่ได้ไปถ่ายทอด สื่อสารต่อกับคนในชุมชนที่ตนเองดูแลอยู่ ซึ่งกระบวนการทำงานลักษณะนี้ ถือเป็นรูปแบบหนึ่งของการมีส่วนร่วมของประชาชนในการดูแลสุขภาพของตนเองและชุมชน ในปัจจุบัน มี อสม. ครอบคลุมหมู่บ้านในชนบทและชุมชนเมืองกว่า 1 ล้านคน

          คนทำงานด้านสุขภาพทั้งสองกลุ่ม มีบทบาทสำคัญและเป็นกลุ่มคนที่ทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กันอยู่ในทุกหมู่บ้าน จับมือกันเป็นพลังขับเคลื่อนรณรงค์ เพื่อเสริมสร้างสุขภาพของประชาชน จนทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงของทัศนคติ พฤตกรรม และทำให้สุขภาพของคนในพื้นที่ดีขึ้น

          จากจุดแข็งในเรื่องความใกล้ชิดกับประชาชนในหมู่บ้าน ที่ทำให้หน่วยงานหลักอย่างกระทรวงสาธารณสุข และ สสส. ประสานความร่วมมือกับทั้งสององค์กรนี้เป็นหน่วยงานเชิงรุก เพื่อสร้าง "กิจกรรมลงมือทำ" ควบคู่ไปกับ "กิจกรรมรณรงค์สร้างกระแส" ทั้งการชักชวน เชิญชวน ท้าชวน ให้ประชาชนเลิกบุหรี่ พร้อมลงชื่อสมัครใจเลิกบุหรี่  รวมถึงป้องกันการกลับไปสูบ ใน "โครงการ 3 ล้าน 3 ปี เลิกบุหรี่ทั่วไทย เทิดไท้องค์ราชัน" ได้อย่างทรงพลัง

          จากตัวอย่างตัวเลขจากการสำรวจในปี พ.ศ. 2554 พบว่า ชายไทยสูบบุหรี่ร้อยละ 41.7 หญิงไทยร้อยละ 2.1 นั่นหมายความว่า โดยเฉลี่ย 4 ใน 10 ครัวเรือนที่ อสม. แต่ละคนรับผิดชอบจะมีคนสูบบุหรี่ ดังนั้นทำให้เห็นถึงภาระหน้าที่ของ อสม. ในการช่วยให้คนเลิกสูบบุหรี่

          ปัจจุบัน มี อสม.ทั้งหมด ประมาณ 1 ล้านคน หาก อสม. ทุกคน ชวนคนเลิกสูบบุหรี่ให้สำเร็จ ให้ได้ 1 คน ต่อ 1 ปี  จะมีคนเลิกสูบบุหรี่ไดสำเร็จปีละ 1 ล้านคน รวม 3 ปีก็จะได้ 3 ล้านคน

          "สิ่งหนึ่งที่ทำให้พวกเราทำงานสำเร็จ คือการที่โครงการนี้ไม่ใช่โครงการรณรงค์สร้างกระแส แถลงข่าว หากแต่เป็นการลงมือทำบนสถานการณ์จริง ในพื้นที่จริง เพราะทั้งหมออนามัย 50,000 คน ทั้ง อสม. 1.4 ล้านคน ไม่เพียงแต่จะมุ่งเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของตัวผู้สูบเท่านั้น พวกเรายังเน้นไปที่การเปลี่ยนแปลงทัศนคติของเขาอีกด้วย จากที่ไม่เคยสนใจสุขภาพตัวเองมาก่อน ก็กลายเป็นคนรักและอยากดูแลตัวเอง อยากเข้มแข็งและอยู่กับครอบครัวไปแบบไม่เจ็บไข้ได้ป่วย แถมบางคนยังเผื่อแผ่ไปถึงเพื่อนทียังสูบ ด้วยการชักชวนให้คนอื่นเลิกตามตัวเองอีกด้วย"

          สำหรับผู้ที่ต้องการเลิกบุหรี่และเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ ไม่ว่าคุณจะมาเดี่ยวหรือมาเป็นกลุ่ม ไม่ว่าคุณจะเพิ่งสูบไม่นานหรือสูบมาหลายปีแล้ว เราอยากท้าให้คุณมาลองคลิกเปลี่ยนชีวิตของคุณได้ที่ http://www.quitforking.com หรือ สายด่วนเลิกบุหรี่ โทร.ฟรี 1600 หรือแวะมาหาเรา โดยสมัครเข้าร่วมโครงการเลิกสูบบุหรี่ ที่ อสม. รพ.สต.ใกล้บ้าน อสส. กทม. และ รพ. ในสังกัดกทม. และ ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทั่วประเทศ

https://www.youtube.com/embed/x5KhmKLWu1o?feature=oembed

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
อสม.บวกหมออนามัย รวมพลังชวนคนไทยเลิกบุหรี่ให้ได้ 3 ล้านคน ภายใน 3 ปี อัปเดตล่าสุด 25 พฤษภาคม 2560 เวลา 07:59:08 1,419 อ่าน
TOP