คืนนี้ที่ไหนดี ? คำถามยอดฮิตของเย็นวันศุกร์ กิจกรรมยอดนิยมที่คนทำงานมักจะส่งท้ายปลายสัปดาห์หลังจากที่ลุยงานหนักมากันทั้งทั้งสัปดาห์ ชนแก้วกันเป็นว่าเล่น ดื่มกันเป็นเทน้ำเทท่า จะโดนงานเท โดนแฟนเท ก็เฮมาลงกับการดื่ม ตื่นมาในเช้าวันใหม่ด้วยอาการมันก็จะเบลอเบลอหน่อย คิดไปเองว่าดื่มหนักสัปดาห์ละครั้ง คงไม่เป็นอะไร ใคร ๆ เขาก็ทำกัน แต่เคยรู้กันบ้างมั้ยว่าพฤติกรรมนี้มันทำร้ายตับแค่ไหน ? เรื่องนี้คงต้องวานคุณหมอผู้เชี่ยวชาญรักษาโรคตับ รศ. นพ. พูลชัย จรัสเจริญวิทยา ภาควิชาอายุรศาสตร์ สาขาวิชาโรคระบบทางเดินอาหาร คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ช่วยไขทุกข้อสงสัยให้ได้เข้าใจกัน
คุณหมอ : พฤติกรรมการดื่มในทุกวันศุกร์ เสาร์ หรือ อาทิตย์ ของวัยรุ่นและวัยทำงานนั้นถือว่าเสี่ยงและอันตรายได้เหมือนกัน เพราะการดื่มแอลกอฮอล์ปริมาณมาก ๆ ในช่วงระยะเวลาอันสั้น นอกจากจะทำให้ตับอักเสบจนตับแข็งได้แล้ว มันยังส่งผลไปถึงการทำงานของสมอง สายตา หัวใจ และอวัยวะต่าง ๆ ทำให้เกิดการตัดสินใจผิดพลาดทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ สรุปแล้ว ไม่ว่าจะดื่มมาก ดื่มน้อย จะหนักจะเบาก็เป็นการทำลายตับและตับก็ทำงานหนักอยู่ดีครับ
คุณหมอ : การดื่มเพื่อเข้าสังคม มักเป็นการดื่มที่ทุกคนคิดว่าจำเป็น แต่จริง ๆ แล้วพฤติกรรมแบบนี้ไม่จำเป็นต้องเข้าหาด้วยการดื่มนะครับ เพราะการดื่มแบบนี้มันส่งผลต่อร่างกายได้เช่นกัน ไม่ว่าจะในปริมาณที่มากหรือน้อย เกิดบางคนอ้างว่า ต้องเข้าสังคมเกือบทุกวันก็ต้องดื่มสิ ดื่มน้อย ๆไม่เป็นไรหรอกมั้ง แต่การกระทำแบบนั้นแหละครับที่แอลกอฮอล์ค่อยๆทำร้ายตับของเราไปเรื่อย ๆ จนสุดท้ายตับก็ไม่สามารถจะฟื้นฟูตัวเองได้อีกเพราะไม่ได้พักเลย ทำงานหนักตลอด มันก็เกิดผลเสียต่อร่างกายได้ครับ
สายเมาตามเทศกาล : ปกติไม่ดื่มเลย จะดื่มก็แค่ช่วงทุกเทศกาลเอง เช่น ปีใหม่ สงกรานต์ เลี้ยงรุ่น งานแต่งเพื่อน เพราะถ้าขาดเหล้าก็เหมือนขาดอะไรไป นาน ๆ ทีแบบนี้ จะเป็นอันตรายไหมครับ ?
คุณหมอ : พฤติกรรมแบบนาน ๆ ดื่มทีตามเทศกาล แต่พอได้ดื่มก็จัดหนักกัน เพราะคิดว่านาน ๆ ทีขอหน่อย ก็ไม่ต่างกันกับพฤติกรรมอื่นเท่าไหร่ครับ เพราะเมื่อนาน ๆ ดื่มที ตับของเราที่เคยแข็งแรง พอแอลกอฮอล์เข้าสู่ร่างกายปุ๊บ ก็ไปทำลายตับของเราทันที และยิ่งในปริมาณมาก ๆ ก็จะยิ่งเป็นผลเสียกับตับและส่วนอื่นๆในร่างกาย ไม่ว่าจะทิ้งหรือเว้นช่วงไปนานขนาดไหน ถ้าเจ้าแอลกอฮอล์เข้าสู่ร่างกายเมื่อไหร่ก็ถือว่าเป็นอันตรายอยู่ดีครับ ฉะนั้นไม่ว่าจะดื่มแบบไหน ก็มีค่าเท่ากันคือไปทำลายตับของเรา
คุณหมอ : ถ้ามีการได้หยุดดื่มหรืออย่างน้อยแค่ "หยุดพัก" ให้เซลล์ตับได้พักฟื้น ได้พัฒนาเซลล์ใหม่ๆขึ้นมาทดแทน ซึ่งมันสามารถฟื้นฟูได้จริง ๆ เช่นคนไข้ที่มารับการผ่าตัดเนื้องอกในตับ โดยต้องผ่าตัดตับส่วนปกติที่อยู่รอบเนื้องอกออกด้วย พบว่าภายหลังการผ่าตัด ตับสามารถงอกใหม่ได้ ฉะนั้นตับเรารักษาตัวเองได้แน่นอน และการหยุดดื่มก็จะเป็นการรักษาที่ดีที่สุดครับ
ขอขอบคุณ คุณหมอ
รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ พูลชัย จรัสเจริญวิทยา
ภาควิชาอายุรศาสตร์ สาขาวิชาโรคระบบทางเดินอาหาร คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล