(1) คุยเรื่องเพศเพื่ออะไร เรื่องนี้มีความสำคัญอย่างไร ?
เพื่อให้ผู้ปกครองรู้เป้าหมายและมีทิศทางในการคุยเรื่องเพศกับเด็ก คนเป็นพ่อแม่ควรสำรวจตัวเองและมีคำตอบที่ชัดเจนก่อน ว่าทำไมจึงต้องคุยเรื่องนี้ เรื่องเพศสำคัญกับเด็ก รวมถึงตัวเราอย่างไร แล้วถ้าเราไม่คุยเรื่องนี้จะเกิดอะไรขึ้นกับเด็กหรือครอบครัวเราบ้าง
เพื่อให้ผู้ปกครองรู้เป้าหมายและมีทิศทางในการคุยเรื่องเพศกับเด็ก คนเป็นพ่อแม่ควรสำรวจตัวเองและมีคำตอบที่ชัดเจนก่อน ว่าทำไมจึงต้องคุยเรื่องนี้ เรื่องเพศสำคัญกับเด็ก รวมถึงตัวเราอย่างไร แล้วถ้าเราไม่คุยเรื่องนี้จะเกิดอะไรขึ้นกับเด็กหรือครอบครัวเราบ้าง
(2) มุมมองที่มีต่อเรื่องเพศเป็นอย่างไร ?
การสื่อสารเรื่องอ่อนไหวอย่างเรื่องเพศศึกษาที่เกี่ยวพันกับความคิด ความเชื่อ ทัศนคติ อคติ ค่านิยม สถานะ ประสบการณ์ และข้อมูลของแต่ละฝ่าย ถ้าเรารู้เขารู้เรา รู้ว่าตัวเองมีมุมมองเรื่องนี้อย่างไร และเด็กมองเรื่องนี้อย่างไร มองในแง่บวกหรือลบ ก็เท่ากับจะช่วยให้เรามีทิศทางตั้งต้นในการคุยอย่างรู้เท่าทัน ไม่เอาอคติมาปิดกั้น
ความสัมพันธ์กับลูกหลานนั้นสนิทหรือห่างเหิน ? ถ้าความสัมพันธ์ไม่เป็นไปในเชิงบวก อาจทำให้การคุยเรื่องเพศเป็นเรื่องยากขึ้น ก่อนคุยเรื่องนี้ผู้ใหญ่ต้องปรับความสัมพันธ์ให้เป็นเชิงบวก ด้วยการสร้างความเป็นมิตรก่อน อาจใช้เทคนิคสร้างความสัมพันธ์ไปสักระยะก่อน เช่น เริ่มเป็นผู้ฟังที่ดี ไม่ตัดสินและยอมรับฟังเหตุผล
(4) ข้อมูลเรื่องเพศเชิงบวกหาได้จากที่ไหน ?
เราอาจไม่จำเป็นต้องรู้ทุกคำตอบที่เด็กถาม เพราะกระบวนการเรียนรู้ร่วมกันสำคัญกว่า แต่ก่อนที่จะเรียนรู้และหาคำตอบร่วมกันได้ เราต้องรู้ด้วยว่าแหล่งข้อมูลเรื่องเพศเชิงบวกและข้อมูลที่ถูกต้องนั้นอยู่ที่ไหน มาจากใคร และหาเจอได้อย่างไร