x close

หญิงราชบุรี คลอดลูก 7 เดือน ติด ไข้หวัด2009 เสียชีวิตแล้ว

ไข้หวัดใหญ่ 2009
ไข้หวัด2009 swine flu h1n1



หญิงตั้งครรภ์ติดหวัดรักษาที่รพ.จุฬาเสียชีวิตแล้ว (คมชัดลึก)

          เมื่อเวลา 19.20 น.วันที่ 31 ก.ค.นายมานิต นพอมรบดี รมช.สธ เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากนายจินดา เปียถนอม อายุ 36 ปี สามีผู้ติดเชื้อไข้หวัด 2009 ซึ่งเป็นหญิงตั้งครรภ์ผ่าคลอดและทารกติดเชื้อจากแม่ ได้เสียชีวิตแล้วที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โดยนายจินดาได้รับแจ้งการเสียชีวิตจากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์  และไม่อนุญาตให้ผ่าศพพิสูจน์อีกครั้งเนื่องจากสงสารภรรยา

          ด้าน ศ.นพ.อดิศร ภัทราดูลย์ ผอ.โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ กล่าวว่า หญิงที่คลอดลูกวัย 26 ปีที่ติดเชื้อไข้หวัด 2009 ซึ่งถูกส่งตัวมาจากโรงพยาบาลราชบุรีเข้ามารักษาตัวที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เสียชีวิตแล้วเมื่อเวลา 16.00 น. ด้วยภาวะปอดถูกทำลาย หลังจากส่งเข้ามารับการรักษาที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ได้ 1 สัปดาห์ ขณะนี้คณะแพทย์ จุฬาฯ ได้พยายามเจรจากับญาติผู้เสียชีวิต เพื่อขอผ่าพิสูจน์ศึกษารอยโรคเป็นวิทยาทานให้แก่วงการแพทย์ไทย

          ขณะที่ นายแพทย์ไพจิตร์  วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับกรณีหญิงอายุ 16 ปีตั้งครรภ์ได้ 6 เดือนและแท้งหลังมีไข้ ที่กำลังรักษาตัวในโรงพยาบาลมหาราช จ.นครราชสีมา ว่า ได้รับรายงานผลการตรวจยืนยันเชื้อทางห้องปฏิบัติการด้วยวิธีพีซีอาร์ 2 ครั้ง พบไม่ได้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 โดยหญิงรายดังกล่าว มาด้วยอาการไข้ ไอ หอบ ส่งตัวมาจากโรงพยาบาลด่านขุนทด จ.นครราชสีมาเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2552 ถึงโรงพยาบาลมหาราช แพทย์ตรวจพบปอดอักเสบทั้ง 2 ข้าง ใส่เครื่องช่วยหายใจ รับตัวไว้รักษาในห้องไอซียู และเริ่มให้ยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์และยาปฏิชีวนะในวันเดียวกัน ต่อมาวันที่ 28 กรกฎาคม 2552 เวลาประมาณ 06.00 น. ได้แท้งลูก อาการล่าสุดวันนี้ยังมีไข้ ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา แพทย์วินิจฉัยว่าเป็นปอดอักเสบ ซึ่งมีสาเหตุได้ทั้งจากเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัส 

          นายแพทย์ไพจิตร์กล่าวต่อว่า ขณะนี้ กระทรวงสาธารณสุข ได้ให้สถานพยาบาลทั่วประเทศปรับยุทธศาสตร์ในการดูแลหญิงตั้งครรภ์ โดยให้ อสม.และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในสถานีอนามัย ออกเยี่ยมหญิงตั้งครรภ์ที่บ้าน พร้อมให้การดูแลและคำแนะนำการปฏิบัติตัว โดยขอให้หลีกเลี่ยงการไปเยี่ยมผู้ป่วยอื่นๆ ในโรงพยาบาล หากมีผู้ป่วยไข้หวัดอยู่ในบ้าน ขอให้ใส่หน้ากากอนามัย หลีกเลี่ยงการคลุกคลีกับผู้ป่วย และหากมีอาการป่วยอย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้คือ มีไข้ ไอ มีน้ำมูก ปวดเมื่อยร่างกาย ท้องเสีย อาเจียน ขอให้รีบไปโรงพยาบาลทันที ไม่ต้องรอดูอาการหรือซื้อยากินเอง เพราะการพบแพทย์เพื่อตรวจรักษาและรับยาต้านไวรัสเร็ว จะเป็นผลดีต่อทั้งแม่และเด็ก โดยผลการศึกษาทั่วโลก ยืนยันตรงกันว่ายาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์มีความปลอดภัย ไม่มีผลเสียต่อเด็กในครรภ์ และทำให้การตั้งครรภ์ดำเนินต่อไปได้จนถึงคลอด


ขอขอบคุณข้อมูลจาก


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
หญิงราชบุรี คลอดลูก 7 เดือน ติด ไข้หวัด2009 เสียชีวิตแล้ว อัปเดตล่าสุด 31 กรกฎาคม 2552 เวลา 21:00:30
TOP