x close

ไข้หวัด 2009 ยังไม่สิ้นฤทธิ์ ปีนี้ตายแล้ว 6

ไข้หวัดใหญ่ ไข้หวัด2009



หวัด 2009 ยังไม่สิ้นฤทธิ์ตายแล้ว 6 (ไทยโพสต์)

          หวัด 2009 ยังไม่สิ้นฤทธิ์ กรมควบคุมโรคเผยในปี 54 มีสัดส่วน 60% ของโรคหวัดทั้งหมด เสียชีวิตแล้ว 6 ราย เหตุชะล่าใจไม่ดูแลตัวเอง ขณะที่การฉีดวัคซีนฟรี 2 ล้านโดส  มีผู้มาขอรับบริการไม่ถึงครึ่ง หรือมีเพียงแค่ 38.9%

         "หมอประเสริฐ" เตือนคนวัยทำงานมีโอกาสเสี่ยงมากกว่ากลุ่มอื่น หน้าฝนน่ากลัวที่สุด ร่วมกับกับมูลนิธิส่งเสริมการศึกษาไข้หวัดใหญ่ จัดกิจกรรมรณรงค์ “ถกแขนสู้ไข้หวัดใหญ่” ให้ประชาชนตื่นตัวในการดูแลสุขภาพ เข้ารับการฉีดวัคซีน

          บริเวณถนนสีลม เมื่อ เวลา 11.00 น. ศ.เกียรติคุณ นพ.ประเสิรฐ ทองเจริญ ประธานมูลนิธิส่งเสริมการศึกษาไข้หวัดใหญ่ และ นพ.มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกันแถลงข่าวโครงการถกแขนสู้ไข้หวัดใหญ่ เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนตระหนักถึงการดูแลตัวเองจากโรคไข้หวัดใหญ่โดยเฉพาะใน ช่วงฤดูฝน โดย นพ.มานิตกล่าวว่า จากข้อมูลของสำนักโรคระบาดเมื่อวันที่ 13 ก.ค.2554 พบผู้ป่วยเป็นโรคไข้หวัดทุกประเภทจำนวนกว่า 16,000 ราย จากการตรวจสอบพบว่ากว่าร้อยละ 60 เป็นไข้หวัดใหญ่สาย พันธุ์ 2009 แต่อาการไม่รุนแรงมาก เนื่องจากการระบาดในช่วงที่ผ่านมาทำให้ ร่างกายคนเรามีภูมิคุ้มกันมากขึ้น อย่างไรก็ตาม โรคดังกล่าวยังส่งผลกระทบให้มีผู้เสียชีวิตสะสมทั้งหมด 6 ราย

          นพ.มานิต กล่าวต่อว่า ขณะนี้กรมควบคุมโรคและสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้ดำเนินการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ฟรีให้แก่ประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มสี่ยง 6 กลุ่ม คือ ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัวเรื้อรัง หญิงตั้งครรภ์ เด็ก เด็กอายุตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 2 ปี กลุ่มคนอ้วน ผู้พิการทางสมอง รวมถึงกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ และกลุ่มบุคคลที่มีความเสี่ยงสัมผัสกับเชื้อโรคดังกล่าวเป็นพิเศษ จำนวน 2 ล้านโดส ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.–31 ส.ค. 2554 โดยผู้ที่มีความประสงค์จะรับวัคซีนดังกล่าวสามารถไปขอรับฟรีได้ที่ รพ.ของรัฐทุกแห่ง ซึ่งจากการเปิดให้บริการที่ผ่านมามีผู้มาขอรับการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัด ใหญ่แล้วจำนวน 917,244 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 38.9 ของกลุ่ม เป้าหมาย โดยในจำนวนนี้แบ่งออกเป็นภาคกลาง จำนวน 241,726 ราย ภาค ตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 284,574 ราย ภาคเหนือ จำนวน 214,621 ราย ภาคใต้ จำนวน 133,549 ราย และใน กทม.จำนวน 42,774 ราย

          ด้าน ศ.เกียรติคุณ นพ.ประเสิรฐ ทองเจริญ กล่าวว่า เชื้อโรคที่เป็นพาหะของโรคไข้หวัดใหญ่มีการเปลี่ยนแปลงตัวเองอยู่ตลอดเวลา เพื่อความอยู่รอด ทำให้พบการเกิดโรคในทุกๆ ปี แต่ไม่ถึงกับเป็นการระบาด ซึ่งในประเทศไทยจะพบการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ 2 ช่วงคือ หน้าหนาว ประมาณเดือน ม.ค.- ก.พ. และหน้าฝนประมาณเดือน มิ.ย.-ต.ค. ดังนั้น จึงควรป้องกันตัวเองไว้ตั้งแต่ยังไม่เริ่มมีการระบาดโดยการฉีดวัคซีน และทำตัวเองให้มีสุขภาพที่แข็งแรงอยู่เสมอ โดยเฉพาะในกลุ่มคนวัยทำงานที่ต้องมีการพบปะผู้คนเป็นจำนวนมาก จึงมีความเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อโรคมากกว่า

          ทั้งนี้ จากการระบาดของโรคครั้งที่ผ่านมาทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนหนึ่งซึ่งเกิดจาก ภาวะแทรกซ้อนจากการเป็นโรคดังกล่าว สะท้อนให้เห็นว่าประชาชนละเลยที่จะดูแลตัวเอง เพราะคิดว่าไม่เป็นไร จึงซื้อยามารับประทานเอง ดังนั้นทางมูลนิธิส่งเสริมการศึกษาไข้หวัดใหญ่จึงจัดกิจกรรม ถกแขนเสื้อสู้ไข้หวัดใหญ่ เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักถึงความน่ากลัวของโรค และหันมาดูแลสุขภาพตนเอง พร้อมกับไปรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคดังกล่าวตามที่กรมควบคุมโรคได้จัด เตรียมไว้







ขอขอบคุณข้อมูลจาก

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ไข้หวัด 2009 ยังไม่สิ้นฤทธิ์ ปีนี้ตายแล้ว 6 อัปเดตล่าสุด 16 ธันวาคม 2556 เวลา 17:32:49
TOP