สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก มติชนออนไลน์
สะอาด สุขภาพแข็งแรง "หมัดเด็ด"พิชิตหวัดใหญ่ 2009 (คมชัดลึก)
ในรอบเพียงแค่ 1 เดือนที่ผ่านมา นับตั้งแต่ 12 พฤษภาคม - 12 มิถุนายน กระทรวงสาธารณสุขของไทย ประกาศขึ้นทะเบียนผู้ป่วยที่ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 จำนวน 89 ราย และล่าสุดวันนี้ พบเพิ่มอีก 17 ราย รวมเป็น 106 รายแล้ว และคาดว่าจะมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก!!
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทำให้คนไทยหันมาตื่นตัวรับกระแสไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่มากขึ้น ขณะเดียวกัน กระทรวงสาธารณสุขก็มีมติยุบศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข เปลี่ยนเป็น "ศูนย์อำนวยการปฏิบัติการควบคุมป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่" เพื่อเพิ่มความเข้มข้นการควบคุมโรคในพื้นที่ที่มีการระบาดแล้วให้แคบที่สุด เนื่องจากเป็นฤดูกาลระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ปกติด้วย
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข จะรายงานสถานการณ์การระบาดของโรคประจำวัน วันละ 1 ครั้ง ผ่านสื่ออย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนี้ได้จัดทำแนวทางปฏิบัติสำหรับโรงเรียน โรงงาน สถานบริการต่างๆ สถานบันเทิง เรือนจำ ซึ่งเป็นจุดเสี่ยงที่จะเกิดการระบาดของโรค เพื่อใช้เป็นคู่มือดำเนินการเป็นแนวทางเดียวกันทั่วประเทศ โดยจะเร่งให้เสร็จในวันที่ 15 มิถุนายนนี้ เพื่อให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง ไม่ตื่นตระหนก แต่ตระหนักในการดูแลป้องกันตนเองให้ปลอดจากโรค
"ขณะนี้กรมควบคุมโรคมียาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์อยู่ในสต๊อค 4.2 แสนชุด โดยองค์การเภสัชกรรม (อภ.) สามารถผลิตได้จำนวน 1 แสนชุด เพื่อให้มีความมั่นใจว่า หากเกิดอาการป่วยจะมียารักษา และสั่งจองวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2 ล้านชุด ซึ่งคาดจะผลิตเสร็จในเดือนตุลาคมนี้ และจะได้รับวัคซีนในเดือนมีนาคม 2553" รมว.สาธารณสุข กล่าว
สำหรับวิธีการปฏิบัติตัวให้ห่างไกลโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ที่ทุกคนทำได้คือ เมื่อรู้ตัวว่าเจ็บป่วยหรือเป็นไข้หวัดควรพักรักษาตัว พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมากๆ และพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยโรค และควรสวมหน้ากากอนามัยป้องกันการแพร่เชื้อ เพื่อป้องกันไม่ให้แพร่เชื้อไปยังบุคคลอื่น ล้างมือบ่อยๆ โดยเฉพาะหลังไอ จาม และหลีกเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้อื่น แต่หากอาการป่วยรุนแรงขึ้น เช่น ไข้สูง หรือไอมาก หรือหายใจลำบาก ให้ไปพบแพทย์
ในส่วนของสถานประกอบการ เช่น ผับ ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า ฯลฯ ควรล้างแอร์ และทำความสะอาดร้านอย่างสม่ำเสมอ เพราะนอกจากจะยับยั้งเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 แล้ว ยังสามารถฆ่าเชื้อโรคอื่นๆ ได้อีกด้วย อย่างไรก็ดีพึงระลึกอยู่เสมอว่าเชื้อโรคจะแพร่กระจายได้รวดเร็วหรือไม่นั้นขึ้นอยู่ที่การระแวดระวังตัว หากอยู่ในที่โล่ง ไม่แออัด อากาศถ่ายเทสะดวกก็จะปลอดภัยกว่า และหากต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม โทร 0-2590-3333 สายด่วนหน่วยเคลื่อนที่เร็วให้การช่วยเหลือของกระทรวงสาธารณสุข
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
