เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
ตำรวจให้ระวังวัยรุ่นใช้ยา Tramadol ผสมโค้กเป็นยาเสพติดฤทธิ์เท่าฝิ่น ส่งผลอันตรายต่อระบบประสาท ขณะเดียวกันเร่งกวาดล้างอาชญากรรมช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
วันนี้ (4 ธันวาคม) พล.ต.ต.ธนา ชูวงศ์ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กล่าวว่า ที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) ให้ทุกหน่วยเฝ้าระวัง หลังสำนักประชาสัมพันธ์เขต 3 (ลำปาง) แจ้งว่า มีกลุ่มวัยรุ่นในภาคเหนือใช้ยาแก้ปวด Tramadol ที่มีขายตามร้านขายยาทั่วไปในทางที่ผิด ซึ่งยาดังกล่าวมีฤทธิ์คล้ายมอร์ฟีน แก้อาการปวดในระดับกลางถึงรุนแรง โดยลักษณะการใช้ คือ กินยาพร้อมกับโค้ก เครื่องดื่มชูกำลัง หรือกินกับน้ำร้อน ทดแทนอาการเมาฝิ่น
ในเบื้องต้นพบว่า หากใช้ยาแก้ปวดชนิดดังกล่าวในปริมาณมากเกินความจำเป็น หรือนำมาผสมกับแอลกอฮอล์ จะเป็นอันตรายต่อระบบประสาท ซึ่ง พล.ต.อ. อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ทุกหน่วยเฝ้าระวัง โดยเฉพาะกลุ่มคนต่างชาติที่มาท่องเที่ยว และให้ตรวจสอบแหล่งชุมชนในเมืองใหญ่ ทั้งนี้ ขอให้ผู้ปกครองทราบ และดูแลบุตรหลานของตนในเรื่องการใช้ยาแก้ปวดด้วย
ขณะเดียวกัน พล.ต.ต.ธนา ได้กล่าวสรุปผลการประชุมภายหลังการประชุมศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่ง ชาติ (ศปก.ตร.) ร่วมกับ บช. ทุกหน่วยผ่านวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ว่า เนื่องจากในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่เป็นช่วงฤดูกาลของการท่องเที่ยวของทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ดังนั้น อาจมีแนวโน้มการเกิดปัญหาอาชญากรรมมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
ดังนั้น พล.ต.อ.อดุลย์ จึงสั่งกำชับให้แต่ละหน่วยงาน เน้นย้ำมาตรการ 4 ด้าน คือ อาชญากรรม, ยาเสพติด, การดูแลนักท่องเที่ยว และคำนึงถึงยุทธวิธีการจับกุมคนร้ายที่ใช้อาวุธในการก่อเหตุ โดยสั่งการให้ น. บช.ภ. 1-9 ระดมกวาดล้างอาชญากรรม ยาเสพติด อบายมุข บ่อนการพนัน สถานบริการ และให้ บช.ก., ปส. และ ตชด. ดำเนินการปราบปรามการกระทำความผิดที่มีลักษณะชัดแจ้งอย่างเข้มงวด เช่น เหตุที่เกิดจากฝีมือของผู้มีอิทธิพล
ด้าน พ.ต.อ.อนุชา รมยะนันท์ รองโฆษก ตร. กล่าวเสริมว่า ในรอบสับดาห์ที่ผ่านมา มีเหตุการณ์กลุ่มวัยรุ่นใช้รถจักรยานยนต์ในการก่อเหตุอาชญากรรมเป็นจำนวนมาก ดังนั้น จึงมีการกำชับแผนการป้องกันล่วงหน้า โดยให้เจ้าหน้าที่แสวงหาความขัดแย้งแต่ละกลุ่มบุคคล เพื่อยื่นเรื่องเสนอ บก.ภ.จว. และเสนอจังหวัด เพื่อตั้งเป็นกองอำนวยการร่วมกำหนดพื้นที่ปฏิบัติการ
นอกจากนี้ ยังพบว่า มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศไทยเพิ่มขึ้น จึงสั่งการให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ขึ้นบัญชีดำกลุ่มแก๊งต่างชาติที่มีพฤิตกรรมเป็นมาเฟีย โดย พล.ต.อ.อดุลย์ ผบ.ตร. ยังได้เสนอให้ ศูนย์ฝึกอบรม (ศฝร. ) แต่ละ บช. พัฒนาหน่วยงานของตนให้เป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านด้วย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
